ThaiPublica > เกาะกระแส > ความสำเร็จของไต้หวัน สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ความสำเร็จของไต้หวัน สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

28 มีนาคม 2020


รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า(โควิด-19) ที่มาภาพ : https://experience.arcgis.com/experience/685d0ace521648f8a5beeeee1b9125cd

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระจายไป 199 ประเทศทั่วโลก กลายเป็นบททดสอบต่อระบบการบริหารจัดการของประเทศต่างๆ เช่นเดียวกับวิกฤติทางการเงินเป็นบททดสอบ (stress test) ต่อสถาบันการเงิน จีนอาจให้บทเรียนจากมาตรการเข้มงวด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส แต่ก็ปล่อยให้การแพร่ระบาดเกิดขึ้นในระยะแรกอยู่หลายสัปดาห์ ส่วนสหรัฐอเมริกา การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สะท้อนการละเลยต่อการลงทุนในด้านสาธารณสุข

ในขณะเดียวกัน ก็มีหลายประเทศที่ประสบความสำเร็จ โดยสามารถชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ในระยะช่วงแรกของการแพร่ระบาด เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ทำให้กลายเป็นบทเรียน ที่ประเทศต่างๆทั่วโลก สามารถจะเรียนรู้จากความสำเร็จดังกล่าว

“แผนที่หน้ากาก” ของไต้หวัน

บทความชื่อ The world can learn from Taiwan ในtaipeitimes.com กล่าวว่า ไต้หวันได้รับการยกย่องจากสื่อต่างประเทศในเรื่อง ปฏิกิริยาที่รวดเร็วในการรับมือกับการแพร่ระบาด และมาตรการป้องกันที่ได้ผล ประเทศต่างๆเผชิญปัญหาการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ประชาชนตื่นตระหนก และการขาดแคลนหน้ากากอนามัย แต่ไต้หวันกลับแสดงออกถึงบทบาทภาวะความเป็นผู้นำที่โดดเด่น โดยการใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความวิตกของประชาชน และป้องกันไม่ให้ประชาชนกักตุนหน้ากากอนามัย

ทางการไต้หวันเริ่มตรวจตราผู้โดยสารจากอู่ฮั่น ตั้งแต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดในช่วงปลายเดือนมกราคม และนับจากวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ไต้หวันห้ามผู้โดยสารจากจีนไม่ให้เดินทางเข้ามาไต้หวัน ส่วนผู้โดยสารชาวไต้หวันเองที่มาจากจีน ถูกกักตัว 14 วัน
ศูนย์บัญชาการสาธารณสุขแห่งชาติ (National Health Command Center – NHCC) ที่ตั้งขึ้นมาในสมัยการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส มีบทบาทสำคัญในการออกมาตรการควบคุมไวรัสโควิด-19 ภายในเวลา 4 วัน หลังจากมีคนติดเชื้อรายแรกในไต้หวัน รัฐบาลห้ามการส่งออกหน้ากากอนามัยทันที

รัฐบาลขอให้โรงงานผลิตหน้ากากทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ให้การสนับสนุนเงินทุน หากโรงงานต้องตั้งสายพานการผลิตเพิ่มขึ้นมาใหม่ ส่งกำลังทหารเข้าไปช่วยการผลิตของโรงงาน และดูแลไม่ให้มีการขโมยหน้ากาก รัฐบาลรับซื้อหน้ากากที่ผลิตในไต้หวันทั้งหมด และลดราคาหน้ากาก จากอันละ 8 ดอลลาร์ไต้หวัน (8.8 บาท) เหลือ 5 ดอลลาร์ไต้หวัน (5.5 บาท)

เมื่อรัฐบาลไต้หวันเข้าควบคุมการผลิตหน้ากาก และใช้ระบบการปันส่วนหน้ากาก โดยอนุญาตให้ประชาชนแสดงบัตรประชาชน เพื่อซื้อหน้ากากได้ที่ร้านขายยา ทำให้ไม่เกิดการกักตุนหน้ากาก Audrey Tang รัฐมนตรีที่เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล เป็นคนที่พัฒนาแฟลตฟอร์มเรื่อง “แผนที่หน้ากาก” เพื่อให้ข้อมูลทันทีทันใดว่า มีหน้ากากขายที่ร้านขายยาไหนบ้างทั่วไต้หวัน

