ThaiPublica > คอลัมน์ > เรื่องจริงเบื้องหลังซีรีส์การแพทย์สุดเว่อร์วัง

เรื่องจริงเบื้องหลังซีรีส์การแพทย์สุดเว่อร์วัง

1 กุมภาพันธ์ 2025


1721955

The Trauma Code: Heroes on Call (2025) กลายเป็นซีรีส์เกาหลีที่ทุกสื่อต้องเอ่ยถึง ด้วยการเปิดตัว 8 ตอนรวดเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมาแล้วติดหนึ่งใน 10 ซีรีส์ยอดนิยมใน 77 ประเทศทันที ก่อนจะโดดไปอันดับสองอยู่เพียงแค่ 5 วัน แล้ววันที่ 29 ก็ขึ้นแท่นซีรีส์อันดับหนึ่งอย่างรวดเร็ว

ด้วยความเว่อร์วังระดับยิ่งกว่าระเบิดภูเขาเผากระท่อม และ “หมอหัตถ์พระเจ้า” แพ็คคังฮยอก คือฮีโร่ในตำนานผู้ผ่านสมรภูมิสุดโหด แถมยังช่วยชีวิตเหยื่อมาได้ทุกราย รวมถึงเรื่องนี้ยังดัดแปลงมาจากเว็บตูนสุดฮิต (ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือดังอีกที) จนเราคิดว่าเรื่องโม้โอเวอร์เกินจริงขนาดนี้ไม่น่าจะมีความจริงอะไรในนั้น แต่จริง ๆ แล้วมันถูกดัดแปลงมาจากคนจริง ๆ และหน่วยงานที่มีอยู่จริงกลางสนามรบ!

The Trauma Code: Heroes on Call (2025) เล่าเรื่องของ แพ็คคังฮยอก (จูจีฮุน) แพทย์หนุ่มห้องฉุกเฉินที่ถูกเรียกตัวมายังโรงพยาบาลฮันกุกเพื่อช่วยยกระดับสถิติผู้รอดชีวิตให้เพิ่มขึ้น แต่เขาไม่ได้จบมาจากโรงเรียนแพทย์ชื่อดัง ซ้ำยังปากร้ายไม่ไว้หน้าใคร พฤติกรรมแหกคอกสุดโต่งด้วยวิธีการรักษาสุ่มเสี่ยง ไปจนถึงมีข่าวลือว่าเขาเคยทำงานในหน่วยแพทย์เดนตายกลางสนามรบ “แบล็ควิง” (คืออะไรเราจะอธิบายภายหลัง)

ไม่รู้ว่าช่วงนี้เป็นปีทองของ จูจีฮุน หรืออย่างไร เพราะช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เขามีซีรีส์ที่มาในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 4 เรื่อง ตั้งแต่เมษายนปีที่แล้ว Blood Free (2024) จนปลายปี Love Your Enemy (2024) เมื่อพฤศจิกายน ตามด้วย Light Shop (2024) เมื่อต้นธันวาคม แล้วยังมีเรื่องนี้อีกที่ปังทุกเรื่อง อันทำให้เราค่อนข้างจะแปลกใจในหมู่ชาวเน็ตเกาหลีอยู่นิดหน่อย

เพราะในช่วงเวลาเดียวกันในซีรีส์อีกเรื่อง Squid Game 2 มีนักแสดงคนหนึ่งถูกชาวเนตรุมสาปและแบนจนไม่สามารถออกงานแถลงข่าวใดได้ นั่นก็คือ T.O.P หรือ ชเวซึงฮยอน วง BigBang ที่โดนแบนในช่วง 2017-2019 แล้วลากยาวมาจนตอนนี้ เนื่องจากเคยแอบเสพกัญชาในกองทัพ แถมยังเมายาคลายกังวลจนหมดสติ จนถูกคุมประพฤติไปสองปี แต่นับแต่นั้นเขาก็โดนแบนจนเกือบจะไม่ได้กลับเข้าวงการอีกเลย

