ที่มาภาพ : www.mof.go.th/
ปม ‘กฤษฎา’ ไขก๊อกลาออกจาก รมช.คลัง ‘น้อยใจ’ หรือ ‘ถูกบีบ’ จับตา! ครม.สัญจรเพชรบุรี ถกโควตารัฐมนตรี รทสช. ดัน ‘บิ๊กเล็ก’ ขึ้น รมช.กลาโหม แลกคลัง
กรณีนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ไขก๊อกลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (รมช.คลัง) ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ บ้างก็ว่ามีสาเหตุมาจากความน้อยใจ หลังจากนายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เซ็นคำสั่งแบ่งงาน โดยมอบหมายให้นายกฤษฎากำกับดูแลสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กรมเล็ก ๆ เพียงกรมเดียว จากเดิมได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกรมสรรพสามิต, กรมบัญชีกลาง และสำนักงานปลัดกระทรวง มองว่าเป็นการถูกลดชั้น เหมือนกรณีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ชิงลาออกไปก่อนหน้านี้ เหตุเพราะถูกลดชั้นจากรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เหลือแค่ตำแหน่งเดียว คือ รมว.ต่างประเทศ
นักวิชาการบางท่านมองว่าเมื่อสถานการณ์การเมืองเปลี่ยน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้อยู่ในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แล้ว กลุ่มทุนใหญ่ที่เคยสนับสนุนพรรคตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง รทสช. ย้ายขั้วไปสนับสนุนพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำ
หากย้อนกลับไปดูที่มาของนายกฤษฎาก่อนก้าวเข้าสู่แวดวงการเมือง เดิมทีก็ไม่ได้เป็นสมาชิก หรือ เป็นผู้สมัคร ส.ส.ของ รทสช.แต่อย่างใด แต่หลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2566 นายกฤษฎาลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังก่อนที่จะเกษียณ จากนั้นอีกไม่นานก็มีชื่อนายกฤษฎาโผล่ขึ้นมา จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็น รมช.คลังของรัฐบาลเศรษฐา 1 ในโควตาของ รทสช. แม้คนในพรรคเองก็ยังไม่แน่ใจ บางกระแสก็ว่านายกฤษฎา มาสายลุงตู่(พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) บางกระแสก็ว่ากลุ่มทุนที่ให้การสนับสนุนพรรคขอมา ซึ่งประเด็นนี้ก็มีการจับเชื่อมโยงกับกรณีการลาออกของนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในสมัยรัฐบาลลุงตู่ ที่ยื่นใบลาออกจากสมาชิก และตำแหน่งอื่นๆใน รทสช.ทุกตำแหน่ง ก่อนที่นายกฤษฎายื่นใบลาออกจาก รมช.คลัง 1 วัน โดยอ้างว่าติดภารกิจส่วนตัวหลายประการ ซึ่งคนในแวดวงธุรกิจ และการเมือง ก็เป็นที่รู้กันว่านายสุพัฒนพงษ์ มีสายสัมพันธ์กับบิ๊กกลุ่มทุนที่ให้การสนับสนุน รทสช.
ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้ตกใจแต่ประการใด ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีการลาออกของนายกฤษฎา ว่า “ถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อมีคนออก ก็ต้องหาคนแทน แต่โควตา รมต.ยังเป็นของ รทสช.อยู่น่ะ”
ส่วนกรณีนายสุพัฒนพงษ์ลาออก นายพีระพันธุ์ ตอบว่า “เป็นเรื่องส่วนตัว ใครจะอยู่ ใครจะไป ก็ตัดสินใจกันเอง” หากแนวทางวิเคราะห์ดังกล่าวนี้เป็นจริง อาจสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาภายใน รวมไปถึงอนาคตของ รทสช.
แต่ที่น่าจับตาในตอนนี้ คือ โควตารัฐมนตรีของ รทสช.จะถูกเปลี่ยนจาก รมช.คลัง ไปเป็น รมช.กลาโหม หรือไม่ เนื่องจากมีกระแสข่าวภายใน รทสช. อาจดัน “บิ๊กเล็ก” หรือ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการประทรวงกลาโหม ขึ้นไปเป็น รมช.กลาโหมอีกครั้ง แลกกับโควตา รมช.คลัง ซึ่งประวัติของบิ๊กเล็กนั้นเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองเลขาธิการพระราชวัง จบเตรียมทหารรุ่นที่ 20 และ จปร.รุ่นที่ 31 อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในสมัยรัฐบาลลุงตู่
ทั้งนี้ เพื่อเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยได้เข้าไปกำกับดูแลกระทรวงการคลังอย่างเบ็ดเสร็จ ขับเคลื่อนงานแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และปากท้องของประชาชนได้อย่างเต็มที่ คาดว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีการหารือเรื่องโควตารัฐมนตรีของ รทสช.ในช่วงที่จัดการประชุม ครม.สัญจร จังหวัดเพชรบุรี วันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ส่วนผลออกเป็นอย่างไร รทสช.จะดัน “บิ๊กเล็ก” ขึ้น รมช.กลาโหม และเพื่อไทยได้คุมกระทรวงคลังเบ็ดเสร็จ หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป….
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
