ThaiPublica > Sustainability > ESG-driven Society > กองทุน นักลงทุนรายย่อย พนักงานที่ถือหุ้น โหวต ESG ไม่ผ่านที่ Amazon แพ้พลัง Dual class share ของเจ้าของ

กองทุน นักลงทุนรายย่อย พนักงานที่ถือหุ้น โหวต ESG ไม่ผ่านที่ Amazon แพ้พลัง Dual class share ของเจ้าของ

30 ตุลาคม 2022


ซีรีส์ข่าวสร้างสังคมฉุกคิดด้วย “ESG” (Building “ESG-driven Society”) ได้รับการสนับสนุนการดำเนินโครงการส่งเสริมการลงทุนยั่งยืน: สร้างสังคมฉุกคิดด้วย “ESG” จากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน โดยความร่วมมือจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจแก่นักลงทุน ผู้ระดมทุน และผู้บริโภค ให้ตระหนักถึงความสำคัญของ สิ่งแวดล้อม (environment), สังคม (social) และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (governance) เกิดการรับรู้และนำไปสู่การลงมือปฏิบัติ เพื่อการขับเคลื่อนตลาดทุนและประเทศไทยที่ยั่งยืน

shareholder activist กับการขับเคลื่อน ESG เป็นหนึ่งในชุดบทความที่นำเสนอภายใต้ซีรีส์ สร้างสังคมฉุกคิดด้วย…ESG เพื่อแสดงให้เห็นถึง “พลัง” ในการเป็นผู้ถือหุ้น ผลักดันให้บริษัทดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนได้

Amazon.com Inc เป็นหนึ่งในหุ้นขวัญใจนักลงทุนทั่วไป อันเนื่องจากผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง และได้รับการแนะนำการลงทุนจากนักวิเคราะห์เสมอ และในช่วงไม่กี่ปีมานี้ Amazon ก็เป็นหุ้นที่นักลงทุน ESG ต้องมีไว้ในพอร์ต จากการที่บริษัทมีความริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบายด้านพนักงาน ที่ดูเหมือนว่าสอดคล้องกับโลกทัศน์ทางธุรกิจนักลงทุน ESG และ Amazon เองก็ได้ลงทุนในบริษัทสำคัญๆ บางแห่งที่มีเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่โดดเด่น

นอกจากนี้รายงานผลการดำเนินงาน รายงานความยั่งยืนของ Amazon เองผิวเผินก็ดูดี[1] แม้เจาะลึกลงไปยังเป็นที่ข้องใจของนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับสังคมอยู๋บ้าง และแม้ว่าการดำเนินการด้าน ESG ของ Amazon ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังทำให้ Amazon เป็นหุ้นที่นักลงทุนในวอลล์สตรีตส่วนใหญ่เลือกลงทุน

อยางไรก็ตามในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของ Amazon ในปี 2022 นี้ Amazon กำลังเผชิญกับข้อเสนอของผู้ถือหุ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 15 ข้อเสนอ[2]จากนักเคลื่อนไหวในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ ESG

ในช่วงปลายปี 2021 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา มีข้อกำหนดที่ทำให้บริษัทต่างๆ ปิดกั้นความรับผิดชอบต่อสังคมและข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศในหนังสือมอบฉันทะประจำปีเพื่อการลงคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้นได้ยากขึ้น ในทางกลับกันทำให้ข้อเสนอของผู้ถือหุ้นนำเข้าที่ประชุมเพื่อลงคะแนนได้ง่ายขึ้น

โดยทั่วไป บริษัทสามารถขอให้สำนักงาน ก.ล.ต. ยกเลิกข้อเสนอของผู้ถือหุ้นที่อาจมองว่าเป็น “การจัดการแบบลงรายละเอียดเกินไป” ของธุรกิจ แต่แนวทางใหม่นี้ทำให้บริษัทโตแย้งได้ยากขึ้นว่าข้อเสนอที่ดีเกี่ยวข้องกับสังคมจะส่งผลต่อการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างไม่เหมาะสม