(ซ้าย) T.O.P (ขวา) จูจีฮุน

ทว่า จูจีฮุน ผู้โด่งดังไปทั่วโลกจากซีรีส์ Princess Hours (เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา 2006) เคยโดนข้อหาเสพยาอีและยาเค ในปี 2009 แม้จะเคยถูกแบนอยู่หลายปีแต่กลับมีผลงานเป็นที่จดจำอยู่เรื่อย ๆ นับตั้งแต่ Medical Top Team (2013), Kingdom ทั้ง 3 ภาค (2019,2020,2021), Hyena (2020), Jirisan (2021) จนมาเนื้อหอมอย่างมาก(อีกครั้ง)ในปีที่ผ่านมาจนทุกวันนี้ คำถามคือทำไม จูจีฮุน ยังคงรันวงการอยู่ได้ ขณะที่ T.O.P แทบจะเดินถนนไม่ได้เลย

อีกประการที่เราแปลกใจมากคือตัวผู้กำกับ อีโดยุน ที่ถึงแม้จะไม่ใช่หน้าใหม่ แต่ที่ผ่านมาเขาเคยมีผลงานกำกับหนังมาแค่เรื่องเดียวคือ Confession (2014) แต่นั่นมันก็ปาไปสิบปีที่แล้ว และไม่เคยมีผลงานกำกับใดใดอีกเลย

หมอหนุ่มสามสหาย อีนักจุน คือคนกลาง

ช่องยูทูบ ‘Doctor Friends’ https://www.youtube.com/channel/UCVfLNEch9YxD4tX1L-crkMQ

อย่างไรก็ตามตัวโชว์รันเนอร์ผู้ทำให้โปรเจ็กต์ของเรื่องนี้เกิด คือ อีนักจุน ผู้เป็นหมอตัวจริงเป็นศาสตราจารย์ด้านหูคอจมูกและแพทย์ผ่าตัดศีรษะกับคอ เป็นนักเขียนเว็บตูน เจ้าของนามปากกา Hansanleega และหนึ่งในยูทูเบอร์หมอหนุ่มทรีโอชื่อดัง ‘Doctor Friends’ ผู้โด่งดังจากเว็บตูน ‘Trauma Center: Golden Hour’ และ ‘A.I. Doctor’ ซึ่งเรื่องแรกก็คือต้นธารของซีรีส์เรื่องนี้ที่เคยถูกเขียนเป็นเว็บตูนเมื่อช่วงปี 2019-2022 มีทั้งหมด 3 ภาคกับอีก 1 ภาคแยก ซึ่งล่าสุดดูเหมือนตัวผู้กำกับเพิ่งจะประกาศว่ามีความเป็นไปได้ที่ซีรีส์ละครเรื่องนี้จะมีซีซั่นสอง

ส่วนผสมของเรื่องจริง

แม้เนื้อหาในเรื่องนี้ทั้งในซีรีส์และเว็บตูนจะดูเว่อร์วัง แต่อันที่จริงมันเต็มไปด้วยส่วนผสมของสิ่งที่มีอยู่จริงหลายสิ่งหลายอย่าง บทความนี้เราจะหยิบหัวใจหลักสำคัญของซีรีส์เรื่องนี้ ที่ทั้งหมดล้วนอิงมาจากสิ่งที่มีอยู่จริง

(จากซ้าย) มหาวิทยาลัยฮันกุกของจริง, โรงพยาบาลฮันกุกในซีรีส์, โรงพยาบาลอาจู

ตัวจริงของโรงพยาบาลฮันกุก

เหตุการณ์ในซีรีส์นี้เกิดขึ้นในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยฮันกุก เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามหาวิทยาลัยฮันกุกนั้นมีอยู่จริง ๆ เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำของเกาหลีใต้ ทว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ไม่มีการเรียนการสอนใดใดเกี่ยวข้องกับการแพทย์เลย ดังนั้นโรงพยาบาลฮันกุกในเรื่องนี้จึงไม่มีอยู่จริง อีกทั้งมหาวิทยาลัยของจริงแห่งนี้โดดเด่นในด้านสังคมศาสตร์ วัฒนธรรม ภาษาศาสตร์ (มีหลักสูตรเรียนภาษาไทยที่นี่ด้วย) และธุรกิจ

และเพื่อหลีกเลี่ยงข้อพิพาทหรือการฟ้องร้องทำให้ในเรื่องจึงเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยแพทย์ที่ไม่มีอยู่จริง อย่างไรก็ตามชาวเนตเกาหลีต่างลงความเห็นว่าน่าจะหยิบเรื่องจริงหลายอย่างมาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล แม้ว่าต่อมาผู้เขียนจะตอบกำกวมว่า จริง ๆ แล้วมันผสมผสานมาจากหลายเรื่องหลายราวในบรรดามหาวิทยาลัยแพทย์ลำดับต้น ๆ

