ThaiPublica > ประเด็นร้อน > เลือกตั้งอย่างรับผิดชอบ 2566 > มติ 8 พรรค ให้สิทธิ์ เพื่อไทย รวบรวมเสียง สว. – สส. ตั้งนายกฯ

มติ 8 พรรค ให้สิทธิ์ เพื่อไทย รวบรวมเสียง สว. – สส. ตั้งนายกฯ

21 กรกฎาคม 2023


มติ 8 พรรคร่วม ให้สิทธิ เพื่อไทย แกนนำตั้งรัฐบาล ไปหาเสียงเพิ่ม สว.-พรรคอื่น เผยข้อ 3 ให้สิทธิ์เพื่อไทยนอกเหนือจากนี้ดำเนินการได้ ขณะที่พรรคก้าวไกลยังยืนยัน ม.112  ไม่ใช่ข้ออ้างไม่ให้ พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล

วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 เวลา 15.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วม 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาล แถลงผลการประชุมประชุมหารือแนวทางการหาเสียงสนับสนุนเพื่อเพียงพอสำหรับเลือกนายกรัฐมนตรี หลังพรรคก้าวไกลแถลงในช่วงสายของวันเดียวกันว่าจะให้พรรคอันดับสอง คือ พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพันธมิตร 8 พรรคที่ได้เคยทำ MOU กันไว้

โดยนพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลังจากพรรคก้าวไกลได้แถลงส่งมอบภารกิจให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พันธมิตรได้หารือร่วมกันถึงทิศทางตั้งรัฐบาลให้ได้รัฐบาลฝ่ายเสรีประชาธิปไตย ที่ประชุมมีมติว่า

ในการประชุมรัฐสภา 27 กรกฎาคม 2566 ซึ่งประธานรัฐสภาได้บรรจุระเบียบวาระการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรจะได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมมีมติให้พรรคส่งผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย โดยพรรคก้าวไกลจะเป็นผู้เสนอชื่อต่อที่ประชุมรัฐสภา

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ที่ประชุมเสนอแนวทางเพื่อให้ได้เสียงสนับสนุนเพิ่มเติม โดย
1.พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย 8 พรรคมีเสียงรวมกัน 312 เสียง จะแสวงหาเสียงสนับสนุนจาก สว. ให้ครบตามจำนวน แต่หาก สว. มีเงื่อนไขเกี่ยวกับ มาตรา 112 พรรคเพื่อไทยจะไปพูดคุยถึงเงื่อนไขนั้น หาก สว. สามารถลดเงื่อนไขลงได้ พรรคเพื่อไทยจะนำมาพูดคุยกับพรรคก้าวไกลต่อไป

2.กรณีไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนจาก สว. และยังไม่พอตามจำนวน ก็ให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทย ดำเนินการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่น ตามที่พรรคเพื่อไทยเห็นควร เพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงสนับสนุนจาก สส. ซึ่งพรรคการเมืองที่จะไปพูดคุยนั้นที่ประชุมให้เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทยเห็นสมควร และ

3. แนวทางอื่นนอกเหนือจากนี้ ให้สิทธิ์พรรคแกนนำ คือ พรรคเพื่อไทย ไปดำเนินการได้ตามที่เห็นสมควร

ส่วนคำถามว่าจะให้พรรคก้าวไกลลดเพดาน ม.112  นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ข้อเสนอนี้ที่ประชุมร่วมได้ยกเรื่องนี้หารือกับก้าวไกล โดยได้ให้แนวว่าพรรคก้าวไกลอยากได้รายละเอียดว่าลดเงื่อนไข 112 อะไร ถ้ารับก็จะไปพิจารณาที่พรรคก้าวไกล

“สิ่งที่เราได้แถลงในวันนี้ คือ คำมั่นสัญญาที่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด ตามที่เราได้ยึดมั่นใน 8 พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งที่ประชุมวันนี้ได้พูดคุยกัน ทั้ง 8 พรรคจะช่วยกันหาเสียงสนับสนุนทั้งจาก สส. และ สว. ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็ต้องทำงานหนัก ภายใต้ระยะเวลาที่เรามีจำกัด” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ส่วนที่ถามว่าท่าทีพรรคอื่นจะไม่ร่วมรัฐบาลหากมีก้าวไกลร่วมรัฐบาล ประเด็นนี้ได้พูดคุยเป็นแนวทางอื่น ถ้าเป็นแนวทางที่นอกเหนือจาก 8 พรรคร่วม จะให้สิทธิพรรคเพื่อไทยพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด ต้องไปฟังสว.ให้ชัดเจนเพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงรอบด้าน

พรรคก้าวไกล ยืนยัน ม.112 แค่ข้ออ้าง

ด้านนายชัยธวัช   ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า มีการยกเรื่องม. 112 ขึ้นมาพิจารณาในที่ประชุม ก้าวไกลคงต้องดูรายละเอียดซึ่งเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพจัดตั้งรัฐบาล ให้เวลาพรรคเพื่อไทยไปพูดคุย กับสว.ว่ารูปแบบไหนที่เรียกว่าปลดล็อกความไม่สบายใจของทุกคน และแนวทางตั้งรัฐบาลได้เป็นอย่างไรเพื่อให้ก้าวไกลนำไปพิจารณากันในพรรคร่วม

“เรายังยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นแค่ข้ออ้าง แต่เป้าหมายสูงสุดที่เราอยากเห็นตามเจตจำนงของประชาชน ต้องการเห็นการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล เราได้เสียงอันดับ 1 พยายามอย่างดีที่สุด ส่วนรายละเอียดโดยมารยาทมอบบทบาทหลักให้เพื่อไทย บริหารจัดการเรื่องนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยคงไปคุยกับสว.ว่าเรื่องเหล่านี้ถ้มีข้อเสนออะไรบ้างเป็นรูปธรรม”

ด้านนายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจะตั้งรัฐบาล ก็ยังคงอยู่ช่วยร่วมกับ 8 พรรคเหมือนเดิมเอ็มโอยูของพรรคร่วมก็ยังทำงานต่อไป เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทย จะต้องดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และส่วนตัวก็มีความเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน ด้วยความร่วมมือกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาล

เพื่อไทยยันจะตั้งรัฐบาลให้ได้

ก่อนการแถลงของ 8 พรรคฝ่ายประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์ที่ส่งมอบภารกิจการจัดตั้งรัฐบาลให้กับเพื่อไทย โดยระบุว่า ในเบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา และจากพรรคการเมืองอื่นๆเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได่ในที่สุด