ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – “ประกาศรายชื่อ ท่อน้ำเลี้ยง กปปส.” และ “ศรส. เข้ายึดพื้นที่ผู้ชุมนุมวันวาเลนไทน์”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – “ประกาศรายชื่อ ท่อน้ำเลี้ยง กปปส.” และ “ศรส. เข้ายึดพื้นที่ผู้ชุมนุมวันวาเลนไทน์”

15 กุมภาพันธ์ 2014


ภาพวิดีโอ ตำรวจบุกค้นบ้านสนธิญาณ
หลุดภาพ ทักษิณ ทำพิธีที่พม่า
ประกาศรายชื่อ ท่อน้ำเลี้ยง กปปส.
ตั้ง อาชีวะ เริงร่า ปล่อยภาพสวีทสาวริมทะเล
ศรส. เข้ายึดพื้นที่ผู้ชุมนุมวันวาเลนไทน์
อ่านต่อ…
.

ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากสุดในโซเชียลมีเดียในรอบสัปดาห์ 9-14 กุมภาพันธ์ 2557

สวัสดีสัปดาห์แห่งความรักและวันสำคัญทางศาสนาที่สำคัญของชาวพุทธ ที่จะได้ใช้ช่วงเวลาวันหยุดยาวพักผ่อนกับครอบครัวและคนที่รักในการทำกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งการออกไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด

แต่ถึงแม้จะเป็นในช่วงเวลาของการพักผ่อน ประเด็นฮอตต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์เมืองไทยก็ยังคงเข้มข้นและเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถานการณ์การเมืองไทย และการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ก็ยังเป็นเรื่องให้ชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กติดตามและพูดถึงอยู่เสมอ

เรื่องแรก จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งนำโดย พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังพร้อมหมายศาลเข้าจับกุมนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ซึ่งเป็น 1 ในแกนนำ กปปส. ที่มีหมายจับ และอดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ภายในร้านอาหารชาบูตง ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ก่อนที่จะนำตัวไปยังกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยที่นายสนธิญาณก็ให้ความร่วมมือในการจับกุมเป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากการจับกุมตัว และส่งเรื่องเพื่อให้ศาลพิจารณา ศาลพิจารณามีความเห็นว่าให้ปล่อยตัวในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 และไม่สมควรให้มีการคุมขังต่อ เพราะเป็นการคุมตัวที่เกินกว่าเหตุ

และเรื่องราวสืบต่อที่ทำให้ชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กมีการพูดถึงกันมาก จากการที่กองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย พร้อมหมายค้น บุกเข้าค้นบ้านของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เวลาประมาณ 06.24 น. ของวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 ขณะที่นายสนธิญาณ ถูกจับกุมตัวอยู่ อีกทั้งยังไม่ได้รับการอนุญาตจากผู้ที่อยู่ภายในบ้าน จนสร้างความตกใจให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้าน โดยที่นางสาวกิ่งการะเกด ชื่นฤทัยในธรรม บุตรสาวของ นายสนธิญาณ ได้ทำการยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน วุฒิสภา เพื่อการตรวจสอบถึงการการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการจับกุม พร้อมมีหลักฐานเป็นภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายในบริเวณบ้านที่มีการบันทึกไว้ ที่แสดงให้เห็นการปฏิบัติงานเพื่อการเข้าค้นบ้านของเจ้าหน้าที่ที่ทำเกินกว่าเหตุ

นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ที่มาภาพ : http://www.matichon.co.thnews_detail.phpnewsid=1370532088&grpid=00&catid=&subcatid=
นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ที่มาภาพ: http://www.matichon.co.thnews_detail.phpnewsid=1370532088&grpid=00&catid=&subcatid=

ทั้งนี้ ตามรายงานข่าวมีการตั้งประเด็นความน่าสงสัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ 2 ประเด็น ได้แก่ 1. การที่มีชายฉกรรจ์ที่ไม่แต่งกายในเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกรุกบ้าน ถือว่าไม่ปกติ 2. ลักษณะการบุกรุกและการพกพาอาวุธของเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเหมือนว่าบุกบ้านคนร้ายหรือบุกจับคดียาเสพติด ซึ่งไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกัน ยังมีการยึดเสื้อเกราะและวิทยุสื่อสารสำหรับการรายงานข่าว ซึ่งพบในรถของนายสนธิญาณ แต่เจ้าหน้าที่กลับแจ้งข้อหาคนขับรถและคนดูแลบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดแปลก

