หลังจากที่พระเทพญาณมหามุนี หรือ “พระธัมมชโย” ไม่มาพบพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตามหมายเรียกครั้งที่ 2 ในวันที่ 25 เมษายน 2559 เวลา 9.00 น. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พนักงานอัยการ และที่ปรึกษาคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขออนุมัติออกหมายจับพระธัมมชโย
ช่วงเช้าของวันที่ 26 เมษายน 2559 นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของพระธัมมชโย เดินทางไปศาลอาญา เพื่อยื่นคำร้องคัดค้าน กรณีพนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขออนุมัติออกหมายจับพระธัมมชโย ปรากฏว่าศาลอาญายกคำร้องของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากพระธัมมชโยไม่มีเจตนาหลบเลี่ยง หรือประวิงเวลา ไม่มาพบพนักงานสอบสวน
จากนั้น พ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางกลับมาประชุมคณะพนักงานสอบสวน เพื่อกำหนดวันออกหมายเรียกพระธัมมชโยมารับทราบข้อกล่าวหาอีกเป็นครั้งที่ 3 ภายใน 15 วัน ล่าสุดมีรายงานข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวน มีมติให้กรมสอบสวนคดีพิเศษออกหมายเรียกพระธัมมชโยมารับทราบข้อกล่าวครั้งที่ 3 วันที่ 16 พฤษภาคม 2559 เวลา 9.00 น.
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าของวันที่ 26 เมษายน 2559 ระหว่างที่ทีมทนายความของวัดพระธรรมกาย เดินทางไปยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลอาญา พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 พร้อมภาพถ่ายอาการอาพาธของพระธัมมชโยมีอาการจริง จึงทำหนังสือขอเลื่อนนัดดีเอสไอ โดยเฉพาะกรณีที่ดีเอสไอมีความเห็นว่า “พระธัมมชโยมีการเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ ได้เป็นปกติ” นั้น วัดพระธรรมกายขอชี้แจงดังนี้
1. การเลื่อนนัดครั้งที่ 1 เนื่องจากติดศาสนกิจ โครงการอบรมและบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน 100,000 รูป ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 22 เมษายน 2559 และพิธีตักบาตรพระภิกษุสามเณร 100,000 รูป ในวันที่ 22 เมษายน 2559
2. กรณีเลื่อนนัดครั้งที่ 2 นี้ เป็นเพราะอาการอาพาธปรากฏตามใบรับรองแพทย์จากคลินิกแพทย์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรับรองอาการป่วยถึง 4 ท่าน ประกอบด้วยนายแพทย์ชูชัย แพทย์ผู้ตรวจ ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ครอบครัว และยังมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอีก 3 ท่าน ได้แก่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม, แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฉุกเฉิน, แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีวินิจฉัย ลงความเห็นตรงกันในอาการป่วยของพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) ว่าให้งดภารกิจ 15 วัน ซึ่งหลวงพ่อธัมมชโยก็ปฏิบัติตามวินิจฉัยของคณะแพทย์ทุกประการ
3. ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2559 เป็นต้นมา พระเทพญาณมหามุนีไม่ได้ออกไปปฏิบัติกิจใดๆ เลย เนื่องจากอาการเวียนศรีษะ บ้านหมุนรุนแรงเฉียบพลัน มีปัญหาในการทรงตัว และมีอาการปวดหลัง ปวดขาซ้าย เนื่องจากกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง ประกอบกับมีอาการเจ็บป่วยเรื้องรังและรุนแรงจากโรคเบาหวาน ภูมิแพ้ เส้นเลือดอุดตันที่โคนขาซ้ายมีแผลติดเชื้อที่เท้าเรื้อรัง ดังที่ยื่นต่อดีเอสไอ โดยมอบให้พระสงฆ์ในวัดออกเทศน์สอนและนำนั่งสมาธิแทนมาโดยตลอด จึงทำหนังสือขอเลื่อนการมาพบดีเอสไอ(พร้อมส่งภาพประกอบอาการป่วยทั้งแผลติดเชื้อที่โคนขาเรื้อรัง เท้าที่เป็นแผล อาการขาบวมที่ต้นขา)
4. กรณีอาการป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ถูกต้อง ทางดีเอสไอใช้ดุลยพินิจปฏิเสธการเลื่อนโดยไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง เพราะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่รับผิดชอบคดีนี้เคยพบเห็นอาการของหลวงพ่อธัมมชโย และรู้อยู่ว่าอาการป่วยของหลวงพ่อธัมมชโยไม่สามารถเดินทางไปดีเอสไอได้อย่างแน่นอน การใช้ดุลยพินิจของดีเอสไอในครั้งนี้เป็นการใช้กฎหมายละเมิดสิทธิของผู้ป่วยหรือไม่
อ่านเพิ่มเติม: ซีรีย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
