ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: ฮือฮาบริการใหม่ “ซัก-อบ-รีด” 24 ชม. ในเซเว่นฯ – “ประยุทธ์” ประเดิม ม.44 กำจัดหวยแพง มิ.ย. นี้

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: ฮือฮาบริการใหม่ “ซัก-อบ-รีด” 24 ชม. ในเซเว่นฯ – “ประยุทธ์” ประเดิม ม.44 กำจัดหวยแพง มิ.ย. นี้

18 เมษายน 2015


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 12-18 เมษายน 2558

  • ฮือฮาบริการใหม่ “ซัก-อบ-รีด” 24 ชม. ในเซเว่นฯ
  • “ประยุทธ์” ประเดิม ม.44 กำจัดหวยแพง มิ.ย. นี้
  • รร. ให้ปักเกรดที่เสื้อกระตุ้นตั้งใจเรียน สพฐ. สั่งเลิกแล้ว
  • จับแล้ว! หนุ่มใหญ่ฆาตกรรมสยองสาวบาร์เชียงใหม่
  • ตุ๊กกี้ช่วยสาวเมาไม่ได้สติถูกทิ้ง-โพสต์จวกคนทิ้งเพื่อน

ฮือฮาบริการใหม่ “ซัก-อบ-รีด” 24 ชม. ในเซเว่นฯ

washingmach
ที่มาภาพ: https://twitter.com/Khun_Su/status/588027968162811904

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2558 โลกออนไลน์ทั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์มีการแชร์ภาพ จากผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง เป็นภาพ “ตู้ซัก-อบ-รีด” ซึ่งเป็นบริการซักอบรีดตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งอยู่ในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาสีลม ซอย 9 ภายหลังเกิดการเผยแพร่ภาพในวงกว้าง ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหลายรายจึงเกิดการตั้งคำถามว่า หากมีการขยายสาขาในการให้บริการซักอบรีดนี้ จะมีผลกระทบต่อผู้ค้ารายเล็กหรือไม่

ก่อนหน้านี้ เซเว่น อีเลฟเว่น เคยสร้างปรากฏการณ์ฮือฮา จากการแชร์ภาพของสาขาประชาสงเคราะห์ 23 ที่เปิดบริการขายอาหารตามสั่งในราคาเริ่มต้น 35 บาท เมื่อปลายปีที่แล้ว

“ประยุทธ์” ประเดิม ม.44 กำจัดหวยแพง มิ.ย. นี้

วันที่ 17 เมษายน 2558 เวลา 9.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมกับรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานด้านต่างๆ แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
วันที่ 17 เมษายน 2558 เวลา 9.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมกับรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานด้านต่างๆ แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

หลังมีการประกาศเลิกใช้กฎอัยการศึก และให้ใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 เป็นการทดแทน ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2558 มติชนออนไลน์ ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ตนกำลังคิดและดำเนินการการจำหน่วยล็อตเตอรี่ในราคาฉบับละ 80 บาท ให้ได้โดยใช้มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว แต่บอกไปตอนนี้เดี๋ยวก็จะมีการโวยวายออกมาอีก แต่เราจะใช้กฎหมายมาตรา 44 ไม่เช่นนั้นก็ต้องรอ พ.ร.บ.กองสลากและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

“ผมต้องการให้ต้นทางออกมาในราคานี้ แล้วไปรับได้สองที่ คือที่จังหวัด และที่ส่วนกลางคือที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็ต้องไปตั้งกลุ่มจดทะเบียนให้เรียบร้อยขายบ้าง ใครจะขายปลีก ขายส่ง ไม่ต้องเข้ามาซื้อที่กรุงเทพฯ เพียงอย่างเดียว” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำสั่งออกมาในเรื่องของการจำกัดราคาขายล็อตเตอรี่ใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้ได้ก่อนคือการจัดตั้งกลุ่มและจดทะเบียนช่วงที่รอกฎหมาย เพราะส่วนหนึ่งจะหมดโควตาลง ซึ่งก็จะได้ใช้ส่วนตรงนี้ไปเริ่มดำเนินการเกลี่ยใหม่ จากนั้นในเดือนกันยายนจะหมดโควตาอีกงวดหนึ่งก็จะปรับอีกรอบซึ่งถือว่าโควตาเดิมจะไม่เหลือแล้วก็จะมีการปรับอีกรอบ ก็มาคิดว่าทำอย่างไรจะให้ราคาขายอยู่ที่ฉบับละ 80 บาท แล้วต้นทางควรจะจำหน่ายในราคาเท่าไหร่ คนขายมีกำไรเท่าไหร่สำหรับผู้ที่เดินขาย ในต่างจังหวัดจะให้ได้กำไรฉบับละ 10 บาทได้หรือไม่