ต่อเรื่องดังกล่าว หลังจากที่มีภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดเผยแพร่ออกมา ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ยังได้กล่าวด้วยว่า ภาพวงจรปิดดังกล่าวเป็นภาพตัดต่อ จนทำให้โลกออนไลน์มีการพูดถึงและพิจารณาถึงวิดีโอดังกล่าวเป็นจำนวนมากเช่นกัน

“พอเจอของจริง ก็ว่าตำรวจปลอม ชาวนาปลอม คลิปตัดต่อ แต่ทำไม คดีขวัญชัย ไม่เห็นบอกทหารปลอมอ่ะ”

“ตอนแรกผมยังมีความเชื่อถือในตำรวจไทยอยู่เล็กน้อย แต่พออ่านข่าวนี้แล้วหมดความเชื่อถือทันที”

“ถ้าเป็นวิดีโอตัดต่อจริง คิดว่าต้องไปจ้างระดับฮอลีวู้ดแน่เลยเพราะตั้งแต่ดูหนังละครไทยมา ไม่เห็นมีใครตัดต่อได้เนียนขนาดนี้เลย เทพจริงๆ ”

“ท่านธาริตต ได้ดูเวลาโฟสคลิปมั๊ยว่ากี่โมง เวลาที่ตำรวจเข้าและออก ถ้าตัดต่อได้เร็วขนาดนี้ เทพมากเลยล่ะ”

“ไปค้นบ้านนายกแบบนี้กันบ้างมั๊ย อยากรู้จังว่าเขาจะสรุปมาว่าเป็นยังไง บุกรุกหรือเปล่านะ”

“การที่บอกว่าตนเองมีหมายค้นจากศาล แล้วจะทำอะไรตามอำเภอใจ เช่น การปีนรั้วเข้าบ้านอันเป็นที่รโหฐานนั้น จะทำได้ก็แต่ เมื่อตำรวจผู้ที่ทำการค้นสั่งเจ้าของหรือคนในนั้นหรือผู้รักษาสถานที่ซึ่งจะค้น ให้ยอมเข้าไปโดยมิหวงห้ามและต้องแสดงหมายค้นว่าออกให้โดยศาลแล้ว และถ้าหากบุคคลที่เป็นเจ้าของบ้านหรือผู้รักษาสถานที่ไม่ยินยอมให้เข้าไป จึงสามารถที่จะเปิดหรือทำลายประตูบ้านเรือน หน้าต่าง รั้วหรือสิ่งกีดกั้นขวางอย่างอื่นทำนองเดียวกันก็ได้ แต่จากข้อเท็จจริงตามข่าวและคลิปวีดีโดหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ถามว่า? ตำรวจทำตามกฎหมายใด นึกว่าตัวเองกำลังแอ็กชั่นในหนังอย่างนั้นเหรอ? ฉะนั้น ตำรวจหัวหน้าชุดที่เป็นผู้นำจัดการตามหมายค้นรับผิดชอบไปเต็มๆ ”

เรื่องที่สอง ภาพที่โลกออนไลน์มีการแชร์กันมากับภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ อาทิ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น., นางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมฯ, นายสมชายและนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สมาชิกพรรคเพื่อไทย, นางพวงเพชร ชุนละเอียด รมช.ศึกษาฯ, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาฯ, นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช อดีต ส.ว.ขอนแก่น ไปร่วมกันทำบุญกันอยู่ที่ประเทศพม่า ซึ่งตามรายงานข่าวมีการรายงานว่า เป็นการไปรวมทำพิธีต่อชะตาแก้กรรม อีกทั้งยังมองว่าเป็นการทำพิธีกรรมเล่นคุณไสยตัดไม้ข่มนาม เพื่อปราบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และหลวงปู่พุทธะอิสระ

ที่มาภาพ httpforum.banrasdr.comshowthread.phptid=33951
ที่มาภาพ: httpforum.banrasdr.comshowthread.phptid=33951

