ปลัดพลังงานใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดึงราคา ‘เบนซิน’ ตั้งแต่ 1 ก.พ.นี้ หลังสิ้นสุดมาตรการลดภาษีลิตรละ 1 บาท ขณะที่กองทุนน้ำมัน ฯมีหนี้สิน 113,580 ล้านบาท ฐานะการเงินติดลบ 83,020 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่ ครม. ได้มีมติปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันกลุ่มเบนซิน ประกอบกับกระทรวงพลังงานได้มีมาตรการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินทุกประเภท ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินลดลงมา ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นมา โดยมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มกราคม 2567 ที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ประชุมเตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าว ทั้งการบริหารจัดการเรื่องราคาโดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) และการบริหารจัดการเรื่องปริมาณการจัดหา และการจำหน่ายโดยกรมธุรกิจพลังงาน และสำนักงานพลังงานจังหวัดทั่วประเทศ มั่นใจแม้สิ้นสุดมาตรช่วยเหลือดังกล่าว ยังสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน
“มาตรการช่วยกลุ่มเบนซินที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคมนี้ เป็นไปตามมติ ครม.ที่กระทรวงพลังงานเสนอในการลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ใช้น้ำมันเบนซินในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงพลังงานขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหลังจากสิ้นสุดมาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 กระทรวงพลังงานจะใช้กลไกของกองทุนฯน้ำมันเข้ามาบริหารจัดการเรื่องราคาน้ำมัน เพื่อไม่ให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันตรวจสอบให้มีน้ำมันพร้อมจำหน่ายเต็มที่ ซึ่งหากไม่ได้รับความสะดวกก็สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกรมธุรกิจพลังงาน 02-794-4111 และศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกระทรวงพลังงาน 02-140-6081” ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าว
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 21 มกราคม 2567 กองทุนน้ำมัน ฯมีสินทรัพย์รวม 30,560 ล้านบาท หนี้สินรวม 113,580 ล้านบาท และเมื่อนำหักลบกันแล้วกองทุนน้ำมันฯจึงมีฐานะสุทธิติดลบ 83,020 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 36,594 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน (LPG) ติดลบ 46,426 ล้านบาท และหลังจากที่มติ ครม.เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ที่ให้กรมสรรพสามิตปรับลดภาษีน้ำมันเบนซินลิตรละ 1 บาท สิ้นสุดลง ทำให้กรมสรรพสามิตต้องกลับไปเก็บภาษีกลุ่มน้ำมันเบนซินในอัตราเดิมมีรายละเอียดดังนี้ น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว (ULG 95) เก็บภาษีลิตรละ 6.5 บาท , น้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91,95เก็บภาษีลิตรละ 5.85 บาท , น้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ อี – 20 เก็บภาษี ลิตรละ 5.20 บาท และน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ อี – 85 เก็บภาษีลิตรละ 0.975 บาท เป็นต้น
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