ข้อเสนอจากผู้ถือหุ้นกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นในปัญหาแต่ละด้านของ Amazon ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และผู้ที่ยื่นข้อเสนอเชื่อว่าเป็นการบังคับบริษัทให้ความสนใจกับข้อกังวลของพนักงานแม้ว่าข้อเสนอนี้จะไม่ผ่านที่ประชุมของผู้ถือหุ้น

ในปี 2018 และปีก่อนหน้า หนังสือเชิญประชุมของ Amazon มักจะระบุข้อเสนอเพียงไม่กี่ข้อเท่านั้น และระบุความต้องการแบบกว้างๆ โดยถามเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ เช่น “ความยั่งยืน” และ “ความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน” แต่ไม่มีรายละเอียดในด้านเฉพาะเจาะจงของบริษัท ซึ่งการโต้แย้งของบริษัทต่อข้อเสนอนั้นโดยรวมๆ มีตั้งแต่การมีประโยคหนึ่งที่เสนอแนะไปจนถึงคำอธิบายที่มีความยาวหนึ่งหน้า

แต่ในปี 2019 จำนวนข้อเสนอพุ่งสูงขึ้นเป็น 12 ข้อเสนอ และยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่า 10 ข้อเสนอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ข้อเสนอบางส่วนจะยังค่อนข้างกว้างเหมือนกับที่เห็นกันทั่วไปในปีก่อนๆ แต่ข้อเสนอหลายๆ ฉบับในปีนี้ระบุไปที่ผลิตภัณฑ์และข้อขัดแย้งที่เฉพาะเจาะจงของบริษัท การโต้แย้งจาก Amazon ก็มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งมีจำนวนหลายหน้าและมีข้อมูลจำนวนมากด้วย

ข้อเสนอในปีนี้มีทั้งเรียกร้องให้รายงานและปรับเปลี่ยนแปลงในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่สภาพการทำงาน ความแตกต่างด้านค่าจ้างระหว่างเพศ สัญญากับรัฐบาลที่อาจละเมิดสิทธิมนุษยชน และแม้กระทั่งวิธีการแต่งตั้งกรรมการให้เป็นคณะกรรมการ รวมไปถึงผลตอบแทนผู้บริหารและกรรมการ และก็ไม่ต่างจากที่เป็นมา Amazon คัดค้านแต่ละข้อเสนอทั้ง 15 ข้อเสนอ

ผู้ถือหุ้นที่ยื่นข้อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมประจำปีครั้งนี้มีตั้งแต่ ผู้ถือหุ้นนักเคลื่อนไหว กองทุนบำเหน็จบำนาญ ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่เป็นพนักงานบริษัท

ผู้ถือหุ้นนักเคลื่อนไหวจี้ปรับปรุงสภาพการทำงานของพนักงาน

Tulipshare ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นนักเคลื่อนไหว(activist investor) ได้ยื่นมติที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบอิสระและรายงานเกี่ยวกับค่าจ้างและสภาพการทำงานของพนักงานคลังสินค้าของ Amazon[3]

แคมเปญของ Tulipshare ระบุบนเว็บไซต์[4]ว่า Amazon มุ่งมั่นที่จะเป็น “นายจ้างที่ดีที่สุดในโลก” และ “สถานที่ทำงานที่ปลอดภัยที่สุดในโลก” แต่ก็มีรายงานอย่างต่อเนื่องว่าพนักงานของบริษัทอยู่ภายใต้สภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยและการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมในระดับโลก ซึ่งรวมถึงพนักงานในคลังสินค้าด้วย