นอกจากนี้ หลายสำนักข่าวยังมีการรายงานอีกด้วยว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และคณะผู้ร่วมทำบุญ เข้าพักที่โรงแรมชาเทรียม (Chatrium Hotel Rangoon) ซึ่งนอกจากการเข้าพิธีกรรมร่วมกันแล้วยังมีการเรียกประชุมคณะดังกล่าวภายในโรงแรมที่พักอีกด้วย

“เมื่อซักยี่สิบกว่าปีก่อน เคยอ่านบทความจากที่ไหจำไม่ได้ เขากล่าวถึงพวกนักธุรกิจและผู้ที่ประสบความสำเร็จมีตำแหน่งใหญ่โต(ใหญ่มากๆ แบบอย่างเราๆ ขยันทำงานจนแก่ตายก็ไม่มีวันไปถึง) เข้าใจว่าคนเขียนบทความจะหมายถึงเฉพาะของพวกคนตะวันออกไกล บทความกล่าวว่า คนพวกนี้อยู่ในฐานะที่เหนือกว่าคนอื่น ชนะมาจนแทบจะมองไม่เห็นใครเสมอตน ดังนั้นเมื่อประสบกับปัญหา ที่สร้างความหวั่นไหวให้ พวกนี้จึงต้องหันไปพึ่งสิ่งพิเศษที่เหนือตนขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่ามนุษย์ธรรมดา คงไม่สามารถตอบสนองความรู้สึกต้องการที่พึ่งทางใจของพวกคนเหนือคนเหล่านี้ได้ ก็เลยต้องไปหาอะไรที่มันเหนือธรรมชาติ พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้ นี่แหละคือความเป็นมนุษย์ เก่งอย่างไรมันก็หนีช่วงของความอ่อนแอไม่ได้”

“ไม่มีคุณไสยใดๆ ที่จะชนะธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าได้”

“ขอคนไทยผู้รักชาติทุกท่านร่วมกันสวดมนต์ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พาหุงมหากา หรือ บทสวดอื่นๆ ตามแต่ท่านถนัด ตั้งจิตอฐิษฐานขอให้อำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย ช่วยปกป้องประเทศไทย ปกป้องคนดีทุกท่านที่ร่วมกันต่อต้านพวกเลวชาติ ชิงหมาเกิด พวกนี้ ขออำนาจแห่ง พระพุทธไพรีนินาศ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดดลบันดาลให้ไอ้พวกคิดคดทรยศต่อราชวงศ์จักรี พวกโกงชาติบ้านเมือง พวกนี้หายไปโดยเร็วด้วยเทอญ”

“นี่ขนาดรู้ว่าตัวเองมีกรรม ยังไม่หยุดก่อกรรม จะรู้กันมั๊ยว่า กรรมแก้กันไม่ได้ไม่หมด รอรับผลอย่างเดียว”

“กรรมดีอย่ากลัว กรรมชั่วอย่าทำ เพราะผลกรรมไม่เคยบิดพลิ้ว”

“พระพุทธองค์ทรงตรัวไว้ว่าทุกอย่างที่ได้กระทำย่อมเป็นไปตามกรรม ใครทุกผู้ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกรรมที่ตนเองกระทำ ไม่สามารถตัดกรรมที่ก่อขี้นมาได้หมด”

“ได้ข่าวว่าที่พม่ามีแผ่นดินไหวด้วยนี้ ตอนที่ทักษิณทำพิธี นี้แหละนะ ฟ้าดินรู้ ว่าใครดีไม่ดี”

เรื่องที่สาม การชุมนุม กปปส. ที่มีมานานถึง 4 เดือน ทำให้มีการตั้งคำถามว่ามวลชนผู้ชุมนุมได้รับเงินสนับสนุนการชุมนุมมาจากที่ใด จนเกิดเป็นการวิเคราะห์หาที่มาของแหล่งท่อน้ำเลี้ยง กปปส. ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศรส.) และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ที่ออกมาระบุว่าจะเปิดเผยรายชื่อบริษัทเอกชนที่เป็นท่อน้ำเลี้ยง พร้อมทั้ง ร.ต.อ.เฉลิมยังมีการกล่าวต่อว่าในเชิงลบว่า หากบริษัทไหนไม่ได้ออกเงินช่วย กปปส. ก็ขอให้เจริญ แต่ถ้าบริษัทไหนออกเงินช่วยกบฏขอให้หายนะภายใน 6 เดือน กับ 1 ปี จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย

ที่มาภาพ : http://www.posttoday.com
ที่มาภาพ: http://www.posttoday.com

นอกจากการระบุเรื่องที่จะเปิดเผยรายชื่อผู้ที่เป็นท่อน้ำเลี้ยง กปปส. แล้ว ร.ต.อ.เฉลิมยังมีการวิเคราะห์รายชื่อที่ทำให้สังคมออนไลน์ถึงกับต้องย้อนตั้งคำถามกลับถึง ร.ต.อ.เฉลิม อย่างขำขัน เพราะหนึ่งในรายชื่อท่อน้ำเลี้ยงที่ ร.ต.อ.เฉลิมประกาศออกมานั้นมีชื่อของนาย เฉลียว อยู่วิทยา เจ้าสัวกระทิงแดง ที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555 ที่ผ่านมา

“รัฐบาลชุดนี้ทำงานแบบไร้สติ ไม่มีความคิด บริหารจัดการไม่เป็น
1.จะประกาศท่อน้ำเลี้ยง กปปส แต่เลื่อนไม่รู้กี่ครั้ง อ้างว่าต้องตรวจสอบให้เรียบร้อย ชัดเจนก่อน(การที่จะกล่าวหาใครๆ จะต้องมีการตรวจสอบที่ชัดเจน มีมูลให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วจึงจะมีการแจ้งว่าจะมีการเปิดเผยข้อกล่าวหา แต่ท่านมีรายชื่อแล้วแต่ยังไม่ได้มีการตรวจสอบที่แน่ชัดท่านจะมาเปิดเผยเพื่อ…….(คุณกลัวเจอสวนนะสิ)
2.การเอาชื่อคนที่เสียชีวิตซึ่งคนทั้วประเทศทราบดีว่าเสียชีวิตไปแล้วมาเปิดเผย และกล่าวว่าเป็นท่อน้ำเสี้ยงของ กปปส ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลทำงานไม่เป็น เรื่องง่ายอย่างนี้จะทำไม่เป็นมันน่าอาย”

“ถ้านักการเมืองคนใด ที่ไม่ได้ออกตัวช่วยเหลือ พวกนักโทษหนีคดี ขอให้นักการเมืองคนนั้นประสบเเต่ความเจริญ ถ้านักการเมืองคนใดออกตัวช่วยเหลือ พวกนักโทษหนีคดี และพวกเผาบ้านเผาเมือง ต้องถือว่าเลือกปฏิบัติ ไม่ใช่เรียกร้องความยุติธรรม ก็ขอให้นักการเมืองคนนั้น พบกับความหายนะภายใน 6 เดือน กับ 1ปีเช่นกัน ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเองนะท่าน”

“ท่อน้ำเลี้ยงตามรายชื่อแต่ละคน มีแต่คนดีๆ ทั้งนั้นเลย ต่างกับท่อน้ำเลี้ยงของอีกฝ่าย”

“ถ้าจะทำให้ถูกต้อง ให้เอารายชื่อทุกคนที่ไปร่วมม็อบเลย ผิดทุกคน รับรองเป็นล้านๆ คนเลย อยากได้ให้บอกจะเอาชื่อให้”

“ตลกดี นอกจากรัฐรับประทานเงินจากโครงการต่างๆ จนไม่มีเงินใช้หนี้ชาวนา ยังหมายจะยึดบริษัทเอกชนใหญ่ๆ ไปอีกด้วย หุบกิจการเค้าแบบนี้มีแต่จะโดนกลุ่มคนในบริษัทต่างๆ เหล่านี้เล่นกลับเสียเปล่าๆ ลองเล่นเค้าสักบริษัทนึงแล้วคุณจะรู้ว่าจะรู้ว่าใครแฉใครกันแน่ เดี๋ยวโดนฝ่ายการตลาดประชาสัมพันธ์ของบริษัทเค้าช่วยประชาสัมพันธ์พฤติกรรมของรัฐบาลให้แล้วจะรู้สึกนะ”