ซึ่งในเกาหลีใต้มีมหาวิทยาลัยแพทย์ที่โด่งดังอยู่หลายแห่ง ส่วนที่ติดอันดับต้น ๆ คือ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล (SNU), มหาวิทยาลัยยอนเซ, มหาวิทยาลัยซองกยุนกวัน (SKKU), มหาวิทยาลัยแห่งอัลซาน, มหาวิทยาลัยเกาหลี, มหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่งเกาหลี และสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงแห่งเกาหลี (KAIST) ทว่านักอ่านเว็บตูนกลับพบว่า อันที่จริงฉากและเรื่องราวหลายอย่างค่อนข้างจะสอดพ้องกับโรงพยาบาลอาจู ซึ่งจะคืออะไรนั้นเราจะอธิบายในช่วงถัดไป

อีกประการในช่วงต้นซีรีส์ เราจะพบว่าพระเอกหมอแพ็คคังฮยอกนั้นถูกเหยียดว่าจบมาจากมหาวิทยาลัยระดับล่าง ในเรื่องกล่าวว่าเขาจบมาจากมหาวิทยาลัยแพทย์มูฮัน อันนี้ต้องอธิบายเพิ่มอีกนิดว่า อย่างที่เราบอกว่าผู้เขียนเป็นหนึ่งในหมอหนุ่มสามสหายเจ้าของช่อง ‘Doctor Friends’ ซึ่งมีหมออีกหนึ่งในนั้นคือ ดร.อูชางยุน ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์และผู้ช่วยศาสตราจารย์ในภาควิชาต่อมไร้ท่อ เบาหวาน ซึ่งเรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยมกโพ แถบบ้านนอกสุดกู่ ทั้งที่จริง ๆ แล้วเขาสามารถสอบเข้าได้ในมหาวิทยาลัยเกาหลี แต่จำต้องย้ายไปเรียนในบ้านเกิดที่มกโพเนื่องจากสถานภาพทางการเงินในช่วงนั้น (ภายหลังเขากลับมาเรียนต่อและจบในมหาวิทยาลัยอินฮา แถบอินชอน) และมกโพอยู่ในเขตเทศบาลเมืองมูฮัน ดังนั้นในเรื่องจึงอุปโลกน์มหาวิทยาลัยมูฮันขึ้นมาเพื่อให้คนอ่านเข้าใจสถานที่ตั้งได้ว่ามันอยู่ห่างไกลความเจริญมากขนาดไหน

อีกุกจอง กับหนังสือ Golden Hour

ตัวจริงของหมอหัตถ์พระเจ้า

ข้อเท็จจริงอีกประการคือหมอหนุ่มยูทูเบอร์ทั้งสามคนนี้จบจากมหาวิทยาลัยอินฮาเช่นเดียวกัน ซึ่งแม้จะไม่ใช่มหาลัยแพทย์ระดับล่างอย่างในเรื่อง แต่ก็เป็นเพียงมหาลัยแพทย์ระดับกลาง ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในท็อป 10 ของเกาหลี ทีนี้ผู้อ่านแรก ๆ จากเว็บตูนก็พยายามจะตีความว่า หรือผู้แต่งเรื่องนี้จงใจจะหมายถึงตัวเอง เพราะไม่ได้จบจากมหาลัยแพทย์ลำดับต้น ๆ

อย่างไรก็ตามในภายหลังมีการอธิบายว่าความจริงแล้วไอเดียตั้งต้นของ “หมอหัตถ์พระเจ้า” นั้น มาจากหนังสือชื่อ Golden Hour (2018) ซึ่งเขียนโดยศัลยแพทย์ด้านบาดเจ็บวิกฤติฉุกเฉิน อีกุกจอง อันเป็นหนังสือที่รวมบรวมประสบการณ์ 17 ปีของดร.อีในศูนย์แพทย์ผู้ป่วยวิกฤติที่ขายได้มากกว่าแสนสามหมื่นเล่มภายในไม่กี่วันทันทีที่วางแผง

