ThaiPublica > ประเด็นร้อน > เลือกตั้งอย่างรับผิดชอบ 2566 > ผลเลือกตั้ง 2566 ไม่เป็นทางการ “เพื่อไทย-ก้าวไกล” นำ

ผลเลือกตั้ง 2566 ไม่เป็นทางการ “เพื่อไทย-ก้าวไกล” นำ

15 พฤษภาคม 2023


กกต.รายงานผลคะแนนการเลือกตั้ง2566 อย่างไม่เป็นทางการ   2 พรรคแลนสไลด์ “เพื่อไทย – ก้าวไกล”ทะลุ 300 คะแนน ขณะที่พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา พลังรวมไทยสร้างชาติ และ พลเอกประวิตร  วงษ์สุวรรณ  พรรคพลังประชารัฐ  ขอบคุณทุกคะแนนเสียง พร้อมเคารพในวิถีประชาธิปไตย

เว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต ) รายงานผลคะแนนเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการจาก 400 เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ ณ เวลา 01.22 น 1.พรรคก้าวไกล 115 ที่นั่ง 2.พรรคเพื่อไทย 113 ที่นั่ง 3. พรรคภูมิใจไทย 65 ที่นั่ง 4.พรรคพลังประชารัฐ 39 ที่นั่ง 5.พรรครวมไทยสร้างชาติ 25 ที่นั่ง 6. พรรคประชาธิปัตย์ 21 ที่นั่ง 7. พรรคชาติไทยพัฒนา 9 ที่นั่ง 8.พรรคประชาชาติ 7ที่นั่ง 9.พรรคไทยสร้างไทย 3 ที่นั่ง 10. พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 ที่นั่ง

ส่วนคะแนนบัญชีรายชื่อ

    1.พรรคก้าวไกล   10,883,735 คะแนน 32.98 %
    2.พรรคเพื่อไทย 8,435,765 คะแนน 25.72 %%
    3.พรรครวมไทยสร้างชาติ 3,570,278 คะแนน 10.89%
    4.พรรคภูมิใจไทย  863,421 คะแนน 2.62%
    5.พรรคประชาธิปัตย์  698,263 คะแนน 2.13%
    6.พรรคประชาชาติ 530,565 คะแนน  1.61 %
    7.พรรคพลังประชารัฐ 408,068 คะแนน 1.24%
    8.พรรคไทยสร้างไทย  262,072 คะแนน  0.79%
    9.พรรคชาติไทยพัฒนา 150,655  คะแนน 0.46%
    10.พรรคเพื่อไทรวมพลัง 53,133 คะแนน 0.16%
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย

“เพื่อไทย”รอผลคะแนนเลือกตั้ง ก่อนสรุปตั้งรัฐบาล

หลังผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรค ของหลายพรรคออกมาแถลงอย่างไม่เป็นทางการ

เวลา 18.35 น.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย  นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย  นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เดินทางมาเยี่ยมศูนย์แถลงข่าวผลการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ชั้น 7 พร้อมทักทายสื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าว

โดยแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยทั้งสองคน พร้อมแกนนำ ได้เดินดูจอแสดงผลรายงานข่าวถ่ายทอดสดและวิเคราะห์การเลือกตั้งของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ นายเศรษฐา  กล่าวเพียงว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงผลเลือกตั้งในตอนนี้

ต่อมาเวลา 21.10 น. วันที่ 14 พฤษภาคม ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นพ.พรหมมินทร์ สุริยเดช หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และน.ส.ลินธิภรณ์ วรินวัชรโรจน์ รองเลขาธิการและรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเลือกตั้งหลัง กกต. นับคะแนนไปได้ 26% แล้วว่า ยังไม่ได้คุยกับพรรคก้าวไกล นายพิธายังไม่ได้ต่อสายมา ซึ่งอย่างไรก็ตามต้องขอคุยกับฝ่ายประชาธิปไตยที่ร่วมอุดมการณ์ด้วยกันมาก่อน

นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการต่อสายพูดคุยกับแกนนำพรรคก้าวไกล ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังมีคะแนนนำอยู่ ส่วน กกต.ก็เพิ่งจะนับคะแนนไปได้เพียง 5 ล้านคะแนน จากผู้ที่มาลงคะแนน 40 ล้านคน  คิดเป็นสัดส่วนแค่ 15% เท่านั้น  และถ้าหากช่วงสุดท้ายผลคะแนนของเพื่อไทยยังนำอยู่ อันดับแรกคงต้องต่อสายพูดคุยกับแกนนำพรรคก้าวไกล และพันธมิตรประชาธิปไตยที่เคยร่วมต่อสู้กันมาตลอด 4 ปี

