1721955
บทความนี้ต่อเนื่องจากซีซั่นแรกเมื่อต้นปี 2023 สารภาพว่าทำใจอยู่นานกว่าจะตัดสินใจกดดู Gannibal 2 (2025) เพราะกว่าซีซั่นสองจะมาก็ผ่านไปกว่าสองปี จนแทบจะจำเนื้อหาเดิมไม่ได้ แต่พอเริ่มดูอีพีแรกเท่านั้นก็หยุดดูไม่ได้อีกเลย สิ่งที่เคยเดือดมาก ๆ ในซีซั่นแรก ในซีซั่นนี้เดือดกว่าเดิม(และเลือดสาดมาก:คำเตือน)จนแทบลืมหายใจ แล้วที่ต้องขอต่อยอดมาเขียนถึงซีซั่นสองในคราวนี้ด้วย เพราะมีบางประเด็นที่เราเว้นเอาไว้เนื่องจากเคยเป็นความลับในซีซั่นแรก แต่ตอนนี้มันได้เฉลยออกมาแล้ว และมีผลต่อเนื่องมาจนซีซั่นนี้ ที่คราวนี้มี 8 อีพี และกำลังเข้มข้นมาถึงครึ่งซีซั่นแล้ว ซึ่งเรายังเดาไม่ได้ว่าเนื้อหาในมังงะทั้งหมดจะจบลงในซีซั่นนี้หรือยังจะไปต่ออีกในซีซั่นหน้า
สิ่งที่เราขอย้ำคือ ซีรีส์นี้เขียนบทโดย ทาคามาสะ โอเอะ ผู้เคยเข้าชิงสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ จาก Drive My Car (2021) ส่วนตัวเราอย่างแรกที่ตัดสินใจดูซีรีส์นี้เพราะเป็นเอฟซี ยูยะ ยากิระ ผู้ชนะรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ที่ถูกจารึกไว้ว่าตอนเขาได้รางวัลนี้เขามีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์คานส์ คือเพียงอายุ 12 เท่านั้นจากหนังของ โคเรเอดะ ฮิโรคาสุ เรื่อง Nobody Knows (2004) แล้วด้วยความโด่งดังในเวลานั้นทำให้ชีวิตของเขากดดันอย่างมากจนในอีกเพียง 4 ปีถัดมา คือในปี 2008 ขณะที่เขามีอายุเพียง 16 ปี ยูยะ ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากกินยาเกินขนาด ส่วนตัวเราผู้เป็นเอฟซี จึงดีใจอย่างมากที่เขารอดตายมาได้ ซึ่งยังคงโลดแล่นในแวดวงบันเทิงได้อย่างดีงาม และเขาก็ทำได้ดีมาก ๆ ในซีรีส์ชุดนี้
จากจุดเริ่มต้นในซีซั่นแรก เมื่อตำรวจหนุ่มเลือดร้อน อางาวะ ไดโก (ยูยะ ยากิระ) ถูกย้ายพร้อมลูกเมียเข้ามาอยู่หมู่บ้านคุเงะ ในชนบทห่างไกลความเจริญ ก่อนจะพบว่าเมืองนี้อยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลโกโตที่รักษาประเพณีครอบครัวอันเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 70 ปี ด้วยพิธีกรรมที่สามารถสืบย้อนไปกว่า 700 ปี คือความเชื่อเกี่ยวกับ “คนผู้นั้น” โดยมีผู้นำเดิมคือ โกโต กิน (ไบโช มิตซูโกะ นักแสดงที่ทั่วโลกรู้จักว่าเธอเคยแสดงในหนังผู้กำกับชั้นบรมครูอย่าง Kagemusha (1980) ของ คุโรซาว่า อากิระ และ The Ballad of Narayama (1983) ของ โชเฮ อิมามูระ) หญิงชราผู้เป็นหมอตำแยและแม่หมอประจำหมู่บ้าน
ความเชื่อเรื่อง “คนผู้นั้น” ว่าเป็นเทพสูงสุดประจำหมู่บ้าน ทำให้ครอบครัวโกโตต้องทำอยู่ 2-3 อย่าง คือ รักษาสายเลือดในครอบครัว (ด้วยการทำอะไรบางอย่างที่เราไม่ขอเฉลย) กินเนื้อมนุษย์ และบูชายัญด้วยสัตว์สังเวย อันเกี่ยวข้องกับประเด็นที่เราจะเล่าสู่ให้ฟังในบทความนี้
โรคคูรู
“คูรู” เป็นโรคทางระบบประสาทเสื่อมที่หาได้ยาก รักษาไม่หาย และถึงแก่ชีวิตได้ ในอดีตเคยพบบ่อยในชนเผ่า ฟอร์ ในประเทศปาปัวนิวกินี โรคนี้เกิดจากเชื้อไพรออนทำให้เกิดอาการชักกระตุก สั่น และสูญเสียการประสานงานของร่างกายอันเนื่องมาจากภาวะระบบประสาทเสื่อม kúru แปลว่า “ตัวสั่น” มาจากคำว่า kuria หรือ guria (สั่น) ในภาษาฟอร์ โรคนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า “โรคหัวเราะ” เพราะผู้ป่วยมักมีเสียงหัวเราะที่ดังผิดปกติ