Amazon ได้จ้างพนักงานเพิ่มอีก 400,000 คนเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว เพื่อตอบสนองต่อความต้องการซื้อของออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม มีการร้องเรียนมากขึ้นเกี่ยวกับสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งส่งผลให้พนักงานของ Amazon ลงนามในคำร้องและประท้วงสภาพแวดล้อมการทำงาน ความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นและความคับข้องใจของพนักงานเกี่ยวกับสภาพการทำงานในช่วงการระบาดใหญ่ ชี้ให้เห็นว่ามีปัญหาหลายด้านเกี่ยวกับวิธีที่ Amazon ปฏิบัติต่อพนักงานซึ่งต้องมีการตรวจสอบอย่างเหมาะสมและมีการปรับปรุง

อย่างไรก็ตามแม้นักลงทุนรายใหญ่ เช่น Schroders และ Legal & General Investment Management ลงคะแนนให้ แต่ข้อเสนอ Tulipshare ไม่ได้รับคะแนนเสียงที่เพียงพอ โดยได้รับคะแนนเสียง 44% Legal & General Investment Management ยังโหวตไม่ให้เลือก Jeff Bezos กลับเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทอีกด้วย

“แม้เราผิดหวังที่ข้อเสนอของเราไม่ผ่าน การโหวตครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการต่อสู้เพื่อสิทธิของคนงาน” Antoine Argouges ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Tulipshare กล่าวและว่า Tulipshare ตั้งใจที่จะยื่นข้อเสนออีกครั้งในปีหน้า

ที่มาภาพ: https://tulipshare.com/campaigns/AMZN

กองทุนบำนาญนิวยอร์กค้านตั้งกรรมการไม่ดูแลบุคคลากร

ด้าน New York State Common Retirement Fund ยื่นข้อเสนอของผู้ถือหุ้น โดยเรียกร้องให้มีการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อตรวจสอบ “ผลกระทบทางเชื้อชาติที่แตกต่างกัน” จากแนวทางปฏิบัติในการจ้างงาน

ในปี 2021 New York State Common Retirement Fund ได้ยื่นข้อเสนอผู้ถือหุ้นให้มีการตรวจสอบความเท่าเทียมทางเชื้อชาติและคะแนนเสียงได้รับการสนับสนุนประมาณ 44% และในปี 2022 ได้ยื่นข้อเสนอการตรวจสอบที่คล้ายกันต่อการประชุมผู้ถือหุ้น แต่ถูกสกัดด้วยการประกาศของ Amazon ในเมื่อเดือนเมษายนก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีจะมีขึ้น ว่าจะดำเนินการตรวจสอบจริงและได้ว่าจ้างอดีตอัยการสูงสุดนิวยอร์กลอเร็ตต้า ลินช์ เป็นผู้นำในการดำเนินการ

แบรด แลนเดอร์ จากสำนักงานบัญชีกลางของนครนิวยอร์ก โธมัส พี. ดินาโปลี สำนักงานบัญชีกลางของรัฐนิวยอร์ก และผู้ดูแลผลประโยชน์(Trustee) ของระบบการบำนาญในนครนิวยอร์กทั้ง 5 แห่ง [5]ได้รณรงค์ให้ผู้ถือหุ้นลงคะแนนเสียงคัดค้านการเลือกตั้งกรรมการ Amazon 2 คน ที่รับผิดชอบด้านการจัดการทรัพยากรบุคคล กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง

New York City Retirement System และ New York State Common Retirement Fund เป็นผู้นำกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่มีหุ้นรวมกัน 1.7 ล้านหุ้น ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2022 รวมมูลค่าประมาณ 5.3 พันล้านดอลลาร์

ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาเดือนเมษายน 2022 แบรด แลนเดอร์ และ โธมัส พี. ดินาโปลี ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความกังวลเกี่ยวกับการไม่ตอบสนองต่อความท้าทายด้านการจัดการทุนมนุษย์และการขาดการกำกับดูแลจากคณะกรรมการในด้านนี้

