
จนถึงขณะนี้ สถานการณ์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ยังไม่สามารถถอนเงินได้ และนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานกรรมการดำเนินการ สหกรณ์ฯคลองจั่น แม้จะถูกอายัดทรัพย์สินฐานยักยอก รวมทั้งถูกฟ้องดำเนินคดีหลายคดี ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2556 นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อคัดค้านการอายัดทรัพย์จำนวน 386 รายการ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 ทั้งนี้การยื่นทำหนังสือคัดค้านดังกล่าวได้นับเวลาหลังรับหนังสือแจ้งการอายัดทรัพย์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2556
นายศุภชัยคัดค้านในประเด็น 1. กฎหมายไม่มีผลย้อนหลัง โดยหนังสือระบุว่ากรมสอบสวนพิเศษแจ้งข้อกล่าวหาตนฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352, 353, 354 เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2556 โดยกล่าวหาว่าตนและพวกกระทำผิดระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม 2550 ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2555 ซึ่งคณะอนุกรรมการธุรกรรม ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ได้อายัดทรัพย์ตนและพวกหลายรายการ โดยอาศัยมูลฐานความผิดฐานยักยอก และใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2556 ซึ่งไม่มีผลย้อนหลังมาบังคับใช้ให้เป็นผลร้ายกับตนและพวกและประชาชน
โดยอ้างว่าพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2556 มีขึ้นหลังจากตนกับพวกได้กระทำการตามที่ถูกกล่าวหาไปแล้ว จึงไม่มีผลย้อนหลังตามหลักกฎหมายทั่วไปที่บังคับใช้กันทั่วโลก ดังนั้น เมื่อกฎหมายไม่มีผลย้อนหลังก็ต้องถือว่าขณะที่ตนกับพวกกระทำการดังกล่าวไม่มีมูลฐานความผิดฐานยักยอก จึงขอให้คณะกรรมการธุรกรรมสั่งเพิกถอนการอายัดทรัพย์
2. ประเด็นฐานยักยอก นายศุภชัยระบุว่า บุคคลที่กระทำผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 353, 354 ผู้กระทำต้องมีเจตนาทุจริตจึงจะมีความผิดตามข้อกล่าวหา แต่ตนกับพวกไม่มีเจตนาทุจริตใดๆ ทั้งสิ้น เพราะตนไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากการให้สมาชิกสมทบกู้เงินในครั้งนี้ และการให้สมาชิกสมทบกู้เงินเป็นเรื่องทางแพ่ง ไม่ใช่ความผิดทางอาญา
นายศุภชัยระบุว่า การปล่อยกู้ดังกล่าวเป็นการหารายได้ดอกเบี้ยให้สหกรณ์ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของประธานกรรมการดำเนินการ หากมีการบกพร่องในการให้กู้ยืมก็เป็นเรื่องผิดระเบียบ ผิดข้อบังคับสหกรณ์ในทางแพ่ง ไม่มีมูลความผิดทางอาญาแต่อย่างใด
3. คดีนี้ขาดอายุความร้องทุกข์แล้ว นายศุภชัยระบุว่าพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจดำเนินคดีกับตนและพวกฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ โดยอ้างว่าเหตุเกิดระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม 2550 ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2555 คดีดังกล่าวเป็นคดีความผิดส่วนตัว ผู้เสียหายจะต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิด และรู้ตัวผู้กระทำความผิด