เว็บไซต์ foreignaffairs.com กล่าวว่า รัฐบาลจีนใช้เทคโนโลยีไฮเทคเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมประชาชน ส่วนประเทศตะวันตก ยักษ์ใหญ่ธุรกิจไฮเทคอาศัยเป็นช่องทางด้านโฆษณา แต่ไต้หวันกลับทำให้ไฮเทคเป็นเครื่องมือนวัตกรรมด้านประชาธิปไตย หรือการมีส่วนร่วมของประชาชน

Orchard Road สิงคโปร์ ที่มาภาพ : scmp.com

8 มาตรการของสิงคโปร์


บทความชื่อ The Singapore way: eight steps to fight the coronavirus ใน scmp.com กล่าวว่า สิงคโปร์ได้รับยกย่องในเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัวโควิด-19 โดยอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นช้า เมื่อเทียบกับประเทศอื่น สิงคโปร์สามารถทำให้กราฟการติดเชื้อเป็นเส้นแนวนอน ทำให้โรงพยาบาลไม่มีภาระการรักษาคนติดเชื้อจนล้นมือ ทั้งนี้ก็เพราะใช้วิธีการควบคุมและสอบสวนการติดเชื้อที่เข้มงวด เพื่อแยกคนติดเชื้อออกมา

Gan Kim Yong รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่า สิงคโปร์มี 8 มาตรการที่จะต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 คือ

    (1) ชะลอการติดเชื้อ ทำให้มีการติดเชื้อต่ำที่สุด และดำเนินไปนานที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทั้งนี้เพื่อให้มีเวลาในการสอบสวนการติดตามโรค

    (2) การสอบสวนการติดเชื้อ คนติดเชื้อต้องให้ข้อมูลว่าใกล้ชิดกับใครบ้าง ขณะนี้ สิงค์โปร์มีทีมงานติดตามโรคเพิ่มจาก 3 เป็น 20 ทีม ส่วนหนึ่งมาจากทางทหาร

    (3) การตรวจเชื้อ สิงคโปร์ตรวจเชื้อไปแล้ว 39,000 ราย หรือ 6,800 รายต่อประชากร 1 ล้านคน เทียบกับเกาหลีใต้และไต้หวัน 6,500 ราย และ 1,000 รายต่อประชากร 1 ล้านคน การตรวจเชื้อดังกล่าว ช่วยติดตามการติดเชื้อได้มากสุดที่เป็นไปได้

    (4) บริหารความสามารถทางสาธารณสุข โรงพยาบาลสิงคโปร์มีเตียงคนไข้ทั้งหมด 13,300 เตียง รัฐบาลให้หลักประกันว่าคนสิงคโปร์จะได้รับการดูแลรักษาฟรี แต่คนที่เดินทางไปต่างประเทศ โดยฝืนคำสั่งห้าม แล้วเข้ากับการรักษาโรงพยาบาลรัฐ จะไม่ได้รับอุดหนุนจากรัฐ

    (5) การวิจัยวัคซีน สิงคโปร์ทุ่มเทให้กับการวิจัยเรื่องการรักษาและวัคซีนสำหรับโควิด-19 วิทยาลัยแพทย์ DUKE-NUS ได้ร่วมมือกับสถาบันนานาชาติ เพื่อพัฒนาการทดลองวัคซีน

    (6) การปกป้องเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สิงคโปร์ถือว่าบุคลากรทางการแพทย์เป็นทรัพยากรสำคัญที่สุด หากมีการติดเชื้อมากขึ้น บุคลากรเหล่านี้จะทำงานหนักมากขึ้น นอกจากบุคลากรจะมีอุปกรณ์ป้องกันที่พอเพียงแล้ว ยังต้องมีการพักผ่อนที่พอเพียงอีกด้วย

    (7) รักษาระยะห่างทางกายภาพ สิงคโปร์ห้ามการชุมนุมกันมากกว่า 250 คน สถานบันเทิงถูกปิดจนถึงปลายเดือนเมษายน และประชาชนแต่ละคนต้องรักษาระยะห่างทางกายภาพ การละเมิดจะถูกปรับ 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์และจำคุก 6 เดือน และ (8) ทุกคนมีความรับผิดชอบ จากการศึกษาพบว่า คนติดเชื้อที่ดูแลตัวเอง สามารถป้องกันไม่ให้คนอีก 2-3 คน ติดเชื้อใหม่ขึ้นมา สิงคโปร์เรียกร้องให้คนมีอาการไม่รุนแรง ให้อยู่ที่บ้าน และให้การสนับสนุนทางการเงินแก่นายจ้าง เพื่อให้พนักงานป่วยไม่ต้องทำงาน

