ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์
ช่วงที่ลุงหมีเคยเล่าเรื่องน้องหมาไว้ในเรื่องเล่าตอนที่ 31 (น้องหมาเป็นพนักงานบริษัท) มีแฟนคลับแมวเรียกร้องมาให้ลุงหมีเล่าเรื่องน้องแมวบ้าง จึงมาเขียนเล่าในตอนนี้ (มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มาเนอะ)
แฟนคลับของลุงหมีคนหนึ่งกำลังติดสัตว์เลี้ยงตัวใหม่มาก คือ แมวพันธ์ุบริติชขนสั้น (british short hair) เป็นแมวมีประวัติเก่าแก่ย้อนไปถึงยุคโบราณที่ชาวโรมันบุกเข้ามายึดครองอังกฤษ ได้นำแมวพันธุ์อียิปต์เข้ามาปล่อยไว้ ต่อมามีการผสมพันธุ์กับแมวป่าจึงกลายมาเป็นแมวอังกฤษพันธุ์นี้ เธอเฝ้าดูแลแมวตัวนี้อย่างเอาใจใส่จนเรียกตัวเองว่าเป็นทาสแมว
แมวที่น่ารักไปปรากฏตัวเป็นตัวละครเอกในหนังสือหลายเล่ม เช่น วรรณกรรมสำหรับเด็กเรื่อง Puss in Boots แต่งโดยชาลส์ เพอรอลต์ ตัวละครหลักเป็นแมวเจ้าเล่ห์ ต่อมาเจ้าแมวตัวนี้กลายเป็นตัวเอกในหนังแอนิเมชันเรื่อง Puss in Boots (2011) ดังในภาพโปสเตอร์หนังข้างล่าง
ภาพลักษณ์แมวตัวนี้ถูกสร้างเป็นแมวพันธุ์บริติชขนสั้น และเป็นแมวเดินได้เหมือนคน อันเป็นการตอกย้ำความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งของแมว คือ สามารถยืดตัวตรงขึ้นมายืนบนขาหลังได้ดี
หนังแอนิเมชันเรื่อง Puss in Boots ได้รับความนิยมจากแฟนหนังโดยเฉพาะเด็กเป็นอย่างสูง ทำเงินรายได้มากถึง 555 ล้านดอลลาร์ ค่ายหนัง DreamWorks จึงทำหนังภาคสองออกมาในปีถัดไป (2012) ชื่อว่า Puss in Boots: The Last Wish หนังเรื่องนี้ก็ยังทำเงินได้ถึง 485 บ้านดอลลาร์ หนังสนุกทั้งสองภาคนี้มีฉายที่ช่องทีวี Netflix
ตัวละครแมวที่คนชอบอ่านหนังสือรู้จักกันมากอีกตัวหนึ่ง คือ แมวเชสเชียร์จากวรรณกรรมสำหรับเด็กคลาสสิกเรื่อง การผจญภัยของอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ (Alice’s Adventure in Wonderland) แต่งโดยลูอิส คาร์รอล ในเรื่องมีเหตุการณ์ที่อลิซเผชิญหน้ากับแมวเชสเชียร์ซึ่งนั่งบนกิ่งไม้ยิ้มกริ่มอยู่ การสนทนาโต้ตอบแสดงให้เห็นถึงความยียวนของแมวตัวนี้ แต่ก็กระตุ้นให้ตีความหมายของคำพูดของแมว รูปวาดในหนังสือต้นฉบับแมวตัวนี้เป็นพันธุ์บริติชขนสั้นเช่นกัน นับเป็นความภูมิใจของชาวอังกฤษ ทำให้รูปแมวเชสเชียร์ได้ขึ้นอยู่บนแสตมป์ของอังกฤษถึงสองครั้ง