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งของพี่น้องประชาชนชาวไทย ที่ได้รู้จักทุกท่าน ที่มีจิตใจรักชาติ รักความยุติธรรม ความถูกต้องและมีจริยธรรมยิ่ง”

เรื่องที่สี่ หลังจากถูกออกหมายจับในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ที่ผู้ชุมนุม กปปส. มีการร้องเรียนให้ตามจับกันมากที่สุด สำหรับนายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ ที่ขึ้นเวทีเสื้อแดง ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2556 แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมได้ อีกทั้งยังมีรูปหลุดออกมาในโลกออนไลน์เป็นระยะๆ ซึ่งภาพที่ออกมาก็ยังเป็นภาพการใช้ชีวิตที่มีความสุข อยู่อย่างสุขสบาย อาทิ ภาพการนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหารที่ดูดี หรือแม้แต่ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่มีการเลือกตั้ง นายเอกภพ ยังมีคลิปออกมาเชิญชวนให้คนไทยออกไปเลือกตั้ง พร้อมทั้งยังพูดเชิงเย้ยหยัน ว่าถ้าจับได้จะให้ยิงหัวฟรีๆ อีกด้วย

ที่มาภาพ : http://news.sanook.com1470993
ที่มาภาพ: http://news.sanook.com1470993

และล่าสุดก็มีรูปของนายเอกภพหลุดออกมาให้ชาวโซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์อีกรอบ กับภาพที่แสดงให้เห็นนายเอกภพ เหลือรา ถ่ายภาพคู่หญิงสาวในชุดว่ายน้ำที่ทะเลอย่างมีความสุข แสดงให้เห็นถึงการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา และอยู่ดีมีสุขของนายเอกภพ ที่ชาวเน็ตหลายคนรวมไปถึงผู้ชุมนุม กปปส. ร้องเรียนให้มีการเร่งจับตัว แต่จนทุกวันนี้ การจับกุมตัวก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งยังมีภาพการใช้ชีวิตที่สุขสบายออกมาให้เห็นอยู่เสมออีกต่างหาก

“เป็นรูปเก่าหรือเปล่า ก็จริงนะที่เขามีความผิด แต่นี้อาจจะเป็นรูปเก่านานมาแล้วก็ได้ ตอนนี้ตัวจริงอาจต้องหลบๆ ซ่อนๆ หาไม่เจอหรอกนะ”

“ตำรวจไม่จับ เพราะนายไม่สั่ง และยังเป็นพวกเดียวกัน ทำอย่างไรเล่า พวกเสื้อแดง โดนหมาย รอดแทบทั้งนั้น แต่ที กปปส. บุกรุกบ้านเขาไปจับ แบบไม่มีมารยาทก็ทำ ดูเอาเถอะ”

“ไม่ว่าพวกคุณจะสีอะไร แดงเหลืองเขียวน้ำเงิน คุณก็ไม่สมควรหมิ่นเบื้องสูงค่ะ และถ้าคนผู้นั้นหมิ่นเบื้องสูงแสดงว่าเลวสุดๆ จนหาอะไรมาเปรียบ ยังไงก็ต้องถูกลงโทษ”

“ไม้ผลัดใบ รัฐบาลเปลี่ยนขั้ว ชีวิตมันก็ปลิดปลิวเอง มีหมายจับหนีคดีแล้วหลอกคนอื่นว่ามีความสุข จริงเหรอ สุขไม่จริงหลอกได้แต่คนอื่นแหละ แต่หลอกตัวเองไม่ได้หรอก หนีหัวซุกซุนอย่างนี้นะมีความสุข ไม่เอาด้วยหรอก เดินได้เป็นบางซอย อยู่ได้เป็นบางที่ ระรื่นท้ากรรมไปเถอะ สร้างกรรมมากก็เตรียมตัวรับผลให้มากด้วย ที่สุดแล้วไม่มีใครช่วยใครได้หรอก คุณน้องเอ๊ย”

“เดินเที่ยวไปที่นั้น ที่นี้ พื้นที่สาธารณะทั้งนั้น ถ้าไม่มีคนคอยคุ้มอยู่ยังไงก็ต้องโดน แต่นี้รอดได้ เพราะใครคุ้มอยู่ บอกหน่อยซิ”