“ความจริงผมอยากบอกว่าโควตา 5 เสือนั้นก็ไม่ใช่โควตาทั้งหมด เป็นเพียงโควตาส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ขายกันไป-มาปัญหาของเราคือข้างล่างเมื่อขายไม่หมดก็ไม่มีเงินที่จะรับซื้อรัฐมีเงินรับซื้อคืนแต่กฎหมายไม่มีก็ต้องไปแก้กฎหมายให้สามารถรับซื้อคืนได้จากรายย่อย ที่ผ่านมาผู้ค้ารายย่อยเมื่อซื้อไปขายแล้วขายไม่หมดคืนก็ไม่ได้ง่ายที่สุดก็คือขายคืนไปที่กลุ่ม 5 เสือ กลุ่ม 5 เสือก็มาตั้งราคาใหม่แล้วขายออกไปก็เกินฉบับละ 80 บาททั้งหมด” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

พล.อ. ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากฎหมายปกติใช้ไม่ได้และไม่ทันต่อการแก้ไขสถานการณ์และราคาฉบับละ 80 บาท เพราะติดขัดเนื่องจากไม่มีกฎหมายกำหนดว่าต้องมีเงินของรัฐในการรับซื้อคืนจากผู้ค้ารายย่อย ในส่วนของผู้ค้ารายใหญนั้นมีเงินลงทุนอยู่แล้ว

“ดังนั้น เร็วๆ นี้ก็จะมีคำสั่งใหม่ออกมา โดยมีกฎหมายรองรับว่ารัฐสามารถที่จะรับซื้อคืนจากผู้ค้ารายย่อยได้ แต่จะไม่สามารถไปขายคืนกลับให้ 5 เสือได้แล้ว จะต้องมีการปั๊มให้เรียบร้อยเพื่อรู้ว่าเป็นของใคร พวกพ่อค้าปลีก สมาคม ผู้พิการ ถ้ามีการเอาไปขายคืนก็ต้องยึดโควตาคืนคนต้องรักษากติกา คำสั่งที่กำลังจะออกมาใหม่ก็ให้มีการดำเนินการไปตามนี้ คนทำคือบอร์ดล็อตเตอรี่และผู้อำนวยการกองสลากฯ”

เมื่อถามว่าจะทำได้ทันงวดต่อไปหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ทัน แต่ภายในสิ้นเดือนนี้ต้องเตรียมการให้เสร็จ คาดว่าประมาณเดือนมิถุนายน จะสามารถบริหารจัดการให้สามารถจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ในราคาฉบับละ 80 บาท

ผู้สื่อข่าวถามว่าแนวคิดที่จะให้มีการจำหน่ายล็อตเตอรี่ในร้านสะดวกซื้อจะทำทันทีหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ายังไม่เริ่มเพราะยังเริ่มไม่ได้ และการจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อนั้นก็ไม่ใช่เป็นโควตา แต่เป็นการไปจ้างขายเพื่อประชาชนจะได้มีทางเลือก รวมทั้งแนวคิดที่จะขายผ่านเครื่องอัตโนมัติด้วย