นายศุภชัยพยายามชี้ว่า การที่นายมณฑล กันล้อม อดีตประธานกรรมการดำเนินการชุดที่ 28 ได้ฟ้องร้องคดีการให้กู้แก่สมาชิกสมทบ 27 ราย เป็นเงิน 13,846.44 ล้านบาท เป็นเรื่องที่นายมณฑลซึ่งอยู่ในฐานะผู้บริหารระดับสูงของสหกรณ์จะต้องรู้เห็น และทราบเรื่องมาตลอด เพราะในการประชุมใหญ่ทุกปี จะมีการแถลงบัญชีการเงิน บัญชีงบดุล นอกจากนี้ สำนักมาตรฐานการบัญชีและการสอบบัญชี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ยังได้มีหนังสือถึงประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น โดยหนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่าการปล่อยกู้สมาชิกสมทบ 27 ราย มีข้อบกพร่องอย่างไร เป็นการแสดงให้ผู้บริหารสหกรณ์รู้เห็นรับทราบแล้วว่ามีการทุจริต และรู้แล้วว่าตนกับพวกถูกกล่าวหาว่ากระทำการทุจริต ดังนั้น นายมณฑลย่อมทราบถึงการกระทำที่อาจเป็นความผิดยักยอกในคดีนี้ โดยทราบเรื่องการยักยอกทรัพย์รายนี้มาตั้งแต่ปี 2550-2556 ว่ามีการกระทำผิดเกี่ยวกับการที่สหกรณ์ให้สมาชิกสมทบ 27 รายอย่างแน่นอน
นายศุภชัยระบุว่า เมื่อนายมณฑลขึ้นมาเป็นประธานกรรมการดำเนินการในเดือนมีนาคม 2555 ในฐานะตัวแทนสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น นายมณฑลต้องทราบถึงการยักยอกดังกล่าวด้วย เพราะนายมณฑลทราบการกระทำผิดมาก่อนดำรงตำแหน่งแล้ว ครั้นนายมณฑลขึ้นดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการในเดือนมีนาคม 2555 ก็ถือว่าสหกรณ์เครดิตยูเนียนอยู่ในฐานะผู้เสียหาย และนายมณฑล ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการ ได้รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด (กล่าวหานายศุภชัยและพวกกระทำความผิดฐานยักยอก)
นายศุภชัยระบุต่อว่า ดังนั้น การนับอายุความร้องทุกข์ในคดีนี้จึงต้องเริ่มตั้งแต่วันที่นายมณฑลขึ้นเป็นประธานกรรมการดำเนินการ คือเดือน มีนาคม 2555 และอายุความร้องทุกข์คดีนี้จะสิ้นสุดในเวลา 3 เดือน คือ ปลายเดือนมิถุนายน 2555 แต่มีการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามเพื่อดำเนินคดีกับตนและพวกในวันที่ 5 เมษายน 2556 ซึ่งเกินเวลา 3 เดือนนับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้เรื่องและรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว คดีนี้จึงขาดอายุความร้องทุกข์แล้ว
นายศุภชัยได้ระบุว่า ในระหว่างปี 19 ตุลาคม 2550 – 1 มีนาคม 2555 ผู้บริหารสหกรณ์มีใครบ้าง ทั้งนี้มีนายศุภชัยนั่งบริหารด้วย (ดูกราฟฟิกประกอบ)
4.เรื่องการทุจริต ในประเด็นนี้ นายศุภชัยระบุว่าทางกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้แนะนำให้สหกรณ์ปฏิบัติตามข้อบังคับและระเบียบสหกรณ์ โดยให้เรียกหนี้คืนหรือเร่งรัดการชำระหนี้ ข้อแนะนำดังกล่าวแสดงว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยบกพร่องหรือผิดระเบียบเท่านั้น ไม่ได้ทุจริตแต่อย่างใด
5. การที่กระทรงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ซึ่งกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ทั้งประเทศ ไม่ได้มีคำสั่งปลดตนออกจากตำแหน่งประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นนั้น เพราะเห็นว่าตนไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมกับอ้างกรมสอบสวนพิเศษเมื่อเมษายน 2556 ว่าตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วไม่พบการกระทำผิด