กองทุนบำนาญทั้งสองกอง เรียกร้องให้ผู้ถือหุ้นลงคะแนนเสียงคัดค้านการเลือก Daniel Huttenlocher และ Judith Mcgrath ซึ่งเป็นกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาความเป็นผู้นำและค่าตอบแทน(Leadership Development and Compensation Committee)ของ Amazon มานาน โดยชี้ไปที่อัตราการบาดเจ็บที่สูงของ Amazon เมื่อเทียบกับคู่เทียบ การลาออกที่สูง และการละเมิดสิทธิแรงงาน ตลอดจนค่าตอบแทนผู้บริหารระดับสูง ที่บ่งชี้ถึงการจัดลำดับความสำคัญผิดที่ของคณะกรรมการ

“ในฐานะนักลงทุนระยะยาว เรากังวลอย่างมากเกี่ยวกับการขาดการกำกับดูแลที่เป็นอิสระจากคณะกรรมการของ Amazon เกี่ยวกับข้อกังวลด้านแรงงานที่ร้ายแรงซึ่งคุกคามทั้งสวัสดิภาพของพนักงานและมูลค่าระยะยาวของบริษัท อัตราการบาดเจ็บที่สูง การลาออกอย่างรวดเร็ว และกิจกรรมต่อต้านสหภาพแรงงานเชิงรุกที่ละเมิดสิทธิ์ของคนงาน ได้สร้างสถานที่ทำงานที่ไม่ยั่งยืนสำหรับพนักงานกว่า 1.6 ล้านคนของ Amazon และขอเรียกร้องผู้ถือหุ้นเข้าร่วมกับเราในการลงคะแนนเสียงต่อต้านการเลือก Huttenlocher และ McGrath ซึ่งล้มเหลวในการกำกับดูแลการจัดการปัญหาด้านแรงงานของบริษัท” แลนเดอร์จากสำนักงานบัญชีกลางของนครนิวยอร์กกล่าว

ต่อมาวันที่ 11 พฤษภาคม 2022 ก่อนการประชุมผู้ถือหุ้น Glass Lewis หนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาอิสระชั้นนำของการลงคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้นได้แนะนำ[6]ให้ผู้ถือหุ้น Amazon ให้ลงคะแนนเสียงคัดค้านการเลือก Judith McGrath ซึ่งเป็นประธาน Leadership Development and Compensation Committee กลับเข้ามาเป็นกรรมการอีก

แลนเดอร์กล่าวว่า “ในฐานะหนึ่งในนายจ้างรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของประเทศ การปฏิบัติต่อพนักงานของ Amazon มีผลกระทบอย่างมากต่อครัวเรือนหลายล้านครัวเรือน พอร์ตการลงทุนของเรา และเศรษฐกิจของเรา ผู้ถือหุ้นของ Amazon ต้องการกรรมการที่มีคุณภาพและมีความรับผิดชอบซึ่งตอบสนองต่อข้อกังวลของนักลงทุนมากกว่า เป็นตรายางให้กับแนวทางปฏิบัติด้านสุขภาพและความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอฝ่ายจัดการ และการแทรกแซงซ้ำแล้วซ้ำอีก กับสิทธิ์ของคนงานในการจัดตั้งสหภาพแรงงาน ซึ่งขัดต่อนโยบายของตนเองและกฎหมายแรงงานของสหรัฐฯ”

อย่างไรก็ตามข้อเสนอของ New York City Retirement System และ New York State Common Retirement Fund ที่ค้านการเลือก Judith McGrath ไม่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม แต่ได้รับคะแนนเสียงจากผู้ถือหุ้นภายนอก 27%[7]

McGrath ได้กลับมานั่งเก้าอี้กรรมการอีกครั้ง โดยมีผู้ถือหุ้นเห็นชอบถึง 78% แต่ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะปกติแล้วกรรมการที่ได้รับการเสนอชื่อจะได้คะแนนโหวตมากกว่า 90%

ที่มาภาพ: https://comptroller.nyc.gov/newsroom/in-a-stinging-rebuke-amazon-shareholders-vote-27-of-outside-shares-against-key-board-director/

