ThaiPublica > เกาะกระแส > ท่ามกลางการส่งออกติดลบเป็นเดือนที่ 4 แต่จีนกลับส่งออก “รถยนต์ใช้น้ำมัน” ล้นตลาดโลก

ท่ามกลางการส่งออกติดลบเป็นเดือนที่ 4 แต่จีนกลับส่งออก “รถยนต์ใช้น้ำมัน” ล้นตลาดโลก

10 กันยายน 2023


รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

ที่มาภาพ : chinadaily.com

หน่วยงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า ในเดือนสิงหาคม 2023 มูลค่าการส่งออกของจีนลดลง 8.8% เทียบกับปีที่แล้ว นับเป็นเดือนที่ 4 ที่การส่งออกลดลง ส่วนการนำเข้าในเดือนสิงหาคมลดลง 7.3% ก่อนหน้านี้ ในเดือนกรกฎาคม การส่งออกของจีนลดลงถึง 14.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

โลกจับตามองภาวะเศรษฐกิจจีนอย่างใกล้ชิด เพราะจีนเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก ข้อมูลการส่งออกและนำเข้าของจีนล่าสุด สะท้อนว่า อุปสงค์ความต้องการทั้งภายในจีนและของโลก ยังคงอ่อนตัว บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ โดยเฉพาะร้านค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐฯ วิตกในเรื่องการพึ่งพาอุปทานการผลิตจากจีน ขณะที่ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ รุนแรงมากขึ้น

มาตรการ “โควิดเป็นศูนย์” ของจีน ที่สั่งปิดธุรกรรมทางธุรกิจ และการผลิต เป็นเวลานานเป็นสัปดาห์ ตามเมืองใหญ่ๆ ทำให้การส่งออกสินค้าจีนชะลอตัวออกไป เมื่อความกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 ลดลงไป ทำให้ครัวเรือนทั่วโลก และในจีน หันมาใช้จ่ายเงินในด้านการเดินทาง ร้านอาหาร และบริการอื่นๆ มากขึ้น

ตลาดโลกต้องการรถยนต์จีนมาก

แต่บทความชื่อ China Is Flooding the World With Car ของ nytimes.com รายงานว่า ในช่วงที่การส่งออกของจีนเริ่มหมดแรง และชะลอตัวลง รวมทั้งผู้บริโภคคนจีนใช้จ่ายเงินลดลง จีนกลับส่งออกรถยนต์ไหลบ่าไปท่วมตลาดโลก อุปสงค์ความต้องการของตลาดต่างประเทศ ยังมีมากกับรถยนต์จีน ที่ขายราคาไม่แพง โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน จนอุปสรรคการส่งออกรถยนต์จีนคือ ขาดแคลนเรือบรรทุกรถยนต์โดยเฉพาะ

นับจากเกิดสงครามยูเครน บริษัทรถยนต์จีนเข้ายึดครองตลาดในรัสเซีย โดยอาศัยการขนส่งทางรถไฟ และรถยนต์จีนกำลังเข้ายึดครองส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และอเมริกาใต้ ส่วนการส่งออกรถยนต์จีนไปสหรัฐฯ ยังอยู่ในภาวะลังเล เพราะปัญญาหาการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ในสมัยรัฐบาลทรัมป์ แต่บริษัทรถยนต์จีนเตรียมบุกตลาดในยุโรปครั้งใหญ่ เมื่อมีเรือบรรทุกรถยนต์มากพอ

อู่ต่อเรือสำหรับบรรทุกรถยนต์โดยเฉพาะ ตามแม่น้ำแยงซี ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ เรือบรรทุกรถยนต์ลำหนึ่ง สามารถบรรทุกรถยนต์ได้ทั้งหมด 5,000 คัน เปรียบเหมือนที่จอดรถลอยน้ำ

ตัวเลขของทางการจีนระบุว่า ในช่วง 8 เดือนของปีนี้ การส่งออกของจีนโดยรวม ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์จนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ลดลง 5.5% แต่ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา การส่งออกรถยนต์ของจีนกลับพุ่งขึ้น 4 เท่าตัว เฉพาะปี 2023 ที่ผ่านมา การส่งออกรถยนต์ของจีนเพิ่มขึ้น 86% ในปีนี้ จีนจะกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกรถยนต์ชั้นนำของโลก มากกว่าญี่ปุ่น

คนจีนมองข้ามรถยนต์ใช้น้ำมัน

นับจากเกิดวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ การใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคชาวจีนอ่อนตัวลง ในแทบทุกด้าน รวมทั้งรถยนต์ หลังจากที่ทางการจีนยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่ยาวนานกว่า 3 ปี สัญญาณสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวจีน ฟื้นตัวไม่มาก หากจะซื้อรถยนต์ คนจีนก็เลือกรถไฟฟ้า EV ของบริษัทรถยนต์จีน ทำให้มีปริมาณรถยนต์ใช้น้ำมันเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ที่คนจีนไม่ต้องการ แต่ยังสามารถขายได้ในตลาดต่างประเทศ

รายงานของ nytimes.com ระบุว่า บริษัทรถยนต์จีนต้องติดอยู่กับ “กับดัก” ความสามารถในการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันได้ปีหนึ่ง 15 ล้าน ทางออกหนึ่งในการแก้ปัญหาคือการส่งออกรถยนต์ 4 ล้านคัน ในราคาที่ต่ำ Bill Russo อดีตผู้บริหารของบริษัท Chrysler ในจีน กล่าวว่า ทางเลือกของบริษัทรถยนต์จีนคือ ส่งออกหรือไม่ก็ปิดโรงงาน