อีกุกจอง ไม่ได้จบจากมหาวิทยาลัยแพทย์ชั้นนำ แต่จบจากลำดับรองที่ชื่อ มหาวิทยาลัยแพทย์อาจู ในแถบซูวอน จังหวัดคยองกี (อันมีหลายฉากปรากฏในเว็บตูน) พ่อของหมออีเป็นทหารผ่านศึกในสงครามเกาหลีและแม้จะไม่ได้เสียชีวิตอย่างในซีรีส์ แต่ก็พิการตลอดชีวิตจากการรบคราวนั้น วัยเด็กของเขาต้องอยู่อย่างแร้นแค้นดำรงชีพด้วยอาหารปันส่วนจากรัฐบาล ปมหนัก ๆ ที่ทำให้เขาพยายามจะเข้าเรียนหมอก็เพราะพ่อของเขาได้รับบัตรสวัสดิการรักษาฟรีเนื่องจากเป็นทหารผ่านศึก แต่กลับถูกโรงพยาบาลใกล้บ้านปฏิเสธอยู่บ่อย ๆ จนทำให้เขาต้องพาพ่อไปรักษายังโรงพยาบาลห่างไกล ทำให้เขามุ่งมั่นว่าถ้าสักวันได้เป็นหมอขึ้นมาจริง ๆ เขาจะไม่ปฏิบัติกับผู้ป่วยแบบนี้ อย่างไรก็ตามครั้งหนึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ว่าในโซลมีเพียงคนเดียวที่เคยช่วยเหลือเขา คือศัลยแพทย์ คิมฮักซาน แห่งมหาวิทยาลัยยอนเซ (โรงเรียนแพทย์ระดับท็อป 10) ที่ไม่เคยเรียกเก็บเงินจากเขาเลย แถมยังให้เงินค่าขนมกับเขาด้วย

หมออีจบปริญญาเอกด้านศัลยแพทย์จากมหาวิทยาลัยอาจู ก่อนจะได้รับคัดเลือกให้ไปฝึกอบรมด้านแพทย์ฉุกเฉินที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐ แล้วกลับมาเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาแพทย์ฉุกเฉินที่อาจู เขามีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บวิกฤติในโรงพยาบาล The Royal London Hospital Trauma Center อังกฤษ ก่อนจะกลับมาเป็นผู้อำนวยการศูนย์แพทย์ฉุกเฉิน และหัวหน้าสถาบันวิจัยด้านการบาดเจ็บวิกฤติของศูนย์การแพทย์อาจู ปัจจุบันเขาเป็นผู้อำนวยการและอาจารย์หมอประจำโรงพยาบาลกองทัพ เมืองแทจอน

ภาพปัจจุบันของหมออีที่ยังคงขึ้นเฮลิค็อปเตอร์อย่างที่เห็นในซีรีส์

แล้วแม้ดร.อีคนนี้จะไม่ได้ผ่านสงครามโหดในซีเรียอย่างในซีรีส์ แต่เขาก็เคยผ่านประสบการณ์สาหัสมาไม่ต่างจากในซีรีส์เลย อาทิ เมื่อมกราคม 2011 เรือพาณิชย์ของเกาหลีถูกโจรสลัดโซมาเลียปล้น ทางการเกาหลีจึงส่งหน่วยซีลไปยึดเรือคืน ทว่ากัปตันเรือได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกระสุนปืน AK หกนัดเข้าที่ช่องท้องและแขนขา ทำให้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในโอมาน ขณะนั้นเองทางการเกาหลีจึงส่งตัวดร.อีไปยังโอมานทันที ทำให้เขายืนยันว่าต้องส่งตัวและคุ้มกันกัปตันคนนั้นกลับเกาหลีผ่านทางเครื่องบินพยาบาลโดยทันที ซึ่งคล้ายกับเรื่องราวในอีพีสุดท้าย

ทว่าเครื่องบินพยาบาลที่เขาต้องการนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงถึงราว 380,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 13ล้านบาท) ทำให้รัฐบาลเกาหลีในเวลานั้นอิดออดในการตัดสินใจ ดร.อีจึงประกาศว่าเขาจะจ่ายทั้งหมดนั้นเอง สุดท้ายปัญหานี้คลี่คลายลงเมื่อกระทรวงการต่างประเทศตกลงจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด แล้วอีก็เป็นผู้ผ่าตัดผู้ป่วยวิกฤติรายนี้สำเร็จด้วย สุดท้ายทั้งผู้บาดเจ็บและหมออีได้รับเหรียญรางวัลในเหตุการณ์นี้จนทำให้โรงพยาบาลอาจูได้รับการยอมรับในระดับชาติ และได้เปิดศูนย์แพทย์ฉุกเฉินขึ้นเช่นเดียวกับในซีรีส์