รร. ให้ปักเกรดที่เสื้อกระตุ้นตั้งใจเรียน สพฐ. สั่งเลิกแล้ว

118683605
ที่มาภาพ: http://www.dek-d.com/board/view/3486490/

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพเสื้อนักเรียนที่สวมเสื้อของโรงเรียนนาเยียศึกษารัชมังคลาภิเษก จ.อุบลราชธานี โดยมีเลขเกรดเฉลี่ยปักอยู่บนหน้าอกเสื้อด้วย จึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหตุใดจึงให้นักเรียนทำเช่นนี้ เป็นการทำไปเพื่อประจานนักเรียนที่เรียนไม่ดีหรือไม่

โดยไทยรัฐออนไลน์ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า นายกำจัด กุลโชติ รองผู้อำนวยการโรงเรียนนาเยียศึกษา รัชมังคลาภิเษก อุบลราชธานี เปิดเผยว่า การปักเกรดที่หน้าอกเสื้อนักเรียนนั้น ตนเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 ที่โรงเรียนเหล่างามพิทยาคม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีที่มาจากเด็กนักเรียนมีเกรดต่ำจำนวนมาก จึงเสริมแรงจูงใจโดยการให้เด็กตั้งใจเรียน ถ้าพบว่าเทอมถัดมาเกรดพัฒนาขึ้น หากเป็นนักเรียนชายสามารถไว้ผมรองทรงได้เลย และนักเรียนหญิงก็สามารถไว้ผมยาวได้เช่นกันแต่ต้องรวบให้เรียบร้อย ผลปรากฏว่าทั้งโรงเรียนมีนักเรียนที่เกรดพัฒนาขึ้นเป็นจำนวนมาก

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2556 ได้ย้ายมาเป็นรองผู้อำนวยการฯ โรงเรียนนาเยียศึกษารัชมังคลาภิเษก และพบว่าโรงเรียนไม่ผ่านการประเมินจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ซึ่งตนมองเห็นแล้วว่าจะเป็นปัญหาแน่ๆ เพราะอาจกระทบต่อเด็กกู้ยืมเงินเรียน จึงนำมาตรการปักเกรดหน้าอกมาใช้จูงใจเด็กทางอ้อม ซึ่งต้องบอกก่อนว่าแม้จะมีกฎให้นักเรียนไว้ผมยาวได้ตั้งแต่ปี 56 แต่ตอนตนย้ายเข้ามาครูอาจารย์ที่นี่ยังคุมทรงผมอยู่ ตนจึงใช้แรงจูงใจแบบที่เคยทำมาปรับใช้ที่นี่ ผลปรากฏว่าปีที่ผ่านมา โรงเรียนได้รับให้ผ่านการประเมินจาก สมศ. รวมถึงนักเรียนก็มีผลการเรียนดีขึ้นเกินครึ่ง จากนักเรียนทั้งโรงเรียนกว่า 700 คน ถามว่าบังคับปักเกรดไหม ตนตอบเลยว่าไม่ แต่ถ้าตรวจพบว่าผมยาว และไม่มีเกรดปักจะถูกเรียกตรวจทรงผม และขอย้ำอีกครั้งว่า คนที่มีเกรดต่ำ ก็สามารถไว้ผมยาวได้เช่นกัน ถ้าหากว่าเกรดพัฒนาขึ้นอย่างน้อยเทอมละ 0.30

ทว่าล่าสุด เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวสดรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สั่งการให้ ผอ.สพม. เขต 29 อุบลราชธานี แจ้งไปยังโรงเรียนขอให้ยุติการปักเกรดลงบนเสื้อนักเรียน เพราะเห็นว่าการดำเนินการในลักษณะแบบนี้ไม่เกิดประโยชน์ ทั้งนี้หากโรงเรียนต้องการกระตุ้นให้นักเรียนสนใจการเรียน ควรปรับปรุงเรื่องการเรียนการสอนในห้องเรียนมากกว่า หรือหากจะยกย่องนักเรียนที่มีความรู้ความสามารถ ก็ควรประกาศมอบโล่ห์รางวัลเชิดชูนักเรียนแทน

