ThaiPublica > ประเด็นสืบสวน > กรมส่งเสริมฯกลับลำ – ไม่อำนาจชี้ขาด ปม “การบินไทย” หักเงิน พนง.ใช้หนี้สหกรณ์

กรมส่งเสริมฯกลับลำ – ไม่อำนาจชี้ขาด ปม “การบินไทย” หักเงิน พนง.ใช้หนี้สหกรณ์

15 ตุลาคม 2022


กรมส่งเสริมฯกลับลำ – ไม่อำนาจชี้ขาด ปม “การบินไทย” หักเงินพนักงานใช้หนี้สหกรณ์ฯ ชอบหรือไม่ เนื่องจากเป็นประเด็นข้อพิพาททางแพ่ง แต่ยืนยันคำวินิจฉัยสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์ฯ พื้นที่ 2 เป็นการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ อดีตประธานสหภาพฯ เตรียมส่งข้อมูลให้ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยชี้ขาด

ตามที่นายนเรศ ผึ้งแย้ม อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย และสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทย จำกัด ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อสิทธิโต้แย้ง กรณีสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 มีคำวินิจฉัยว่า “คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทย มีสิทธิแจ้งให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หักเงินพนักงานการบินไทยที่ถูกเลิกจ้าง มาชำระหนี้สหกรณ์ได้” รวมทั้งขอให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ตรวจสอบเจ้าหน้าที่สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพ พื้นที่ 2 กรณีเปิดเผยรายชื่อสมาชิกสหกรณ์ฯที่ไปยื่นหนังสือร้องเรียนตามส่วนราชการต่างๆให้กับกรรมการของสหกรณ์ฯ รับทราบ ส่งผลทำให้สมาชิกสหกรณ์ฯกลุ่มนี้ได้รับความเดือดร้อน ถูกสหกรณ์ฯส่งจดหมายทวงหนี้ส่วนที่เหลือคืนทั้งหมด โดยแจ้งให้สมาชิกนำเงินมาชำระหนี้ภายใน 20 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งบอกกล่าว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2565 นายนเรศ ผึ้งแย้ม อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ได้รับหนังสือจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่ กษ 1115/606 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2565 แจ้งผลการพิจารณาประเด็นข้อร้องเรียนต่างๆตามที่กล่าวข้างต้น โดยนายนเรศ กล่าวถึงประเด็นแรก เรื่องการใช้สิทธิโต้แย้งคำวินิจฉัยของนายทะเบียนพื้นที่ 2 ประเด็นนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ชี้แจงว่า “กรณีดังกล่าวเป็นการโต้แย้งข้อพิพาทในสัญญาเงินกู้อันเป็นสัญญาทางแพ่ง มิได้อยู่ในอำนาจของกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่จะชี้ขาดให้ได้ การที่สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 ได้ตรวจสอบ พร้อมกับทำหนังสือที่ กษ 1110/3287 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2564 แจ้งตอบนายนรเศและคณะ เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้ว

ประเด็นที่ 2 เรื่องขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 กรณีเปิดเผยรายชื่อนายนเรศ และคณะที่ไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ ให้กรรมการสหกรณ์ฯรับทราบนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ ชี้แจงว่า “กรณีดังกล่าวนายนเรศและคณะ สามารถแจ้งปัญหาให้กับคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ได้โดยตรง ตามข้อ 19 แห่งกฎกระทรวงการดำเนินงาน และการกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ. 2564 ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยชื่อผู้ร้อง เพื่อให้ได้ทราบถึงความเดือดร้อนของท่าน และคณะ อันนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด การที่สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 แจ้งรายชื่อท่านและคณะ ให้สหกรณ์ได้ทราบถึงความเดือดร้อน และความต้องการของท่านและคณะนั้นชอบแล้ว ลงชื่อนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์

นายนเรศ ผึ้งแย้ม อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย

นายนเรศ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ตนและเพื่อนสมาชิกสหกรณ์ ได้อ่านคำชี้แจงตามหนังสือกรมส่งเสริมสหกรณ์ฉบับนี้แล้ว ทำให้เกิดข้อสงสัย กล่าวคือ ประเด็นแรกที่ตนขอให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ช่วยตรวจสอบคำวินิจฉัยของนายทะเบียน พื้นที่ 2 ที่เคยให้ความเห็นว่า “คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ฯ มีสิทธิแจ้งให้บริษัท การบินไทย หักเงินพนักงานถูกเลิกจ้าง มาชำระหนี้สหกรณ์ตามสัญญาเงินกู้ ข้อ 8 นั้นถูกต้องหรือไม่” กรมส่งเสริมฯ ตอบว่า ไม่ได้อยู่ในอำนาจของกรมส่งเสริมฯที่จะชี้ขาดให้ได้ เพราะเป็นข้อพิพาทตามสัญญาทางแพ่ง เมื่อกรมส่งเสริมสหกรณ์ทำหนังสือตอบมาอย่างนี้ ตนและสมาชิกสหกรณ์จึงมีคำถามตามมาว่า แล้วกรณีที่สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์ฯ พื้นที่ 2 ทำหนังสือแจ้งผลวินิจฉัยฉบับลงวันที่ 17 ธันวาคม 2564 ให้ตนรับทราบว่า “คณะกรรมการสหกรณ์ฯมีสิทธิแจ้งบริษัทการบินไทย หักเงินพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง ใช้หนี้ได้” กรณีนี้ถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่วินิจฉัยสัญญาเงินกู้ ซึ่งเป็นสัญญาทางแพ่ง หรือไม่ อย่างไร