พนักงานคนแรกที่ใช้สิทธิผู้ถือหุ้นยื่นข้อเสนอต่อบริษัท

พนักงานคลังสินค้าของ Amazon ได้สร้างความฮือฮามาแล้วก่อนหน้านี้ ด้วยชัยชนะในการจัดตั้งสหภาพแรงงาน และจัดให้มีการหยุดงานเพื่อกระตุ้นให้มีสภาพการทำงานที่ดีขึ้น และการประชุมผู้ถือหุ้นปี 2022 มีคนงานคนหนึ่งกำลังใช้วิธีการใหม่ๆ กับบริษัท

Daniel Olayiwola กลายเป็นพนักงานคลังสินค้าคนแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัทที่ยื่นมติของเขาเองในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของ Amazon

Olayiwola ได้เข้าซื้อหุ้นของ Amazon ในช่วงต้นปีเมื่อรู้ว่าการถือหุ้น Amazon ทำให้เขามีสิทธิ์ในการยื่นข้อเสนอ ซึ่งจัดทำขึ้นด้วยการสนับสนุนของ United for Respect องค์กรรณรงค์ด้านแรงงาน

Olayiwola เป็นพนักงานจัดสินค้า(picker)ซึ่งทำงานที่คลังสินค้าในฟลอริดาและเท็กซัสมาตั้งแต่ปี 2020 เรียกร้องให้ยกเลิกการตรวจสอบและระบบโควตาสำหรับพนักงานคลังสินค้าและจัดส่งของ Amazon ทุกคน รวมถึงคนขับรถและผู้รับเหมาบุคคลจากภายนอกรายอื่นๆ

ข้อเสนอของเขาเจาะจงไปที่นโยบาย “Time Off Task ช่วงเวลาพัก” ที่ลงโทษพนักงานที่ดึงเวลาเป็นจำนวนนาทีโดยไม่สแกนผลิตภัณฑ์ รวมช่วงพักเข้าห้องน้ำ และยังเรียกร้องให้ยุติระบบอัตรา หรือจำนวนผลิตภัณฑ์ของพนักงานที่คาดว่าจะสแกนต่อชั่วโมง คนงานที่มี TOT มากเกินไปหรือไม่ได้สแกนผลิตภัณฑ์ตามอัตราที่กำหนด มีความเสี่ยงที่จะถูกเลิกจ้าง

Olayiwola ให้เหตุผลว่า ระบบนี้ให้ความสำคัญกับผลิตภาพของงานมากกว่าความปลอดภัย ส่งผลให้พนักงานหมดแรงและได้รับบาดเจ็บ และมีข้อมูลสนับสนุนข้อเสนอของเขา โดยรายงานเดือนเมษายนจาก Strategic Organizing Center ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหภาพ
แรงงาน พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ Amzon มากกว่าการบาดเจ็บที่คลังสินค้าอื่นที่ไม่ใช่ของ Amazon ถึงกว่า 2 เท่า ในปีที่แล้ว บริษัทรับรู้ว่าอัตราการบาดเจ็บเพิ่มขึ้นจากปี 2020-2021 เนื่องจากมีการฝึกอบรมพนักงานใหม่เข้ามา แต่ระบุว่าอัตราการบาดเจ็บได้ลดลงมากกว่า 13% จากปี 2019-2021

Daniel Olayiwola ที่มาภาพ:https://www.businessinsider.com/amazon-unions-warehouse-speed-work-labor-2022-10

Olayiwola ให้ข้อมูลว่า picker ทำหน้าที่จัดสินค้าสำหรับบรรจุภัณฑ์และการจัดส่ง ซึ่งต้องประจำจุดเป็นเวลา 10 ชั่วโมง ปกติครั้งละ 2.5-3 ชั่วโมง หยิบสินค้าในอัตราไม่น้อยกว่า 300-350 ชิ้นต่อชั่วโมง หากต่ำกว่านั้น จะได้รับข้อความหรือมีคนเดินมาหาและพูดว่า “ทำไมหยิบช้าจัง? ต้องเร่งความเร็วในช่วงที่สองของวัน”