เมื่อถามทางพรรคเพื่อไทยมีความกังวลถึงกรณีที่มีการพูดถึงการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า “ ไม่มีความกังวล เพราะถือว่าไม่ชอบธรรม”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าพรรคเพื่อไทยมีความเป็นห่วงการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นโมฆะหรือไม่ นพ. ชลน่าน  ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบประเด็นนี้ว่า การที่จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะได้ ต้องมีเหตุผลเพียงพอ อย่างเช่น ผลคะแนนเลือกตั้งจากนิวซีแลนด์ที่ไม่สามารถนำมานับได้ กรณีนี้ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ  รวมไปถึงการนับคะแนนบางจุดที่อาจมีปัญหา ก็ไม่มีผลต่อคะแนนโดยรวม แต่ก็มีหลายฝ่ายที่แสดงความห่วงใยในเรื่องของการนับคะแนน จึงส่งผู้สังเกตการณ์เข้าไปเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา

เมื่อถามว่า ไม่แลนด์สไลด์ใจเสียหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่ครับ ยังยิ้มแย้มแจ่มใสได้อยู่”

นาย พิธา ลื้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

ก้าวไกลมั่นใจไม่มีรัฐบาลเสียงข้างน้อย

เวลา 22.10 น. นาย พิธา  ลื้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลแถลงข่าวหลังปิดหีบเลือกตั้ง ขอบคุณทุกความไว้วางใจจากประชาชน ขอบคุณพลเมืองอาสาสมัคร ที่ทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรม   แม้ว่าขณะนี้การนับคะแนนยังไม่เสร็จสิ้นทั้งหมดแต่ค่อนข้างแน่นอนว่าคะแนนรวมรวมพรรคก้าวไกลน่าจะทะลุ 3 หลัก โดยมั่นใจว่าผลคะแนน 72 เขตน่าจะชนะขาด  และมีอีก 50 เขตที่อยู่ระหว่างการลุ้นผลคะแนน ทำให้ขณะนี้พรรคก้าวไกลน่าจะมีคะแนน ส.ส.เขต 127 เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 35-40 ที่นั่ง ทำให้เราบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจเป้าไว้ โดยมั่นใจว่าจะมีเสียงเกิน 100 ที่นั่งแน่นอนและ มีทิศทางที่ดี เราจะมีคะแนนสามารถทะลุไปถึง 160 เขต โดยกำลังไล่ดูคะแนนที่เหลือ

นาย พิธา  กล่าวอีกว่า  ชัดเจนแล้วว่าผลคะแนนที่ออกมา โอกาสในการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่เหลือแล้วถือว่าเป็นศูนย์จากตัวเลขการนับคะแนนในปัจจุบัน เนื่องจากพรรคที่มีคะแนนที่เกิน 100 ที่นั่งมีแค่ 2 พรรคคือ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ส่วนพรรคขั้วรัฐบาลเดิมมี สส.ไม่เกิน 100 และแน่นอนว่าจะไม่รัฐบาลเสียงข้างน้อย  ซึ่งหลังจากนั้นจะใช้เวลาไม่นานในการรวบรวมคะแนนว่าใครจะเป็นอันดับหนึ่งและจัดตั้งรัฐบาล

นายพิธาได้ยืนยันจุดยืนในการจัดตั้งรัฐบาล ว่า  พรรคก้าวไกลยังคงมีจุดยืนเดิมคือ มีลุงไม่มีเรามีเราไม่มีลุง และการร่วมรัฐบาลเราจะมีเงื่อนไข และมีข้อตกลงอย่างชัดเจนเพื่อให้มีความโปร่งใส และสามารถชี้แจงกับพี่น้องประชาชนตามที่สัญญาไว้ โดยหลังจากนี้จะมีการแถลงอีกครั้ง และพรุ่งนี้จะเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อดูเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลและสุดท้ายเป็นเรื่องความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

พลังประชารัฐ ขอบคุณทุกคะแนนเสียง
เวลา 21.03 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้เดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ โดยทันทีที่มาถึงได้แถลงเปิดใจสั้นๆ ทันที ว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้สื่อข่าว และขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้กับพรรคพลังประชารัฐในทุกเขตไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ที่มอบให้กับพรรคพลังประชารัฐ  ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลา ต้องรอนับคะแนนให้เสร็จเป็นที่เรียบร้อย

