ThaiPublica > Sustainability > ESG-driven Society > ‘ออมสิน’ ใช้ “ESG Score” ประเมินสินเชื่อรายใหญ่รายแรก ตั้งเป้าลดคาร์บอนฯ 1.72 ล้านตัน ในปี’50

‘ออมสิน’ ใช้ “ESG Score” ประเมินสินเชื่อรายใหญ่รายแรก ตั้งเป้าลดคาร์บอนฯ 1.72 ล้านตัน ในปี’50

6 กันยายน 2023


นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน

บอร์ดออมสินไฟเขียว ‘โรดแมปลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก’ ใช้ “ESG Score” ประเมินสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่เป็นรายแรก – งดปล่อยกู้ธุรกิจถ่านหิน ตั้งเป้า Net Zero – ลดคาร์บอนฯ 1.72 ล้านตัน ภายในปี 2550

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารออมสินได้มีมติอนุมัติแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ “Net Zero Emissions Roadmap” ทั้ง 3 Scope ภายในปี 2050 โดยในอีก 7 ปีข้างหน้าตั้งเป้า Net Zero สำหรับ Scope 1 และ 2 ซึ่งเป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของธนาคารจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและไฟฟ้า ขณะที่ Scope 3 ที่เป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการให้สินเชื่อแก่ลูกค้าและการลงทุน โดยธนาคารจะดำเนินการคู่ขนานจนสามารถบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกในภาพรวมลงได้มากกว่า 50% ภายในปี 2030 และตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Net Zero) ให้ได้ 1.72 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ (tCO2e) ภายในปี 2050

ทั้งนี้ ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการดำเนินธุรกิจของธนาคารออมสินกว่า 97% มาจากการปล่อยสินเชื่อแก่ลูกค้าและการลงทุน (Scope 3) ซึ่งมีการจัดเก็บและคำนวณได้จากวิธีการตามมาตรฐาน Science-Based Target Initiative ที่เป็นสากล

“นับจากนี้ไป ธนาคารได้กำหนดแผนงดการปล่อยสินเชื่อแก่ธุรกิจเชื้อเพลิงถ่านหิน และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (No Coal and Coal Related Business) และเริ่มการใช้ ESG Score ในการประเมินคุณสมบัติด้าน ESG ของลูกค้าวงเงินสินเชื่อ 500 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งผลคะแนน ESG Score จะถูกนำมาประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ โดยธนาคารพร้อมมอบส่วนลดดอกเบี้ย หรือ อนุมัติเพิ่มวงเงินสินเชื่อให้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนกิจการที่ดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

นายวิทัย กล่าวต่อว่าธนาคารออมสินเป็นผู้ริเริ่มนำเอา ESG Score มาใช้ประกอบการพิจารณาให้สินเชื่อเงื่อนไขพิเศษเป็นธนาคารแรกของประเทศ โดยธนาคารได้จัดกลุ่มธุรกิจที่จะสนับสนุนสินเชื่อและการลงทุนออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1. Exclusion List หรือ ธุรกิจที่ไม่สนับสนุน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูง เช่น ธุรกิจถ่านหิน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับถ่านหิน

2. Negative List หรือ ธุรกิจที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ โดยหลีกเลี่ยงการให้สินเชื่อแก่ธุรกิจที่มีคะแนน ESG Score ในระดับต่ำกว่า 2 คะแนน โดยธนาคารจะเข้าทำ Positive Engagement กับลูกค้าเพื่อช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาในการปรับปรุงดำเนินงานด้านความยั่งยืน รวมทั้งด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งระบบ

3. Positive List หรือ ธุรกิจที่ให้การสนับสนุนเป็นพิเศษ ผ่านการกำหนดสิทธิประโยชน์แก่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ลดดอกเบี้ย หรือ ให้สินเชื่อในกรอบวงเงินที่สูงกว่าลูกค้าทั่วไป สำหรับธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ส่งเสริม BCG , ธุรกิจ EV และ Supply Chain หรือ กิจการบริษัทที่มีคะแนน ESG Score ในระดับสูง เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการสนับสนุนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ และโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดโดยติดตั้ง Solar Rooftop ภายในสำนักงานใหญ่และสาขาของธนาคารออมสิน และเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าในธุรกิจธนาคาร รวมถึงการปลูกป่าทดแทนป่าเสื่อมโทรม และการอนุรักษ์ป่า เพื่อเป็นแหล่งดูดซับคาร์บอนที่สาคัญ และช่วยพัฒนาชุมชน สร้างอาชีพ เสริมรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบ เป็นต้น