“ผมมองว่าวิธีการลักษณะนี้ไม่ควรทำในโรงเรียน เพราะที่ผ่านมาการปักอักษรบนเสื้อนักเรียนจะมีแค่ชื่อเด็กและเลขประจำตัว หรืออาจปักดาวสำหรับคนที่เป็นประธานนักเรียนเท่านั้น ส่วนการปักเกรดลงบนเสื้อนักเรียนไม่เคยมี และทางโรงเรียนควรจะยุติได้แล้ว เพราะจะยิ่งบั่นทอนกำลังใจของเด็กที่เรียนอ่อนได้เกรดเฉลี่ยต่ำ ทั้งยังเป็นการทั้งสิ้นเปลืองงบประมาณในการปักตัวเลข เพราะเกรดเฉลี่ยของเด็กแต่ละคนมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

จับแล้ว! หนุ่มใหญ่ฆาตกรรมสยองสาวบาร์เชียงใหม่

mng
ที่มาภาพ: http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000043774

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีการแชร์ข่าวเหตุฆาตกรรมหญิงรายหนึ่งซึ่งถูกกระทำอย่างวิตถารจนเสียชีวิต ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานความคืบหน้าว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุม นายภรา ชูศรี อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/59 ม.2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ที่เกสต์เฮ้าส์ โรเบิร์ด ออฟสวิทเซอร์แลนด์ ย่านถนนช้างม่อย ซอย 1 ต.ศรีภูมิ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.166/2558 ลงวันที่ 16 เมษายน 2558 ข้อหามิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายโดยทรมานหรือกระทำทารุณ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน 1 กบ 9021 ชลบุรี โทรศัพท์มือถือซัมซุง สีชมพู 1 เครื่อง เสื้อลายสกอตสีเขียว-ขาว 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาว 1 ตัว รองเท้าผ้าใบไนกี้ สีน้ำเงิน 1 คู่

โดยผู้ต้องหารายนี้ มีเพศสัมพันธ์แบบซาดิสต์ วิตถาร จนทำให้นางสาวสมร คลังเดช อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.9 ต.หัวช้าง อ.จตุรพักรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด พนักงานร้านซูบารุบาร์เบียร์ ย่านถนนลอยเคราะห์ ซอย 3 ก. กลางเมืองเชียงใหม่ เสียชีวิตคาห้องในโรงแรมย่านถนนเจริญประเทศ กลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา

เบื้องต้นผู้ต้องหารับว่า วันเกิดเหตุพบผู้ตายในสถานบริการ จึงชักชวนไปเปิดห้องพักโรงแรมที่เกิดเหตุ และได้ร่วมหลับนอนกัน โดยตนเองได้กินยากล่อมประสาท และให้ผู้ตายกินด้วย ทำให้มีอารมณ์ทางเพศรุนแรง และก่อนหน้านี้ช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาเคยก่อคดีในลักษณะเดียวกันมาแล้วในท้องที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และยังเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไปด้วย

ทั้งนี้ พยานที่เป็นหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเคยตกเป็นเหยื่อเล่าว่า ผู้ต้องหาเป็นชาวชลบุรี ไม่มีงานทำ และจะออกหลอกเหยื่อสาวที่เข้าไปเที่ยวตามสถานบริการกลางคืน โดยเข้าไปตีสนิท ก่อนชวนไปร่วมหลับนอน และจะให้กินยากล่อมประสาท แล้วมีเพศสัมพันธ์ที่ซาดิสต์ทั้งกัดหัวนม หรือใช้ขวดยัดอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือหากหญิงสาวนอนหลับหมดสติก็จะใช้อุบายโทรศัพท์ไปหลอกญาติหญิงสาวว่า เกิดรถเฉี่ยวชน จะต้องชดใช้เงินค่าเสียหาย แต่ทางหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อไม่มีเงิน ให้ญาติโอนเงินมาให้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อว่านายภราน่าจะก่อเหตุมามาก จึงพยายามสอบสวนขยายผลอย่างละเอียด ซึ่งหากหญิงสาวรายใดเคยถูกกระทำให้ไปแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มได้

