ThaiPublica > คอลัมน์ > Beauty Conscious สำคัญอย่างไร

Beauty Conscious สำคัญอย่างไร

15 เมษายน 2023


เปรมปพัทธ ผลิตผลการพิมพ์

ความงามในความหมายที่กว้างและครอบคลุมมากกว่าเรื่องความสวยทางกาย กลายเป็นนิยามของคำว่า Beauty Conscious ในยุคปัจจุบันผู้คนจำนวนมากต้องอาศัยอยู่บ้านและใช้เวลาส่วนใหญ่ในบ้านมากขึ้น กิจกรรมการดูแลตัวเองจึงกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ทำให้เราหันมาใส่ใจสุขภาพจิต สุขภาพกาย และความสมดุลในชีวิตมากขึ้นเช่นกัน

การดูแลใส่ใจตนเองในแบบที่ตนเองเป็น นำไปสู่การเกิดขึ้นของศัพท์และค่านิยมใหม่อย่าง Beauty Conscious ซึ่งกินความหมายกว้างกว่าความงามในแบบเดิมที่หลายครั้งสะท้อนถึง Beauty Unconscious หรือการมีรูปลักษณ์หน้าตาที่สวยงาม แต่กลับนำมาซึ่งการเบียดเบียนโลก สังคม และตนเอง ด้วยเหตุนี้เอง อุตสาหกรรมเสริมความงามจำนวนมากจึงเริ่มคำนึงถึงส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การหลีกเลี่ยงใช้สารเคมีที่รุนแรงในผลิตภัณฑ์ การหยุดทดสอบในสัตว์ ค่าจ้างที่เป็นธรรม สนับสนุนความงามที่ความหลากหลาย และให้คุณค่ากับความงามจากภายในหรือความภูมิใจในตนเอง

“Beauty Conscious สำหรับฉันคือการรักสวยรักงามโดยยังใส่ใจถึงผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนและส่วนผสมที่ปลอดภัยกับธรรมชาติ” “Beauty Conscious คือการสวยอย่างมั่นใจทั้งภายในและภายนอก” สิ่งเหล่านี้กลายเป็นค่านิยมของวัยรุ่นและคนในยุคสมัย เราจะพบว่า การหันมาดูแลใส่ใจตนเองยุคนี้ ไม่ได้มีความหมายเพียงแต่การทำให้ภาพลักษณ์ดูสวยเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับความรู้สึกดีด้วย เช่น การมีผิวที่ชุ่มชื้น ความเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ การดูแลตัวเองจนเป็นนิสัย เป็นต้น

การเดินเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมความงามสุ่มสี่สุ่มห้ากลายเป็นอะไรที่ตกยุคแล้ว เพราะด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้นในการพิจารณาจะเลือกซื้อสินค้าความงามอย่างละเอียดรอบคอบ เราอาจเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับกระบวนการทดลองผลิตภัณฑ์ที่โหดร้ายกับสิ่งมีชีวิต การใช้สารเคมีอันตรายจนเกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ การโปรโมทสินค้าที่ไม่คำนึงถึงความหลากหลายและความเป็นมนุษย์ สิ่งเหล่านี้นำไปสู่ความเข้าใจใหม่ต่อเลือกดูแลใส่ใจความงามให้ตัวเอง

เวลาเราเลือกซื้อลิปสติก 1 แท่ง เดิมเราอาจคิดแค่ว่า 700 บาท ด้วยสี ด้วยแบรนด์ ด้วยโปรโมชั่น เป็นราคาที่คุ้มค่า และเป็นธรรมแล้ว แต่เรายังไม่ได้บวกรวมสมการอื่น ๆ เข้าไปด้วย เช่น นอกจากเป็นธรรมทางราคาที่เราต้องจ่ายแล้ว ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ยังเป็นธรรมต่อสภาพแวดล้อม สิ่งมีชีวิต ชุมชน สุขภาพของเรา และแรงงานที่อยู่ในกระบวนการผลิตด้วยหรือไม่

ในฐานะผู้บริโภค Beauty Conscious ทำให้เราตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นที่มากกว่าความสวยงามของตนเอง สิ่งนี้ทำให้เราเลือกที่จะอ่านรายการส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่จะซื้ออย่างละเอียดขึ้น เราเริ่มมองหาฉลากที่บอกว่า สินค้าชิ้นนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีการทดลองในสัตว์ หรือไม่ใช้สารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตราย ผู้บริโภคปัจจุบันในแง่หนึ่งจึงไม่ได้ดูแค่ราคาและส่วนลด

ยิ่งในโลกทุกวันนี้ ข้อมูลทางการค้าเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น หลายคนเลือกจะอ่านข้อมูลในอินเทอร์เน็ต รวมถึงรีวิวจากกลุ่มต่าง ๆ มากกว่าข้อความบนฉลากสินค้าด้วยซ้ำไป การเป็นผู้บริโภคที่มี Beauty Conscious จึงมีส่วนช่วยรักษาโลกและระบบนิเวศ

ผลิตภัณฑ์ความงามและเครื่องสำอางจำนวนมากในโลกยังอาศัยการทดสอบกับสัตว์ เป็นการทารุณกรรมสิ่งมีชีวิตโดยปราศจากความยินยอม ในยุคปัจจุบัน เราจึงเห็นแบรนด์ความงามที่ใส่ใจต่อประเด็นนี้คิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อยุติการทรมาน และเราสามารถเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากการทารุณกรรม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการยุติวงจรนี้ได้

นอกจากนี้ การมี Beauty Conscious ยังช่วยให้เราเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะการใช้สินค้าความงามที่มีส่วนผสมของสารเคมีหลายชนิดเป็นเวลานานนั้นส่งผลเสีย รวมทั้งเป็นอันตรายต่อผิวพรรณและสุขภาพของเราเอง ผู้บริโภคยุคนี้จึงเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตร และไม่มีส่วนประกอบของสารเคมีสังเคราะห์อันตรายต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้หลายแบรนด์แข่งขันกันนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากธรรมชาติ 100% หรือใช้สารสกัดจากพืช

รวมถึงเรายังมีส่วนช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติกด้วย เนื่องจากผลิตภัณฑ์แต่งหน้าและความงามมักตามมาด้วยบรรจุภัณฑ์ ไม่ว่าเราจะสั่งซื้อทางออนไลน์หรือเดินเข้าร้าน ส่วนประกอบอันเป็นที่นิยมและสะดวกในการหีบห่อสินค้าก็คือพลาสติก ซึ่งสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและยากต่อการย่อยสลาย ในทางกลับกัน แบรนด์ความงามที่ให้คุณค่ากับ Beauty Conscious ก็เปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จนเดี๋ยวนี้แทบหาแบรนด์ที่ยังใช้ถุงพลาสติกไม่ได้แล้ว

การให้คุณค่าต่อ Beauty Conscious ช่วยให้คนรุ่นใหม่ไม่ได้เป็นเพียงผู้บริโภคที่คอยจับจ่ายใช้สอยสินค้าในท้องตลาด แต่ยังเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบด้วย เป็นการตระหนักถึงจิตสำนึกในฐานะบุคคลที่สามารถมีส่วนช่วยโลกได้

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา เราปล่อยให้อุตสาหกรรมเสริมความงามเฟื่องฟูบนความทุกข์ทรมานของสัตว์ บนผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเบียดเบียนความงามที่หลากหลาย ถึงเวลาแล้วที่ผู้บริโภคยุคใหม่จะช่วยกันหยุดความเสียหายดังกล่าว และช่วยกันสร้างพลังในฐานะพลเมือง