ชาวฟอร์ อาศัยอยู่ในเขต โอกาปา ของจังหวัดไฮแลนด์ตะวันออก ในประเทศปาปัวนิวกินี ปัจจุบันหลงเหลือประชากรอยู่ราวสองหมื่นคน พวกเขาแทบไม่มีลำดับชั้นในสังคม ไม่มีหัวหน้าชัดเจน และไม่มีลำดับชั้นอำนาจ ทั่วไปแล้วถือว่าหญิงด้อยกว่าชาย แต่อายุหรือเพศไม่ใช่ปัจจัยในโครงสร้างอำนาจ วัฒนธรรมชองชาวเผ่าฟอร์เน้นสายเลือดทางฝั่งบิดา ชายหนุ่มเมื่อแต่งงานจะอาศัยในที่ดินของพ่อ แต่ลูกสาวสามารถออกไปแต่งกับเผ่าอื่นได้ แต่มักจะเพื่อเป็นการสร้างพันธมิตรของเผ่า
ชายที่เกิดในเวลาเดียวกัน หรืออยู่ร่วมกระท่อมคลอดบุตรเดียวกัน จะถือเป็นมิตรตลอดชีวิต เรียกว่า “อาเกเมด” หรือ”นาไกยะ” ตลอดชีวิตของชายคู่นั้นจะมีนาไกยะเป็นส่วนสำคัญ จะเป็นเพื่อนล่าสัตว์และต่อสู้ศึกร่วมกัน ถือว่าแน่นแฟ้นพอ ๆ กับคนในครอบครัว
พวกฟอร์เชื่อว่าดินแดนที่อาศัยอยู่เรียกว่า “บากินา” เป็นเทพสูงสุดที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นผู้สร้างโลกขึ้นมา และเป็นบรรพบุรุษของชาวฟอร์ พวกเขาเชื่อว่าคนเรามีวิญญาณ 5 ดวง ดังนั้นเมื่อเสียชีวิตพวกเขาจะทำพิธีศพเพื่อส่งดวงวิญญาณทั้งห้าไปสู่ปลายทางที่เหมาะสม ด้วยความเชื่อนี้ทำให้พวกเขามีพิธีกรรมปรุงอาหารจากเนื้อของผู้ตาย ที่เชื่อกันว่าหากกินเข้าไปแล้ว จะถือว่าผู้ตายให้พร จะได้รับช่วง “เยเซกิ” หรือความสามารถพิเศษต่อจากผู้ตาย และสามารถส่งต่อไปยังลูกหลานได้ ด้วยความเชื่อนี้จะถือว่าดวงวิญญาณส่วนหนึ่งจะไปสู่ดินแดนแห่งความตาย แต่อีกส่วนหนึ่งจะยังคงสถิตอยู่กับผู้รับพร
อย่างไรก็ตามในช่วงปี 1950 อันเป็นช่วงที่ชาวฟอร์ตัดขาดจากโลกภายนอก แล้วพบว่าประเพณีการกินเนื้อคนตายทำให้เกิดโรคระบาด มีผู้เสียชีวิตราว 2,700 รายในช่วงปีที่มีการสำรวจคือ 1957-2005
แม้ว่าพวกเขาจะเลิกกินเนื้อคนนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 หลังจาดคาดเดาว่าน่าจะเป็นสาเหตุของโรคนี้ ทว่าโรคนี้ยังคงอยู่เนื่องจากระยะฟักตัวของโรคคูรูนั้นยาวนาน 10-50 ปีกระทั่งผู้ป่วยเริ่มลดลงในช่วงปี 2005 เหลือเพียง 200 ราย และไม่เกิดขึ้นอีกเลยนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา
ผู้ป่วยคูรูอาจเริ่มจากปวดหัว ปวดข้อตามขา ไปสู่ช่วงที่เริ่มทรงตัวไม่มั่นคง ควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้ ออกเสียงเป็นคำได้ยาก และมีอาการสั่นตลอดเวลา จากนั้นพวกเขาจะไม่สามารถเดินได้อีกเลย และเริ่มมีอาการ Ataxia คือระบบประสาทตัดขาดการประสานงานกับระบบการเคลื่อนไหวทั้งหมด มีภาวะไม่มั่นคงทางอารมณ์แต่พวกเขาจะหัวเราะไม่หยุดเป็นระยะ ๆ จนระยะสุดท้ายร่างกายของพวกเขาจะนั่งไม่ได้ กลืนลำบาก กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ไม่ตอบสนองต่อสภาพแวดล้อม แม้จะมีสติอยู่ก็ตาม ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่เกิดแผลกดทับเรื้อรัง อันติดเชื้อได้ง่าย โดยส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อมักจะเสียชีวิตภายในสามเดือนถึงไม่เกินสองปี
ปัจจัยหลักคือสารโปรตีนที่เรียกว่า “พรีออน” ซึ่งมักจะสะสมในเนื้อสมองของมนุษย์ เมื่อชาวฟอร์กินเนื้อสมองของผู้เสียชีวิต จึงมีโอกาสสูงในการติดเชื้อนี้ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักจะเป็นผู้หญิงหรือเด็ก เนื่องจากเด็กและผู้หญิงจะได้รับปันส่วนเนื้อมนุษย์ในส่วนของสมองมากที่สุด ทำให้พวกเขาเป็นกลุ่มใหญ่ที่ติดเชื้อนี้
ในซีซั่นแรก Gannibal อธิบายว่า “คนผู้นั้น” เกิดในปี 1951 ขณะที่เขามีอายุ 6 ขวบ เขาเป็นโรคคูรู ซึ่งสัมพันธ์กับไทม์ไลน์ในประวัติศาสตร์จริงที่เล่าว่าโรคนี้ระบาดหนักในปี 1950 ในปาปัวนิวกินี และส่วนหนึ่งเป็นเด็ก
เราขอจบบทความไว้เพียงเท่านี้ อันที่จริงยังมีอีกประเด็นเกี่ยวกับ “สัตว์สังเวย” ที่อยากเขียนถึง แต่พบว่ามีเนื้อหาที่ค่อนข้างยาว จึงขอยกยอดไปเล่าต่อในบทความคราวหน้า โปรดติดตาม