ตุ๊กกี้ช่วยสาวเมาไม่ได้สติถูกทิ้ง -โพสต์จวกคนทิ้งเพื่อน

tukky
ที่มาภาพ: https://instagram.com/tukky66/

ในช่วงสงกรานต์ ที่ผ่านมา เว็บไซต์สนุก รายงานข่าวความมีน้ำใจของตลกสาวชื่อดัง สุดารัตน์ บุตรพรม หรือรู้จักกันในชื่อ “ตุ๊กกี้ ชิงร้อย” หลังแฟนหนุ่ม “บูบู้ กำธร” มาบอกว่าพบหญิงสาวคนหนึ่งนอนไม่ได้สติอยู่ในงานสงกรานต์ ณ ผับชื่อดังย่านอาร์ซีเอ โดยสาวคนนี้นอนอยู่เพียงลำพังท่ามกลางคนมากมายที่มาเที่ยวงาน ด้วยความเป็นห่วงว่าจะเกิดอันตราย ทั้งคู่จึงพาหญิงสาวคนดังกล่าวกลับไปพักที่บ้าน ระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมดังนี้

“เรื่องเล่าจากภาพ ขณะนี้เป็นเวลา เที่ยงคืนกว่า เสียงผ่านหูจากปากชายชื่อบูบู้ แทรกมากับเพลงที่ดังมากในงานสงกรานต์ยิ่งใหญ่มากแห่งหนึ่ง ว่ามีผู้หญิงนอนอยู่ตรงพื้น ไปดูไหมเดี๋ยวคนเหยียบ ภาพที่เห็นคือ ผู้หญิงสาวหน้าตาดีมาก1คนนอนอยู่ แบบไร้สติ จึงปรึกษาพาน้องกลับบ้าน แต่ปรากฏคือ คำถามเกิดขึ้น 1.คือมากะใคร คำตอบคือไม่มี 2 .บ้านล่ะ ที่ไหน ตอบเลย ไม่รู้

บทสรุปคือ หนูพาน้องกลับไปนอนบ้านหนู แต่ที่โพสต์คือ ไม่ได้จะมาโชว์เหนือใคร แต่จะมาพูดถึง คำว่าเพื่อนรึพวก กรณีนี้ไม่ได้มาคนเดียวแน่นอน งานแบบนี้เค้ามากันเป็นแก๊ง น้องคือผู้หญิงหน้าตาน่ารักมากแต่ถูกเพื่อนปล่อยทิ้งไว้ในงานโดยไม่มีสติและแรงตอบโต้ คุณลองคิดถ้าเค้าเจอคนไม่ดี คิดไม่ดี มันจะเกิดอะไรขึ้น คนมาเที่ยวงานนี้เป็นแสนๆปะปนกันมามากมาย ไม่ได้โชว์ว่ากูทำดี แต่ขอด่าเพื่อนน้องคนนี้ มึงทิ้งเพื่อนได้ไง มาด้วยกันต้องกลับด้วยกัน เมามากก็ต้องช่วยกันกลับอย่างปลอดภัย เพื่อนไม่ห่วงไม่ดูแลกันเหรอ สังคมน่ากลัวต้องดูแลกันซิ คืออะไรทิ้งเพื่อนนอนกับพื้นน้ำที่ดำสกปรกมาก เข้าใจคนเมา แต่เพื่อนเรา ต้องดูแลกัน กูมันมึงมัน มาด้วยกันกลับด้วยกัน อย่างนี้คบไม่ได้แล้วเพื่อนประสาอะไร ฝากทุกคน ที่ต้องเจอเพื่อนประเภทนี้ พิจารณาให้ดี ควรคบต่อรึไม่”

อย่างไรก็ตาม แฟนอินสตาแกรมของสาวตุ๊กกี้ ต่างเข้ามาชื่นชมในความมีน้ำใจของเธอและแฟนหนุ่มอย่างมาก พร้อมบอกว่าผู้หญิงคนนี้โชคดีที่ตุ๊กกี้และบูบู้มาเจอ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายหรือเรื่องร้ายๆ ก็เป็นได้