ที่มาภาพ : nytimes.com

กราฟแนวนอนของเกาหลีใต้

บทความของ New York Times ชื่อ How South Korea Flattened the Curve กล่าวว่า เกาหลีใต้และจีนเป็น 2 ประเทศ ที่เกิดการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 แต่ก็สามารถทำให้การแพร่ระบาดรายใหม่มีลักษณะเป็นเส้นกราฟแนวนอน เกาหลีใต้ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาด โดยไม่มีการจำกัดการเคลื่อนไหวของประชาชนอย่างเข็มงวด แบบเดียวกับจีน หรือการล๊อกดาวน์ทางเศรษฐกิจ เหมือนกับในสหรัฐฯและยุโรป

องค์การอนามัยโลกแนะนำให้หลายประเทศใช้บทเรียนจากเกาหลีใต้และจากประเทศอื่น

บทเรียนที่ 1 ของเกาหลีใต้คือ การดำเนินการอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกลายเป็นวิกฤติ ในปลายเดือนมกราคม หนึ่งสัปดาห์หลังจากมีคนติดเชื้อรายแรก รัฐบาลเกาหลีใต้ขอให้บริษัทยาเร่งผลิตเครื่องตรวจไวรัส ปัจจุบัน สามารถผลิตได้ 100,000 ชุดต่อวัน

บทเรียนที่ 2 เกาหลีใต้ทดสอบการติดเชื้อให้ประชาชนมากกว่าประเทศใดในโลก ทำให้สามารถแยกคนติดเชื้อ และรักษาคนติดเชื้อได้จำนวนมากและอย่างรวดเร็ว เกาหลีใต้ตรวจการติดเชื้อประชาชนมาแล้วกว่า 300,000 คน การตรวจเชื้อทำให้รู้จำนวนคนติดเชื้อตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยลดการระบาด และรักษาอย่างรวดเร็ว ทำให้อัตราการเสียชีวิตต่ำ

บทเรียนที่ 3 คือการสอบสวนการติดเชื้อ การติดต่อคนอื่น การโดดเดี่ยว และการควบคุม กระบวนการนี้ทำให้คนที่สอบสวนโรค สามารถระบุเครือข่ายการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในระยะแรก

บทเรียนที่ 4 คือการระดมการสนับสนุนจากประชาชน เนื่องจากทางการไม่มีเจ้าหน้าที่ หรือเครื่องมือพอเพียง ที่จะตรวจเชื้อทุกคน ดังนั้น การจะลดการแพร่ระบาดจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน และการให้ข้อมูลแก่ประชาชน โทรทัศน์ การประกาศในรถไฟใต้ดิน และข้อความที่ส่งไปสมาร์ทโฟน จะเตือนให้คนสวมหน้ากาก เว้นระยะห่างทางสังคม และแจ้งตัวเลขการติดเชื้อของวัน

เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ยังยกประโยชน์ให้กับระบบดูแลสุขภาพที่เป็นของรัฐ ที่ให้หลักประกันการดูแลรักษาที่ไม่มีค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน รวมทั้งที่เกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชน ที่แม้จะไม่มีอาการ ก็มีแจงจูงใจที่จะไปตรวจเชื้อ

แต่นักวิเคราะห์บางคนเห็นว่า การดำเนินงานที่รวดเร็วของไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ หรือฮ่องกง ในควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเพราะประเทศเหล่านี้ เคยมีประสบการณ์มาแล้ว จากการระบาดของโรคซาร์สในปี 2003 ทำให้ประชาชนต่างก็มีส่วนร่วม เช่น การสวมหน้ากาก การล้างมือ และการหลีกเลี่ยงแหล่งที่มีคนจำนวนมาก

เอกสารประกอบ

The world can learn from Taiwan, March 18, 2020, taipetimes.com
The Singapore way: eight steps to fight the coronavirus, 25 March 2020, scmp.com
How South Korea Flattened the Curve, 23 March 2020, nytimes.com