ThaiPublica > เกาะกระแส > “มนัญญา” สั่งสอบปม “การบินไทย” หักเงิน พนง.ใช้หนี้สหกรณ์การบินไทย

“มนัญญา” สั่งสอบปม “การบินไทย” หักเงิน พนง.ใช้หนี้สหกรณ์การบินไทย

2 พฤษภาคม 2022


กรมส่งเสริมสหกรณ์ส่ง จม.ตีตราลับฉบับที่ 2 แจ้งสมาชิกสหกรณ์ฯ-“มนัญญา” มอบผู้ตรวจราชการกรมส่วนกลาง ลุยสอบข้อเท็จจริงปมวินิจฉัย “การบินไทย” หักเงินชดเชย พนง. ที่ถูกเลิกจ้างใช้หนี้สหกรณ์ฯ

ต่อกรณีที่อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พร้อมตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทย จำกัด ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ช่วงเช้าของวันที่ 7 เมษายน 2565 เพื่อใช้สิทธิโต้แย้งคำวินิจฉัยของนายทะเบียนพื้นที่ 2 ที่วินิจฉัยว่า “คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทย มีสิทธิแจ้งให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หักเงินพนักงานการบินไทยที่ถูกเลิกจ้าง มาชำระหนี้สหกรณ์ได้” รวมทั้งขอให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ตรวจสอบเจ้าหน้าที่สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพ พื้นที่ 2 เปิดเผยรายชื่อสมาชิกสหกรณ์ฯที่ไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับส่วนราชการต่างๆให้กับกรรมการของสหกรณ์ฯ รับทราบ ส่งผลทำให้สมาชิกสหกรณ์ฯกลุ่มนี้ได้รับความเดือดร้อน ถูกสหกรณ์ฯส่งจดหมายทวงหนี้ โดยแจ้งให้นำเงินส่วนที่ยังติดค้างกับสหกรณ์ฯทั้งหมดมาชำระหนี้ภายใน 20 วัน

ปรากฏว่าสมาชิกสหกรณ์ฯกลุ่มนี้ไม่มีเงินมาชำระหนี้กับสหกรณ์ฯ เพราะในวันที่สมาชิกสหกรณ์กลุ่มนี้ถูกเลิกจ้าง ทางบริษัทการบินไทยได้นำเงินที่สมาชิกสหกรณ์ได้รับจากการถูกเลิกจ้างทั้งหมดไปหักชำระหนี้สหกรณ์ ฯ ทำให้พนักงานกลุ่มนี้ซึ่งอยู่ระหว่างการหางานใหม่ ไม่สามารถหาเงินไปชำระหนี้ส่วนที่ยังติดค้างอยู่กับสหกรณ์ได้ตามกำหนด ต่อมาสหกรณ์ฯจึงได้ปลดพนักงานกลุ่มนี้ออกจากการเป็นสมาชิกสหกรณ์ ตามระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์ฯ ข้อ 42 (4) เนื่องจากค้างส่งเงินงวด หรือ ผิดนัดชำระหนี้ เป็นเหตุให้สมาชิกกลุ่มนี้มาร้องขอความเป็นธรรมกับอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์

และในช่วงบ่ายของวันที่ 7 เมษายน 2565 สมาชิกสหกรณ์ฯกลุ่มนี้ได้เดินทางไปกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอให้พิจารณาคำวินิจฉัยของนายทะเบียนพื้นที่ 2 ตามหนังสือ กษ 1110/3287 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2564 ที่ให้ความเห็นว่า “คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯมีสิทธิแจ้งให้บริษัท การบินไทย หักเงินพนักงานที่ได้รับจากการถูกเลิกจ้าง ใช้หนี้สหกรณ์ได้ตามข้อตกลงในสัญญา” ขณะที่นายนเรศและเพื่อนสมาชิกสหกรณ์ฯ มีความเห็นว่า “คำวินิจฉัยของนายทะเบียนสหกรณ์ พื้นที่ 2 ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญากู้เงิน ข้อ 8 และการหักเงินสมาชิกสหกรณ์ที่ถูกเลิกจ้างจำนวน 95 คน ส่งผลทำให้นายนเรศและสมาชิก ถูกปลดออกจากการเป็นสมาชิก”

หลังจากกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ฯไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ไม่นาน นายประกอบ เผ่าพงศ์ รองอธิบดีปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ทำหนังสือตีตราลับที่ กษ 1115/210 ฉบับแรกส่งไปที่บ้านของนายนเรศ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565 แจ้งความคืบหน้ากรณีที่นายนเรศ และเพื่อนสมาชิกไปร้องเรียนอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ตามที่กล่าวข้างต้น (โต้แย้งคำวินิจฉัยนายทะเบียนพื้นที่ 2 และตรวจสอบเจ้าหน้าที่สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์ฯเปิดเผยรายชื่อผู้ร้องเรียนให้กรรมการสหกรณ์รับทราบ) ว่า “กรณีดังกล่าวได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการ เขตตรวจราชการที่รับผิดชอบ ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามนัยข้อร้องขอ และพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่…”

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ล่าสุด นายประกอบ เผ่าพงศ์ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ลงนามในหนังสือตีตราลับที่ กษ 1115/239 ลงวันที่ 27 เมษายน 2565 เป็นฉบับที่ 2 เรื่อง การขอให้พิจารณาและวินิจฉัย ส่งไปที่บ้านของนายนเรศ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 โดยแจ้งความคืบหน้าว่า “กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับมอบหมายจากนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว และมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกรม เขตตรวจราชการส่วนกลาง ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาใช้อำนาจตามกฎหมาย หรือ ตามที่ได้รับมอบหมายแล้ว….”