หนังสืออีกเล่มหนึ่งเป็นบทกวีพรรณนาเรื่องราวของแมวชื่อน่ารักต่างๆ รวม 14 บท คือ Old Possum’s Book of Practical Cats แต่งโดยยอดกวีอเมริกันที.เอส. เอเลียต กวีบทแรกใช้ชื่อว่า The Naming of Cats อธิบายว่าแมวจะมีสามชื่อด้วยกัน ชื่อแรกคือเจ้าของตั้งให้เรียกง่ายๆ เช่น Peter Jonathan หรือ Alonzo ชื่อที่สองจะตั้งให้ฟังหรูหราไม่เหมือนใคร เช่น Munkustrap, Coricopat หรือ Jellylorum (ชื่อเหล่านี้เอเลียตค้นคว้ามาจากภาษาอังกฤษโบราณ) ส่วนชื่อที่สามเป็นชื่อเฉพาะตัวที่แมวจะตั้งเองและไม่บอกใคร ดังนั้น ถ้าเห็นแมวนั่งนิ่งเหมือนทำสมาธิ นั่นแหละแมวกำลังใช้ความคิดตั้งชื่อตัวเองให้เจ๋งที่สุดออกมา ภาพปกหนังสือเล่มนี้อยู่ในรูปข้างล่าง
แอนดรูว์ ลอยด์ เวบเบอร์ ยอดนักแต่งเพลงชาวอังกฤษได้นำบทกวีเรื่องแมวของอีเลียตมาผูกเป็นละครเพลงเรื่อง Cats เล่าเรื่องราวของฝูงแมวรวมตัวกันเพื่อแข่งแสดงความสามารถเฉพาะตัว โดยตั้งชื่อแมวกลุ่มนี้ว่าJellicle Cats ฉากประกอบเพลงหมู่ชื่อ Jellicle Songs For Jellicle Cats ดูเพลิดเพลินมาก เพราะนอกจากความสนุกของเพลง ลีลาเต้นเลียนแบบแมวแล้ว ตัวละครแมวทุกตัวยังแต่งตัวแต่งหน้าสะท้อนภาพแมวพันธุ์ต่างๆ ดังในรูปและคลิปเพลงข้างล่าง
ละครเพลงเรื่องนี้นำเสนอเพลงยอดนิยมไว้เพลงหนึ่งชื่อ Memory แสดงบทแมวและ ร้องเพลงโดย Elaine Page ดังในคลิป
ฟังเรื่องราวของแมวจากมุมมองวรรณกรรม หนังและดนตรีกันแล้ว คราวนี้ลองฟังเรื่องแมวในมุมมองวิทยาศาสตร์กันบ้าง
แมวมีความสามารถเฉพาะตัวที่น่าทึ่งอย่างหนึ่ง คือ สามารถทำตัวอ่อนตัวลีบเหมือนกับไม่มีกระดูก แล้วมุดเข้าไปอยู่ในที่แคบ หรือภาชนะขนาดเล็ก หรือลอดช่องแคบๆ ได้ ดังเช่นในคลิปข้างล่าง น้องแมวตัวนี้แสดงความสามารถลอดช่องว่างเล็กๆใต้บานประตูได้
นักวิทยาศาสตร์บางคนสนใจความสามารถพิเศษของแมวที่กล่าวข้างต้น แล้วตั้งคำถามว่าตกลงแมวเป็นของแข็งหรือของเหลว (solid or liquid?) มีนักวิทยาศาสตร์คณะหนึ่งใช้หลักการทางฟิสิกส์สาขา fluid dynamics (พลศาสตร์ของไหล) พิสูจน์ได้ว่าในบางขณะแมวทำตัวเป็นของเหลวได้ คือ มีรูปทรงตามภาชนะที่บรรจุอยู่ โดยมีสมการทางคณิตศาสตร์เป็นเคริ่องพิสูจน์ดังในรูปที่ 6 ทำให้เกิดศัพท์ว่า liquid cat ขึ้น (FC คนใดอยากฟังคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ให้ลึกซึ้งขึ้น ติดต่อลุงหมีทางหลังไมค์ได้)
แมวยังมีความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่ผู้คนสังเกตได้ คือ ถ้าแมวตกลงมาจากที่สูง (ปีนขึ้นไปที่สูงเองหรือถูกคนจับโยนเล่น) แมวจะพลิกกลับตัวกลางอากาศแล้วตกลงมาบนพื้นดินบนสี่ขาเสมอ ทำให้แมวไม่เจ็บตัว ท่าลงดินของแมวเรียกกันว่า four point landing ดังตัวอย่างการทดสอบความสามารถแมวด้านนี้ในคลิปข้างล่าง
หมายเหต : ที่มาภาพ… รูปจาก Google / คลิปเพลงจาก YouTube