ต่อมาในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 ทหารเกาหลีเหนือแปรพักตร์รายหนึ่งถูกยิงจนบาดเจ็บวิกฤติถึง 5 นัด ทั้งยังพบว่าแผลติดเชื้อและพบปรสิตจำนวนมากที่หาได้ยากในฝั่งใต้แต่พบได้ทั่วไปในเกาหลีเหนือ ซึ่งต่อมาเปิดเผยว่าเป็นวิธีการทรมานแบบฝั่งเหนือที่ใช้พยาธิตัวกลมฝังในลำไส้เล็กของผู้แปรพักตร์ แต่สุดท้ายศาสตราจารย์หมออีก็ช่วยผู้ป่วยรายนี้ให้รอดมาได้

ในซีรีส์จะพบว่ามีตอนหนึ่งที่พระเอกบาดเจ็บสาหัส หรือเสี่ยงภัยหลายต่อหลายครั้งจากการโดดจากเฮลิค็อปเตอร์ ในความเป็นจริงในเหตุการณ์เรือเซวอลล่มเมื่อปี 2014 เข่าซ้ายของหมออีตัวจริงเคยหักเนื่องจากโดดออกจากเฮลิค็อปเตอร์ หนำซ้ำยังไหล่ขวาหลุดระหว่างเดินทางไปยังเรือเซวอล รวมถึงเหตุการณ์ที่โอมานครั้งนั้นเส้นเลือดฝอยในตาของเขาแตก แม้ผู้คนพยายามห้ามปรามเขาแต่เขาก็ยังคงดื้อรั้นที่จะผ่าตัดจนสำเร็จ แม้สุดท้ายในการตรวจสุขภาพเมื่อปี 2015 เขาจะเสี่ยงเกือบจะตาบอดก็ตาม

และอีกประเด็นหนึ่งที่คล้ายกับในซีรีส์คือ อันที่จริงโรงพยาบาลอาจูแต่เดิมไม่เคยมีจุดจอดเฮลิค็อปเตอร์เลย แต่เมื่อหมออีเข้ามา เขาตัดสินใจเขียนตัว H ใหญ่ ๆ เพื่อเป็นจุดลงจอดบนพื้นที่ระหว่างอาคารโรงพยาบาลและอาคารมหาวิทยาลัย ครั้งนั้นเขาเล่าว่าแทนที่ผู้คนจะชมเชยเขา กลับก่นด่าเขาว่าเป็น “หมาบ้า” อันเป็นอีกหนึ่งฉายาของ “หมอหัตถ์พระเจ้า” ในเว็บตูนและซีรีส์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

ตัวจริงของ Black Wing

ในซีรีส์จะเล่าว่าพระเอกเคยเป็นแพทย์ในสนามรบที่หลายต่อหลายครั้งต้องฝ่าดงกระสุนไปรับผู้บาดเจ็บมารักษา หน่วยงานนี้ในเรื่องเรียกว่า “แบล็ควิง” อันที่จริงแม้ในเรื่องจะถูกเล่าอย่างบ้าระห่ำจนดูโม้เกินจริง แต่หน่วยงานนี้มีอยู่จริง แต่มันคือ Blackwater (ครั้งหนึ่งคนกลุ่มนี้เคยถูกหยิบมาทำเป็นเกม Xbox 360 เมื่อปลายปี 2011 ด้วย และตราสัญลักษณ์บนปกเกมนี้เป็นโลโก้ที่หน่วยงานนี้ใช้อยู่จริง ๆ)

ปัจจุบันมันถูกเรียกว่า Academi เดิมทีเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Blackwater และ Blackwater Worldwide เป็นทหารเอกชนรับจ้างสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 26 ธันวาคม 1997 โดย เอริก พรินซ์ อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยซีลของกองทัพเรือสหรัฐ ต่อมาในปี 2009 หน่วยนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Xe Services และเปลี่ยนชื่ออีกครั้งในปี 2011 เป็น Academi กระทั่งในปี 2014 หน่วยงานนี้ถูกซื้อกิจการโดยกลุ่มนักลงทุนเอกชน แล้วควบรวมกิจการกับ Triple Canopy บริษัทอารักขาส่วนตัว กลายเป็น Constellis Holdings