นายนเรศ ผึ้งแย้ม อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย กล่าวว่า หนังสือที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ส่งไปรษณีย์มาที่บ้านของตนทั้ง 2 ฉบับนั้นมีความแตกต่างกัน คือ หนังสือกรมส่งเสริมสหกรณ์ ฉบับแรก ตนเข้าใจว่าเป็นกรณีที่ตนและสมาชิกสหกรณ์ไปร้องเรียนต่ออธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อใช้สิทธิโต้แย้งคำวินิจฉัยนายทะเบียน พื้นที่ 2 และขอให้ตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่เปิดเผยรายชื่อผู้ร้องเรียนให้กรรมการสหกรณ์รับทราบ กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการ เขตตรวจราชการที่รับผิดชอบ ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง 2 ประเด็นตามที่กล่าวข้างต้น

ส่วนหนังสือกรมส่งเสริมสหกรณ์ ฉบับที่ 2 เข้าใจว่าเป็นกรณีที่ตนไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยขอให้พิจารณาคำวินิจฉัยนายทะเบียนพื้นที่ 2 ว่าเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญากู้เงินข้อ 8 หรือไม่ อย่างไร ซึ่งในหนังสือกรมส่งเสริมสหกรณ์ฉบับนี้ได้อ้างถึงนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์จากส่วนกลาง ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการพิจารณาวินิจฉัยของนายทะเบียนสหกรณ์เป็นไปตามสัญญากู้เงินหรือไม่ ตามที่ตนได้ไปยื่นคำร้อง

นายนเรศ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนและเพื่อนสมาชิกสหกรณ์ ฯ ยืนยันตามข้อเรียกร้องมาโดยตลอดว่า คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ ไม่มีสิทธิแจ้งให้บริษัท การบินไทย หักเงินพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง นำมาใช้หนี้สหกรณ์ เพราะตามสัญญากู้เงิน ข้อ 8 ระบุว่า “ถ้าผู้กู้ออกจากงานประจำ ผู้กู้จะต้องแจ้งเป็นหนังสือให้สหกรณ์ทราบ และจัดการชำระหนี้สิน ซึ่งผู้กู้มีอยู่ต่อสหกรณ์ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน” เขียนเอาไว้แค่นี้เท่านั้น สัญญาข้อ 8 ไม่ได้ระบุว่า “ถ้าผู้กู้ไม่จัดการชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นตามที่กล่าวข้างต้น เมื่อผู้กู้ได้ลงชื่อรับเงินเดือน ค่าจ้าง เงินสะสม บำเหน็จ บำนาญ หรือ เงินอื่นใดที่บริษัทการบินไทย หรือผู้ได้รับมอบหมายจากบริษัท ฯจะจ่ายให้ผู้กู้ ผู้กู้ยินยอมให้หักเงินดังกล่าว เพื่อชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยส่งชำระหนี้ต่อสหกรณ์ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน” ข้อความท่อนหลังนี้เขียนอยู่ในสัญญากู้เงิน ข้อที่ 9 ซึ่งเป็นกรณีของผู้กู้ประสงค์จะขอลาออกจากงานประจำตามข้อบังคับ 34 (3) แต่ตนและเพื่อนสมาชิกเป็นผู้กู้ที่ถูกบริษัทเลิกจ้าง ไม่ใช่ผู้กู้ที่ประสงค์จะขอลาออกจากงานประจำตามที่ศาลเคยมีคำพิพากษาคดีไว้ก่อนหน้านี้ เข้าใจว่าจะเป็นกรณีของพนักงานการบินไทยที่เข้าร่วม ‘โครงการร่วมใจเสียสละเพื่อองค์กร’ (Mutual Separation Plan : MSP) ซึ่งกรณีนี้อยู่ในข่ายผู้กู้ประสงค์จะขอลาออกจากงานประจำ ตามสัญญากู้เงิน ข้อ 9

“ในสัญญากู้เงิน ข้อ 9 ท่อนท้ายระบุไว้ว่า หากผู้กู้ไม่เคลียร์หนี้สินที่ติดค้างอยู่กับสหกรณ์ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนลาออก คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ ก็มีสิทธิแจ้งให้บริษัท การบินไทย หักเงินค่าตอบแทนตามโครงการ MSP ใช้หนี้สหกรณ์ ตามข้อตกลงในสัญญาได้ แต่ตนและเพื่อสมาชิกเป็นผู้กู้ที่ถูกบริษัทเลิกจ้างตามสัญญากู้เงิน ข้อ 8 จึงไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของนายทะเบียนสหกรณ์ที่ไปนำข้อความท่อนหลังของสัญญากู้เงิน ข้อ 9 ซึ่งเป็นคนละกรณีกัน มาใช้ในการพิจารณาวินิจฉัยว่าคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯมีสิทธิแจ้งให้บริษัทการบินไทยหักเงินพนักงานที่ถูกเลิกจ้างใช้หนี้สหกรณ์ได้ตามข้อตกลงในสัญญา ดังนั้น ตนและเพื่อนสมาชิกสหกรณ์จึงต้องมาใช้สิทธิโต้แย้งคำวินิจฉัยนายทะเบียนสหกรณ์ดังกล่าว หากยังยืนยันว่าวินิจฉัยถูกต้อง ก็จะไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป” นายนเรศ กล่าว

  • เตรียมร้องศาลปกครอง ‘การบินไทย’ หักเงิน พนง.ใช้หนี้สหกรณ์ฯ ชอบหรือไม่?
  • เตรียมร้องศาลปกครอง ‘การบินไทย’ หักเงิน พนง.ใช้หนี้สหกรณ์ฯ ชอบหรือไม่?
  • เรื่องวุ่นๆ “สหกรณ์การบินไทย” สมาชิกร้องเพิกถอนการเลือกตั้ง “ประธาน-กรรมการ”