สำหรับ Olayiwola ทำงานเป็นกะ เริ่มตั้งแต่ 7:30 น. ในตอนเช้า ทำให้เขาต้องเตรียมอาหารกลางวัน 2 กล่อง เพราะไม่ได้ออกจากอาคารเพื่อไปพัก และมีเวลาพัก 30 นาทีหนึ่งครั้งและพักครั้งละ 15 นาทีสองครั้ง

Olayiwola ไม่ต้องการลาออก แต่ต้องการให้บริษัทปรับเปลี่ยน “หลายคนชอบ ‘ถ้าคุณไม่ชอบก็แค่เลิกทำ’ “แต่ผู้ชนะไม่เคยเลิก และผู้เลิกไม่เคยชนะ ผมทำงานที่ Amazon มาหลายปีแล้วและก็ยังอยู่”

ในการโต้แย้งที่มีความยาว 3 หน้ากระดาษต่อข้อเสนอที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบสภาพการทำงานของคลังสินค้าจากผู้ตรวจสอบอิสระ Amazon ขอให้ผู้ถือหุ้นลงคะแนนคัดค้านข้อเสนอเพราะ “ความปลอดภัยเป็นส่วนสำคัญต่อทุกสิ่งที่เราทำที่ Amazon” และบริษัทมีความโปร่งใสเกี่ยวกับอัตราการบาดเจ็บและข้อมูลความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน

เสียงส่วนใหญ่บวกพลังหุ้นเจ้าของตีตกทั้ง 15 ข้อเสนอ

ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2022 ที่มีขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคม ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของ Amazon ได้ลงคะแนนเสียงคัดค้าน[9]มติทั้ง 15 ข้อที่ท้าทายนโยบายของบริษัทจากการเสนอของนักลงทุน ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติต่อคนงานและการใช้ข้อตกลงที่ไม่เปิดเผยข้อมูล

David Zapolsky ที่ปรึกษาทั่วไปของ Amazon กล่าวว่า เสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมได้โหวตไม่เห็นด้วยในแต่ละข้อเสนอของผู้ถือหุ้น แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการลงคะแนนเสียง

Amazon บริษัทเอกชนที่จ้างงานใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯ ได้แนะนำให้ผู้ถือหุ้นลงคะแนนเสียงคัดค้านมติผู้ถือหุ้นทั้งหมด ท่ามกลางการผลักดันของผู้ถือหุ้นให้มีความโปร่งใสมากขึ้นต่อประเด็น การจ่ายค่าตอบแทน วัฒนธรรมในที่ทำงานและความปลอดภัย และประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) อื่นๆ

ที่มาภาพ:https://www.businessinsider.com/amazon-unions-warehouse-speed-work-labor-2022-10

นักลงทุนสนับสนุนข้อเสนอเพื่ออนุมัติค่าตอบแทนผู้บริหาร การเลือกผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการของบริษัท และการแตกหุ้น

จากข้อมูลของ PIRC ซึ่งช่วย OIP Investment Trust และ Greater Manchester Pension Fund ในการยื่นมติ เปิดผยว่า 1 ใน 5 ของผู้ถือหุ้นอิสระ ลงมติเห็นชอบข้อเสนอเกี่ยวกับความโปร่งใสด้านภาษี อย่างไรก็ตามข้อเสนอที่ได้รับคะแนนมากที่สุดคือ ข้อเสนอ ด้านสิ่งแวดล้อมที่กำหนดเป้าหมายการใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ ซึ่งได้คะแนนไม่ถึง 50%

มาร์วิน โอเว่น chief engagement officer จาก Impact Shares ซึ่งโหวตให้กับข้อเสนอเกือบทั้งหมด กล่าวว่า ผลการลงคะแนนชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ที่สุดของ Amazon ให้ความสำคัญกับเรื่องธุรกิจเกี่ยวกับสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่วัดผลง่ายกว่าเมื่อเทียบกับปัญหาสังคม