นอกจากนี้ นายศุภชัยยังได้ชี้แจงแหล่งที่มาของทรัพย์สินที่ถูกอายัดว่าได้มาจากการทำธุรกิจชิปปิง รับส่งสินค้าเข้าและออกระหว่างประเทศ และรายได้ที่มาจากการลงทุนในตราสารหนี้ระหว่างประเทศ มาเป็นเวลานานและมีรายได้สูงมาก นอกจากนี้ยังระบุว่าอีกว่า ยังมีรายได้จากธุรกิจอื่นๆ อีก ซึ่งรายได้ทั้งหมดนำมาซื้อทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ทั้งหมด
ขณะเดียวกันได้ทำหนังสือลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2556 ถึงเลขาธิการปปง.ว่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดไม่ได้รับการรักษาดูแลที่ดี จึงขอมาเก็บรักษาเอง (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
แหล่งข่าวจากพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวว่า ขณะนี้ได้เรียกลูกหนี้สมาชิกสมทบ 27 ราย มาให้ปากคำบางส่วนแล้ว โดยร้อยละ 70 ของลูกหนี้ให้การยืนยันว่าไม่ได้กู้เงินจากสหกรณ์ ถูกปลอมแปลงสัญญาเงินกู้และลายเซ็น แต่เนื่องจากพบว่าลูกหนี้บางรายมีความใกล้ชิดกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร พนักงานสอบสวนจึงให้ตัวแทนลูกหนี้คัดลายมือ โดยเฉพาะชื่อ-นามสกุล เพื่อนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ให้ตรวจสอบว่าเหมือนกับลายเซ็นที่ปรากฏในสัญญาเงินกู้หรือใบรับเงินหรือไม่
นายนพดล อุเทน ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติงานคดี 1 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กล่าวว่า คำคัดค้านการอายัดทรัพย์ชั่วคราวของนายศุภชัย ซึ่งมาชี้แจงที่ ปปง. เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม โดยให้เหตุผลเรื่องคดีหมดอายุความ และไม่สามารถยึดทรัพย์ย้อนหลังโดยอาศัยกฎหมายพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฉบับที่ 4(บังคับใช้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2556) ไม่สามารถนำมาเป็นเหตุคัดค้านการยึดทรัพย์ได้ เพราะคดีสหกรณ์ฯ คลองจั่นตรงกับ “ความผิดมูลฐาน” ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน (18) ความผิดเกี่ยวกับฉ้อโกงหรือยักยอก อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ เรื่องอายุความจะนับจากผู้มีส่วนได้เสียเริ่มทราบการกระทำความผิด ดังนั้น สมาชิกสหกรณ์ส่วนใหญ่ก็ล้วนเพิ่งทราบการกระทำความผิด จึงสามารถมาร้อง ปปง. ฐานยักยอกเงินโดยที่ไม่ขาดอายุความ นอกจากนี้ ประเด็นการยึดทรัพย์ย้อนหลังตามกฎหมาย การยึดทรัพย์เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม เป็นการยึดตามคดีแพ่ง ซึ่งศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษา (ดูหมวด2ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด) ว่ายึดทรัพย์ได้โดยไม่ต้องสนใจว่าเป็นการกระทำความผิดก่อนหรือหลัง พ.ร.บ. บังคับใช้ เพราะมาตรการดังกล่าวไม่ใช่โทษทางอาญา จึงมีผลบังคับใช้ย้อนหลังได้

นอกจากนี้ นายนพดลกล่าวอีกว่า ถ้ามีบุคคลใดที่มีพฤติกรรมช่วยเหลือนายศุภชัยโอนถ่ายทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน หรือหุ้นในบริษัท เพื่อปกปิดซ่อนเร้น อำพราง อาจถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันฟอกเงินพ่วงไปด้วย ส่วนการติดตามยึดทรัพย์สินขณะนี้ยังพบเพิ่มเติมแต่ไม่สามารถเปิดเผยจำนวนได้ ขณะนี้ ปปง. ก็พยายามดำเนินการให้เร็วและรัดกุมมากที่สุด