บริษัทรถยนต์จีนสามารถเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโลกมากขึ้น เพราะเหล็กกล้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีราคาถูกในจีน ทำให้บริษัทรถยนต์จีนได้เปรียบ รัฐบาลท้องถิ่นในจีนจะให้การอุดหนุนในรูปแบบต่างๆ เช่น ให้ที่ดินเปล่าไม่คิดมูลค่าในการสร้างโรงงานรถยนต์ ให้เงินกู้แทบไม่คิดดอกเบี้ย และอื่นๆ

ที่มาภาพ : https://www.byd.com/us

ผลิตรถยนต์ได้เร็วกว่าต่อเรือบรรทุก

หลังจากใช้เวลาในการพัฒนาคุณภาพและเทคโนโลยี รถยนต์จีนก็เริ่มไปออกงานเช่น งานมอเตอร์โชว์ที่มิวนิก ในออสเตรเลีย รถยนต์จีนมียอดขายมากกว่ารถยนต์เกาหลีใต้ และกำลังไล่ตามหลังรถยนต์ญี่ปุ่น รถยนต์จีนขยายการส่งออกอย่างรวดเร็ว ไปยังเม็กซิโกและอังกฤษ รวมทั้งเพิ่มการส่งรถยนต์ผ่านท่าเรือในเบลเยียมและสเปน ประตูสำคัญสู่ตลาดในกลุ่ม EU นาย Michael Dunne อดีตผู้บริหารบริษัท GM ในอินโดนีเซียกล่าวว่า จีนสร้างรถยนต์ได้เร็วกว่าการสร้างเรือบรรทุก

แต่สภาพการขาดแคลนเรือบรรทุกรถยนต์ กำลังเปลี่ยนไป บริษัทรถยนต์จีน BYD และ Chery กับบริษัทเดินเรือของยุโรปและสิงคโปร์ เป็นผู้สั่งซื้อการต่อเรือบรรทุกรถยนต์แทบทั้งหมด ในจำนวน 170 ลำของโลก ก่อนหน้าที่การส่งออกรถยนต์ของจีนจะรุ่งเรืองขึ้นมา ทั่วโลก มีการสั่งซื้อการต่อเรือบรรทุกรถยนต์เพียง 4 ลำเท่านั้น

บทความของ nytimes.com บอกว่า แรงจูงใจในการต่อเรือบรรทุกรถยนต์ มีให้เห็นอย่างชัดเจน ทุกวันนี้ ค่าขนส่งเรือบรรทุกรถยนต์ตกวันละ 105,000 ดอลลาร์ เพิ่มจากเมื่อสองปีที่แล้ว ที่ค่าขนส่งอยู่ที่วันละ 16,000 ดอลลาร์ BYD ใช้เงินเกือบ 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อต่อเรือบรรทุกรถยนต์ขนาดใหญ่สุด 6 ลำ เรือเหล่านี้คาดว่าจะเสร็จใน 3 ปีข้างหน้า

ยุโรปกำลังเป็นเป้าหมายหลักการส่งออกรถยนต์ของจีน โดยอาศัยยี่ห้ออย่าง Volvo และ MG ที่จีนเข้าซื้อกิจการมาหลายปีแล้ว และเป็นยี่ห้อรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับในตลาดยุโรป บริษัท Shanghai Automotive Industry Corporation (SAIC) ที่เป็นรัฐวิสาหกิจของจีน เข้าซื้อกิจการ MG ของอังกฤษ ในปี 2007 ต่อมา SAIC เปลี่ยนชื่อเป็น SAIC Motor

โรงงานผลิตรถยนต์ MG ในจีน ส่งออกรถยนต์ MG ราคาไม่แพง จากจีนไปยังอังกฤษ และออสเตรเลีย ในปีนี้ รถยนต์ MG กลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ขายดีในออสเตรเลีย ส่วนบริษัท General Motors ที่ร่วมทุนกับ SAIC Motor เริ่มส่งออกรถยยนต์ Chevrolet Aveo ไปเม็กซิโก มีราคาเริ่มต้นที่ 16,300 ดอลลาร์

รายงานของ nytimes.com บอกว่า มีตลาดใหญ่ตลาดหนึ่ง ที่การส่งออกรถยนต์ของจีนมองข้ามไปคือตลาดสหรัฐฯ ทุกวันนี้ ยังไม่มีรถยนต์จีนขายในสหรัฐฯ และอาจมีผู้ผลิตของจีนไม่กี่รายที่จะบุกตลาดนี้ ปี 2018 และ 2019 เมื่อรัฐบาลทรัมป์เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ทั้งรถยนต์ใช้น้ำมันและรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25%

ทุกวันนี้ ภาษีในอัตราดังกล่าวยังมีผลบังคับใช้อยู่ และเป็นมาตรการที่อยู่ในกฎหมาย ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาสหรัฐฯ โดยให้อำนาจการใช้ดุลพินิจของผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ที่สามารถเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าได้อีก หากมีความจำเป็น

เอกสารประกอบ

China’s Exports Fall for Fourth Straight Month, 06 September 2023, nytimes.com
China Is Flooding the World with Cars, 06 September 2023, nytimes.com