เรื่องเล่าจากลุงหมีปุ๊(37)..หนังanimeของmiyazaki ได้รางวัล oscar อีกครั้งหนึ่ง

ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์

ในการประกาศผลรางวัลoscarหรือรางวัลตุ๊กตาทองประกวดภาพยนต์ของอเมริกาเมื่อต้นปี2024 นี้ รางวัลประเภทภาพยนต์อนิเมชันขนาดยาว( best animated feature) ได้แก่ผลงานเรื่อง the boy and the heron กำกับโดย hayao miyazaki ทั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ผลงานของเขาได้รับรางวัลออสการ์หลังจากเมื่อ 20 ปีก่อน(2003) หนังanime( ชื่อเรียกหนังanimationเป็นภาษาญี่ปุ่น) ชื่อ spirited away ได้รับรางวัลมาก่อนแล้ว

miyazaki อายุ82 ปีเป็นผู้สร้างหนังanimeระดับตำนานของญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งโรงถ่ายหนังการ์ตูน ghibli studio ที่มีชื่อเสียง miyazakiเขียนเรื่องและกำกับการสร้างหนังanimeมาแล้วรวม12 เรื่อง ผลงานของเขา4 เรื่องได้รับเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ โดยในปี 2014 miyazakiได้รางวัลออสการ์เกียรติยศ ( honorary oscar) ในฐานะผู้มีคุณูปการต่อวงการหนังanimation และmiyazakiประกาศวางมือจากการกำกับหนังด้วยตัวเอง จนเปลี่ยนใจมาสร้างหนังanimetionอีกครั้งในรอบ10ปีจนได้รางวัลออสการ์อีกครั้ง

miyazaki ใช้เวลาสร้างหนังเรื่อง the boy and the heron นาน 6 ปี ใช้คนวาดภาพanimationรวม60 คน เป็นหนังที่ลงทุนมากที่สุดเรื่องหนึ่งของญี่ปุ่น หนังทำรายได้มากถึง 300 ล้านดอลลาร์อันถือเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลอันดับ5 ของญี่ปุ่น

miyazaki สร้างหนังเรื่องนี้ให้เป็นแนวประวัติตัวละคร ( bio pic) ผสมกับแนวแฟนตาซี โดยได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ชีวิตวัยเด็กของตัวเอง เรื่องราวในหนังเล่าถึงเด็กชายวัย11 ปีผู้ย้ายไปอยู่บ้านนอกหลังจากแม่เสียชีวิตหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เขาได้ค้นพบหอคอยร้างใกล้บ้านใหม่ซึ่งนำเขาเข้าไปสู่โลกแฟนตาซีโดยมีนกกระสาสีฟ้าซึ่งพูดภาษาคนได้เป็นเพื่อนร่วมผจญภัยในโลกที่ซับซ้อนและแฝงด้วยสัญญลักษณ์แห่งนี้ ประสบการณ์ชีวิตช่วงนี้ทำให้เด็กชายคนนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจงดงามที่ทำสิ่งดีๆเพื่อผู้อื่น

เนื่องจากเป็นหนังใหม่ทางnetflixจึงยังไม่ได้ซื้อหนังเรื่องนี้มาฉาย แต่netflixมีหนังอนิเมชั่นมีชื่อเสียงของmiyazakiและค่ายghibliฉายอยู่แล้วหลายเรื่องดังที่ลุงหมีจะแนะนำต่อไป

เมื่อปี2001 miyazakiสร้างหนังอนิเมชันที่ถือกันว่าเป็นสุดยอดของญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งชื่อเรื่อง spirited away ต่อมาค่ายดิสนีย์ซื้อลิขสิทธิ์ออกมาเผยแพร่ในประเทศอเมริกาเมื่อปี2003 หนังเรื่องนี้ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งทั่งจากคนดูและนักวิจารณ์ ทำเงินรายได้ทั่วโลกมากถึง 400 ล้านดอลลาร์ เป็นหนังทำรายได้สูงสุดของญี่ปุ่นอยู่นานถึง 19 ปี ได้รับรางวัลออสการ์ของปี2002 และถือกันว่าเป็นหนังอนิเมชันที่ดีที่สุดเรื่องนึงที่มีการสร้างขึ้นมา

หนังเรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซี ผจญภัย เล่าเรื่องของเด็กหญิงอายุ 10 ขวบกับพ่อแม่ถูกพลังลึกลับดูดเข้าไปในโลกของภูติผีตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นโบราณ ตัวพ่อแม่ถูกแม่มดสาปให้เป็นหมู เด็กหญิงตัวเอกของเรื่องต้องใช้ความกล้าหาญ มุ่งมั่นและความเฉลียวฉลาดพาตัวเองและพ่อแม่กลับสู่โลกมนุษย์ได้

หนังเรื่องนี้มีฉายทั้งทางทางyou tube และnetflix โดยลุงหมีนำโปสเตอร์หนังและคลิปหนังตัวอย่างมาให้ดูข้างล่าง

หนังอนิเมชันที่สร้างชื่อเสียงให้ miyazaki และได้รับความนิยมอย่างสูงมาก่อน คือ เรื่อง my neighber , totoro สร้างเมื่อปี 1988( ประมาณ 35 ปีมาแล้ว)

หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของเด็กผู้หญิงพี่น้องสองคนอายุ9 ขวบและ 4 ขวบได้ผูกมิตรเป็นเพิ่อนกับตัวtotoro ซึ่งเป็นภูติใจดีทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ป่า ความสัมพันธ์นำไปสู่การได้ทำสิ่งดีๆร่วมกัน เป็นหนังที่ดูง่าย น่ารักและอบอุ่น

ด้วยความนิยมอย่างสูงทำให้มีของเล่นทำออกมาเป็นตัวโทโทโร่เป็นสินค้าขายดีสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อีกทั้งค่ายหนังghibliก็นำลายเส้นรูปโทโทโร่ใช้เป็นโลโก้ของค่ายหนังด้วย

ลุงหมีขอนำเสนอโปสเตอร์หนังและคลิปหนังตัวอย่างของหนังanimeชื่อดังเรื่องนี้ดังข้างล่าง ในคลิปนี้จะเห็นตัวละครที่คนนิยมอีกตัวหนึ่ง คือ cat bus หรือแมวที่ทำหน้าที่เป็นรถโดยสารพาคนนั่งไปที่ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วมีการจัดนิทรรศการโทโทโร่ที่เซ็นทรัลเวิร์ล โดยจำลองการแสดงบางส่วนของghibi museumของญี่ปุ่นมาเป็นนิทรรศการเคลื่อนที่ยังกรุงเทพ มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่รู้จักโทโทโร่และหนังanimeของค่ายghibi เข้าไปชมดูอย่างเพลิดเพลิน

จุดเด่นนึงของการชมนิทรรศการนี้ คือ การถ่ายรูปร่วมกับหุ่นโทโทโร่และการขึ้นนั่งรถบัสแมว ดังแสดงตัวอย่างโดยfcของลุงหมีสองคนที่กลับไปรำลึกความหลังครั้งที่เคยดูหนังเรื่องโทโทโร่มานานแล้ว

ลุงหมีขอแนะนำหนังอนิเมชันที่มีชื่อเสียงของค่ายghibliอีกเรื่องหนึ่ง เป็นหนังสร้างจากโครงเรื่องของนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่นเรื่องเจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ คือเด็กผู้หญิงที่ถูกพบในกระบอกไม้ไผ่และต่อมาเติบโตเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

หนังเรื่องนี้ใช้ชื่อเรื่องว่า tale of princess kaguya ใช้งบลงทุนมากถึง 50 ล้านดอลลาร์ กำกับการสร้างโดย isao takahata หนังได้รับการตอบรับจากนักวิจารณ์เป็นอย่างสูงว่าวาดด้วยภาพสีนำ้อย่างงดงาม เนื้อเรื่องน่าประทับใจและสะท้อนขนบธรรมเนียมเก่าแก่ของญี่ปุ่น สร้างตัวละครนางเอกให้มีจิตใจงดงาม เฉลียวฉลาดแม้ถูกตีกรอบให้อยู่ในขอบเขตจำกัดของผู้หญิงญี่ปุ่นสมัยโบราณ และเฉลยตอนจบว่าเจ้าหญิงคนนี้ก็คือเงาทีคนญี่ปุ่นมองเห็นในดวงจันทร์

หนังเรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ประเภทหนังแอนิเมชั่นของปี 2014 ผู้สนใจสามารถหาดูหนังเรื่องนี้ได้จาก you tube และ netflix ทั้งนี้ลุงหมีขอนำโปสเตอร์หนังและคลิปหนังตัวอย่างมาให้ดูดังข้างล่าง