“แม้ผมจะยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน แต่ผมและพนักงานที่ถูกเลิกจ้างกว่า 100 คน ได้นำประเด็นดังกล่าวนี้ไปยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานกลางแล้ว โดยขอให้ศาลวินิจฉัยว่า ประเด็นที่คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯแจ้งให้บริษัทการบินไทย หักเงินพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง ใช้หนี้สหกรณ์ตามสัญญาเงินกู้ข้อที่ 8 และข้อที่ 9 นั้น ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ยังอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลแรงงานกลาง โดยศาลนัดสืบพยานตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2565” นายนเรศ กล่าว

นายนเรศ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากย้อนกลับไปดูสัญญาเงินกู้ ข้อที่ 8 ระบุว่า “ผู้กู้ยอมรับผูกพันตามข้อบังคับของสหกรณ์ว่า ถ้าผู้กู้ออกจากงานประจำ ผู้กู้จะต้องแจ้งเป็นหนังสือให้สหกรณ์ทราบ และจัดการชำระหนี้สิน ซึ่งผู้กู้มีอยู่ต่อสหกรณ์ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน” ซึ่งคำว่า “ผู้กู้ออกจากงานประจำ” นี้ ตนเข้าใจว่ามีความหมายครอบคลุมไปถึงการออกจากงานทุกกรณี ทั้งกรณีผู้กู้ประสงค์จะขอลาออกจากงานประจำ หรือ สมัครใจลาออก หรือ ถูกบริษัทเลิกจ้างด้วย

ส่วนสัญญาเงินกู้ ข้อ 9 ที่นายทะเบียนสหกรณ์พื้นที่ 2 นำใช้ประกอบการวินิจฉัยนั้น ระบุว่า ถ้าผู้กู้ประสงค์จะขอลาออกจากงานประจำ ตามข้อบังคับ 34 (3) ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้สหกรณ์ทราบด้วย และต้องจัดการชำระหนี้ซึ่งมีอยู่ต่อสหกรณ์ให้เสร็จสิ้นก่อน ถ้าผู้กู้ไม่จัดการชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นตามที่กล่าวข้างต้น เมื่อผู้กู้ได้ลงชื่อรับเงินเดือน ค่าจ้าง เงินสะสม บำเหน็จ บำนาญ หรือ เงินอื่นใดที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือผู้ได้รับมอบหมายจากบริษัทฯจะจ่ายให้ผู้กู้ ผู้กู้ยินยอมให้หักเงินดังกล่าว เพื่อชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยส่งชำระหนี้ต่อสหกรณ์ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน”

ประเด็นก็คือ ตนและเพื่อนสมาชิกสหกรณ์ฯ ไม่ใช่ผู้กู้ที่ประสงค์จะขอลาออกจากงานประจำ แต่ตนเป็นผู้กู้ที่ถูกบริษัทการบินไทยเลิกจ้าง ไม่เคยทราบมาก่อนว่าจะถูกเลิกจ้าง จึงเข้าใจว่าจะอยู่ในเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ ข้อ 8 และนี่คือความหมายของ คำว่า “เลิกจ้าง” กับคำว่า “ลาออกเอง” ซึ่งทั้ง 2 คำนี้มีความหมายและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายแตกต่างกัน ดังนั้น ในสัญญาเงินกู้จึงเขียนแยกกันเอาไว้ เพราะเป็นคนละกรณีกัน และประเด็นที่สำคัญในสัญญาเงินกู้ข้อที่ 8 ไม่ได้ระบุว่า “ถ้าผู้กู้ไม่จัดการชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นตามที่กล่าวข้างต้น เมื่อผู้กู้ได้ลงชื่อรับเงินเดือน ค่าจ้าง เงินสะสม บำเหน็จ บำนาญ หรือ เงินอื่นใดที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือผู้ได้รับมอบหมายจากบริษัทฯจะจ่ายให้ผู้กู้ ผู้กู้ยินยอมให้หักเงินดังกล่าว เพื่อชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยส่งชำระหนี้ต่อสหกรณ์ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน” แต่เป็นข้อความที่ระบุไว้ในสัญญาเงินกู้ข้อที่ 9 ดังนั้น การที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ นำข้อความในสัญญาเงินกู้ข้อที่ 9 มาใช้ประกอบการวินิจฉัย กรณีการหักเงินสมาชิกสหกรณ์ฯที่ถูกบริษัทการบินไทยเลิกจ้างนั้นถูกต้องหรือไม่ อย่างไร จึงเป็นประเด็นที่ตนและเพื่อนสมาชิกสหกรณ์ ขอให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาวินิจฉัย

  • เตรียมร้องศาลปกครอง ‘การบินไทย’ หักเงิน พนง.ใช้หนี้สหกรณ์ฯ ชอบหรือไม่
  • “มนัญญา” สั่งสอบปม “การบินไทย” หักเงิน พนง.ใช้หนี้สหกรณ์การบินไทย