“ไม่น่าเชื่อว่าคนที่มันดูหมิ่นสถาบันมันยังมีความสุขอยู่ได้อย่างไรกัน ทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มาจัดการอะไรสักที มันทำร้ายจิตใจคนไทยทั้งประเทศยอมได้ยังไง”

เรื่องที่ห้า จากกรณีที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ปฎิบัติการพิเศษขอคืนพื้นที่ในวันมาฆบูชา หรือวันวาเลนไทน์ ในวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 จนเป็นกระแสให้พูดถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไปตลอดทั้งวันว่าวันดังกล่าวเป็นวันแห่งความรักและเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมาปฏิบัติหน้าที่ จนมอบความไม่สบายใจให้กับประชาชน แทนที่จะเป็นวันที่ได้ทำบุญ และเป็นวันที่มอบความรักต่อกันนั้น

ที่มาภาพ : https://www.facebook.comantiamnestytimelinefilter=1
ที่มาภาพ: https://www.facebook.comantiamnestytimelinefilter=1

เรื่องนี้ส่งผลให้นางสางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ถูกวิจารณ์และพาดพิงถึงไปด้วย เพราะขณะที่ทาง ศรส. เข้าบุกพื้นที่นั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางไปทำบุญกับลูกชายด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มมีความสุข ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเมื่อผู้สื่อข่าวได้มีการสัมภาษณ์นางสาวยิ่งลักษณ์ ถึงการเข้ายึดพื้นที่ของ ศรส. ก็ได้รับคำตอบว่า ศรส. คือผู้ที่รับผิดชอบเรื่องการขอคืนพื้นที่ และยังเชื่อว่าจะมีขั้นตอนการปฏิบัติที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน อีกทั้งนางสาวยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวต่อสื่อว่าไม่ได้อยากเห็นแค่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักแค่วันเดียว แต่อยากเห็นวันแห่งความรักของคนไทยทั้งประเทศทุกวัน

และอยากให้การทำบุญในวันแห่งความรักที่พิเศษนี้มีแต่ความสุข ความรัก ความเมตตา ซึ่งกันและกันของประชาชน และช่วยกันประคับประคองสถานะการให้ผ่านพ้นไปได้ ใช้หลักความเมตตา เห็นแก่ภาพรวม และพูดคุยกัน เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไป และให้ประเทศไทยจะได้กลับมาสู่ศูนย์กลางของอาเซียนนำความเจริญในภูมิภาคนี้โดยเร็ว

“การที่คนมาชุมนุม ผมว่าเค้าไม่ได้อะไรจากการชุมนุมเลยนะ ทั้งเหนื่อย ร้อน เพลีย แต่ที่เค้ามาเพราะมาด้วยใจที่รักชาติทั้งนั้นเลย”

“หากประชาธิปไตยต้องมาจากเสียงส่วนใหญ่ แล้วถ้าเสียงส่วนใหญ่เค้าตัดสินให้จับคุณเข้าคุก ทั้งที่คุณไม่ได้ทำผิดอะไร คุณยังจะยอมรับประชาธิปไตยที่ว่านี้อยู่ไหม”

“นายกรัฐมนตรีคนนี้ หยุดงานตามพนักงานออฟฟิตเลย ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างไร เธอจะพักผ่อน เธอจะเที่ยวตลอด”

“คิดว่าจะได้บุญมั๊ย ถ้าใจยังไม่สะอาด”

“”นายกภาษาอะไร ไม่เคยออกมารับผิดชอบอะไรซักอย่าง ชาวนาขอเจอก็ไม่ยอมเจอ ศรส.จะทำอะไรก็เอาแต่โบ้ย มีความรับผิดชอบบ้างมั๊ย”

“ขอร้องเถอะครับ ถ้าคุณไม่รู้เรื่องอะไรเลย คุณอย่าบริหารประเทศเลยครับ ลาออกเถอะครับ คนเก่งๆ อีกมากมายเขาจะได้มาดูแลทำให้ดีขึ้น คุณอย่าทำให้เสียเวลาเลยครับ”

“ให้กำลังใจนายกปู จะทำอะไรก็ผิดตลอด ซักวันต้องมีวันที่ทำถูกบ้างแหละ”