การที่ข้อเสนอของผู้ถือหุ้นทั้ง 15 ข้อเสนอ ไม่ผ่านที่ประชุมผู้ถือหุ้น ส่วนหนึ่งมาจากการลงคะแนนของผู้ก่อตั้งบริษัทจากสิทธิลงคะแนนที่มาจากของโครงสร้างประเภทหุ้นแบบ Dual class share

ที่ผ่านมานักลงทุนมักโหวตให้กับข้อแนะนำของคณะกรรมการบริษัททุกครั้ง นอกจากนี้สัดส่วนการถือหุ้น 12.7% ของ Jeff Bezos ในบริษัท ทำให้ได้รับคะแนนเสียงประมาณ 12.7%

Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งบริษัทและประธานบริหารถือหุ้น 12.7% ของหุ้นที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงของ Amazon ทำให้โดยพฤตินัยสามารถวีโต้ (veto) ได้ทุกคะแนนเสียง

โครงสร้างความเป็นเจ้าของแบบ 2 ประเภท ช่วยให้ผู้ถือหุ้นที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ก่อตั้ง มีอำนาจในการออกเสียงมากกว่าคนอื่นๆ

พลังหุ้นของเจ้าของเห็นได้ชัดในข้อเสนอเรื่องผลตอบแทนผู้บริหาร ในรายงานที่ส่งสำนักงานก.ล.ต. Amazon ระบุว่าได้คะแนนเสียงเพียง 56% แต่คะแนนเสียงของ Jeff Bezos พลิกให้คะแนนกลับมามาก[10]

“Jeff Bezos ถือหุ้น 12.7% ที่น่าสนใจคือผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร ถ้าไม่มีการลงคะแนนเสียงของเขา” จากความเห็นของ Rosanna Landis Weaver ผู้จัดการอาวุโสด้าน Wage Justice และ Executive Pay Program ของ As You Sow กลุ่มผู้ถือหุ้นนักเคลื่อนไหวรายหนึ่ง

  • As You Sow ปลุกพลังผู้ถือหุ้นขับเคลื่อน ESG “เปลี่ยนบริษัทให้คงอยู่ตลอดไป”
  • โครงสร้างหุ้นที่แบ่งหุ้นสามัญออกเป็น 2 ประเภทหรือ Dual class share ช่วยให้สามารถออกหุ้นประเภทต่าง ๆ ซึ่งมีสิทธิ์ในการออกเสียงในระดับต่างๆ และมักส่งผลให้สมาชิกผู้ก่อตั้งของบริษัทยังคงควบคุมธุรกิจได้แม้จะมีหุ้นในระดับต่ำอย่างไม่เท่ากัน

    Dual class share ให้สิทธิในการออกเสียง (Voting Rights) ไม่เท่ากัน[11] อาทิ การที่บริษัทออกหุ้นประเภทหนึ่ง 1 หุ้น มีสิทธิออกเสียงเท่ากับ 10 คะแนนเสียง โดยจะเรียกหุ้นประเภทนี้ว่า Super voting shares ในขณะที่หุ้นอีกประเภทหนึ่ง เป็นหุ้นสามัญธรรมดาที่ 1 หุ้นมีสิทธิออกเสียงเท่ากับ 1 คะแนนเสียง

    โดยรูปแบบการออกหุ้นดังกล่าวมักเป็นการออกหุ้นประเภทให้สิทธิออกเสียงมากกับกลุ่มผู้บริหาร เจ้าของ และประเภทหุ้นสามัญธรรมดาที่มีสิทธิออกเสียงน้อยให้กับผู้ลงทุนทั่วไป ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของโครงสร้างการออกหุ้นสามัญประเภทนี้ก็เพื่อทำให้บริษัทที่มีความตั้งใจอยากระดมทุน แต่ยังอยากมีสิทธิในการบริหารจัดการด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามโครงสร้างดังกล่าวก็ยังคงมีเสียงโต้แย้งจากผู้ลงทุนในหลายประเด็น อาทิ ความไม่ยุติธรรม ความโปร่งใส