เวลา 22.35 น.พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางออกจากพรรค ช่วงเวลา 22.35 น. ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม  โดยผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรจะชี้แจงหรือไม่ พเอกประวิตร ระบุว่าไม่มีอะไร เพราะทุกอย่างต้องรอ เมื่อถามว่าคะแนนตีตื้นขึ้นมาแล้วจะอย่างไรต่อ พลเอกประวิตรไม่ตอบ พร้อมระบุว่ากำลังจะเดินทางกลับบ้าน เมื่อถามว่าหากก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลจะเกิดการรัฐประหารหรือไม่ พลเอกประวิตรไม่ตอบ พร้อมกับขอทางสื่อมวลชนเพื่อออกจากพรรคพลังประชารัฐ และยิ้มขึ้นรถ อย่างอารมณ์ดีท่ามกลางการเบียดเสียดของสื่อมวลชนที่มาปักหลักรายงานข่าว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค

พล.อ.ประยุทธ์ ยันจะทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด

เมื่อเวลา 22.04 น. ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ว่า “ขอขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคน ทุกคะแนนเสียงที่ให้มากับส.ส.เขตและพรรค ผมยืนยันจะทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่อะไรก็ตาม และตัวผมเองนั้นผมพยายามทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดชีวิตของผม และอุดมการณ์ของพรรคก็เช่นเดียวกัน ขอให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย มีความเจริญก้าวหน้า ผมเคารพในวิถีประชาธิปไตย และการเลือกตั้ง ขอบคุณครับ”

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ พยายามเดินออกจากที่ทำการพรรค ท่ามกลางการรุมล้อมของช่างภาพและสื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างประเทศ โดยมีการพยายามตั้งคำถามถึงจุดยืนของพรรคกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้มาเป็นพรรคอันดับ 1 ได้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ และคำถามพรรคก้าวไกลได้คะแนนขนาดนี้จะนำไปสู่การปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าว โดยพยายามแหวกวงล้อม ไปขึ้นรถเดินทางกลับทันที

เวลาประมาณ 22.35 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงข่าวภายหลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการว่า พรรครวมไทยสร้างชาติขอบคุณทุกคะแนนเสียง และขอบคุณประชาชนจำนวนมาก ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยได้เห็น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แม้จะเจ็บป่วย  ทั้งหมดถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า การนับคะแนนการเลือกตั้งยังไม่เสร็จสิ้น 100% แต่พอจะคาดการณ์ผลโดยรวมได้ แต่ไม่ว่าคะแนนจะออกมาเท่าไร ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จของพรรค เพราะถือเป็นครั้งแรกของเราที่เข้าสู่สนามเลือกตั้งภายในระยะเวลา 5 เดือน

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้พูดคุยกับพลเอกประยุทธ์หรือไม่ นายพีระพันธุ์ ตอบว่า พูดคุยปกติ ผลเป็นอย่างไรก็ต้องตามนั้น และพลเอกประยุทธ์ยังทำงานต่อในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ

“ผมไม่เคยเห็นแกเครียดเลย ท่านเป็นปกติ หัวเราะเล่นกันเมื่อกี้ ท่านเป็นคนให้กำลังใจพวกผม ทำงานกันเสร็จทุกคนก็ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่ได้แปลว่าต้องเสียใจ”

“ผมผ่านเลือกตั้งมา 30 ปีแล้ว ทั้งแพ้ชนะทุกรูปแบบ ไม่เห็นมีอะไรต้องเสียใจหรือดีใจ เราทำงานการเมืองเพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม อยู่ที่เราว่าทำงานได้ดีไหม ไม่มีอะไรว่าต้องได้อย่างนั้นอย่างนี้เสมอไป การทำงานการเมืองเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับความเป็นจริงว่ามันไม่มีอะไรแน่นอน”

ส่วนประเด็นการเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ นายพีระพันธุ์ ตอบว่า “เป็นไปตามกระบวนการและวิถีทางที่มีอยู่ พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ทำอะไรที่ผิดแบบแผนที่เขาทำกัน”

เมื่อถามว่าได้คุยกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรคอื่นๆ หรือยัง นายพีระพันธุ์ บอกว่า “ไม่มี ทุกคนยังนั่งดูทีวี ไม่มีใครติดต่อใครตอนนี้ เพราะคะแนนตอนจบยังไม่จบเลย ใจเย็นๆ การดำเนินการทางการเมืองอย่างน้อยผลการเลือกตั้งต้องชัดเจน กกต.ต้องรับรองต่อ”

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า หลักการทำงานของพรรคคือชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ถ้าหลักการ-อุดมการณ์เดียวกันก็ทำงานได้ไม่ว่าอยู่ฝ่ายไหน ถ้าไม่ตรงก็ทำงานร่วมกันไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายพีระพันธุ์ ตอบสั้นๆ ว่า “ผมเป็นได้ทุกอย่างอยู่แล้ว”

สุดท้าย นายพีระพันธุ์ ยังแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลที่สามารถกวาดคะแนนเสียงในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ และกล่าวแสดงความยินดีกับทุกพรรค