และไม่ว่ามันจะเคยใช้ชื่ออะไรก็ตาม หน่วยงานนี้เป็นเสมือนทหารรับจ้างทำงานให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐ โดยเฉพาะสำนักข่าวกรอง CIA มานับตั้งแต่ปี 2003 คดีสร้างชื่อและอื้อฉาวให้กับ Blackwater คือเมื่อปี 2007 ได้เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ขึ้นโดยน้ำมือกลุ่มทหารรับจ้างแบล็ควอเตอร์นี้เอง ที่จัตุรัสนิซูร์ กรุงแบกแดด ทำให้มีพลเรือนอิรักถูกสังหารไป 17 รายและบาดเจ็บอีกกว่า 20 ราย คดีนี้สร้างความโกรธแค้นต่ออิรักเป็นอย่างมาก ต่อมาทำให้ทหารรับจ้าง 4 รายของแบล็ควอเตอร์ถูกตัดสินว่ามีความผิดในศาลสหรัฐ แต่ภายหลังได้รับอภัยโทษในสมัยโดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีเมื่อปี 2020

เดิมที แบล็ควอเตอร์ ก่อตั้งในรัฐนอร์ทแคโรไลนาเพื่อเป็นสถานฝึกอบรมให้กับองค์กรด้านการทหารและการบังคับใช้กฎหมาย (และบ่อยครั้งก็เป็นไปในทางที่ไม่ถูกกฎหมาย) ด้วยข้ออ้างด้านความมั่นคงของสหรัฐ

กระทั่งในปี 2002-2007 ก็กลายเป็นบริษัท Blackwater Security Company (BSC) ดำเนินการโดยอดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอ โดยมีงานใหญ่ครั้งแรกในปี 2003 คือการเป็นหนึ่งในทีมอารักขาเจ้าหน้าที่และฐานทัพของ CIA ในปฏิบัติการตามล่า โอซามา บิน ลาเดน, ในปี 2005 พวกเขาถูกว่าจ้างโดยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ในช่วงหลังพายุเฮอริเคนแคทรีนาถล่มเพื่อปกป้องสถานที่ราชการ และลูกค้ารายสำคัญของรัฐ อาทิบริษัทปิโตรเคมี บริษัทประกันภัย, ในปี 2003 ถูกว่าจ้างเป็นจำนวน 21 ล้านเหรียญสหรัฐในการอารักขาเฮลิค็อปเตอร์ 2 ลำให้กับหัวหน้ากองกำลังที่กำลังจะบุกยึดครองอิรัก พูดง่าย ๆ ว่าหน่วยงานนี้นอกจากจะมีทีมทหารรับจ้างที่ทำงานเทา ๆ แล้ว ในทีมนี้ยังมีทีมแพทย์เดนตายที่เข้าไปทำการกู้ชีพและรักษาผู้คนในพื้นที่เสี่ยงภัยต่าง ๆ อีกด้วย

เราขอทิ้งท้ายด้วยคำสัมภาษณ์ศาสตราจารย์นายแพทย์อีกุกจอง หมอต้นแบบตัวละคร “หมอหัตถ์พระเจ้า” ที่เคยพูดเอาไว้เมื่อช่วงปี 2011 (ช่วงเดียวกับเหตุการณ์ในซีรีส์) จากหนังสือพิมพ์โคเรีย จุงอัง เดลี ว่า “ที่ผ่านมาในเกาหลีมีผู้บาดเจ็บสาหัสราวสามหมื่นรายต้องมาตายทุกปีเพราะการรักษาที่ล่าช้า เพราะระบบราชการห่วย ๆ และความไม่ใส่ใจของหมอบางคนเองด้วย แล้วถึงตอนนี้พวกเขาจะอยากสร้างศูนย์ฉุกเฉินขึ้นมาจริง ๆ ผมก็ได้แต่หวังว่าทีมแพทย์จะมุ่งมั่นด้วยความจริงใจ ไม่ใช่แค่เปิดตัวอย่างตู้มต้ามแล้วก็ปล่อยปละละเลยทิ้งขว้างทีหลัง ชาวบ้านเขาจะจวกเอาได้ว่าผลาญเงินภาษี ถ้าจะทำแบบนั้นก็อย่ามีเสียเลยจะดีกว่า”

และนี่คือคำตอบแบบปากแซ่บแรงถึงใจของหมออีตัวจริงที่ไม่ต่างกับในซีรีส์เลย