    ไมเคิล คอนเนอร์ กรรมการบริหารของ Open Mic ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานร่วมกับนักลงทุนสถาบันเพื่อยื่นข้อเสนอผู้ถือหุ้นที่ส่งผลกระทบทางสังคม ไปที่บริษัทเทคโนโลยรายใหญ่ ให้ความเห็นว่า ความสำเร็จของ ESG ไม่ควรวัดด้วยคะแนนเสียงข้างมากเท่านั้น[12]

    “ข้อเสนอของผู้ถือหุ้นไม่จำเป็นต้องได้รับเสียงข้างมากเพื่อให้มีผลต่อบริษัท” แต่ได้ “ส่องไฟไปที่บริษัทและประเด็นจากสาธารณะ” คำถามก็คือว่าผู้ก่อตั้งที่มีอำนาจสูงในบริษัทเทคโนโลยีจะสังเกตเห็นหรือไม่”

    แหล่งข้อมูล
    [1] Thompson reuters Foundation News.2022.OPINION: Why ESG investors need to think twice about Amazon.
    https://news.trust.org/item/20220118165222-odl0n/
    [2] Protocol.2022.mazon will face 15 votes at its shareholder meeting — and likely win them all.
    https://www.protocol.com/workplace/amazon-2022-shareholder-meeting-votes
    [3]ESGinvestor.2022.Primed for Action on Pay After Amazon’s Close Call. https://www.esginvestor.net/primed-for-action-on-pay-after-amazons-close-call/
    [4] Tulipshare.ENSURE FAIR AND SAFE WORKING ENVIRONMENTS FOR AMAZON WAREHOUSE WORKERS.
    https://tulipshare.com/campaigns/AMZN
    [5]New York Comptroller.Brad Lander.2020.NewsRoom.New York City and State Pension Funds Launch “VOTE NO” Campaign Against Against the Re-election of Two Amazon Board Directors Responsible for Oversight of Human Capital Management.https://comptroller.nyc.gov/newsroom/new-york-city-and-state-pension-funds-launch-vote-no-campaign-against-against-the-re-election-of-two-amazon-board-directors-responsible-for-oversight-of-human-capital-management/
    [6]New York Comptroller.Brad Lander.2020.NewsRoom.Independent Proxy Advisor Glass Lewis Joins New York City and State Pension Funds in Urging Shareholders to VOTE NO on the Re-election of Amazon Board Director Judith McGrath.https://comptroller.nyc.gov/newsroom/independent-proxy-advisor-glass-lewis-joins-new-york-city-and-state-pension-funds-in-urging-shareholders-to-vote-no-on-the-re-election-of-amazon-board-director-judith-mcgrath/
    [7] New York Comptroller.Brad Lander.2020.NewsRoom.In a Stinging Rebuke, Amazon Shareholders Vote 27% of Outside Shares Against Key Board Director.https://comptroller.nyc.gov/newsroom/in-a-stinging-rebuke-amazon-shareholders-vote-27-of-outside-shares-against-key-board-director/
    [8] Wired.2022.An Amazon Warehouse Worker Takes the Fight to Shareholders.
    https://www.wired.com/story/amazon-warehouse-worker-shareholder-proposal/
    [9] Reuters.2022.Amazon’s socially-focused shareholder proposals fall short at annual meeting.
    https://www.reuters.com/business/sustainable-business/amazoncom-faces-record-challenges-shareholder-meeting-2022-05-25/
    [10] Thompson reuters Foundation News.2022.OPINION: Why ESG investors need to think twice about Amazon.https://news.trust.org/item/20220118165222-odl0n/
    [11]RYT9.2018.สรุปใจความสำคัญ session ช่วงบ่ายงาน Thailand SEC Policy Dialogue 2018: Regulating by Market Forces.https://www.ryt9.com/s/prg/2922405
    [12]Protocol. ESG’s dual-shareholder problem.https://www.protocol.com/newsletters/policy/shareholder-activist-investor-tech?rebelltitem=10#rebelltitem10