ThaiPublica > Native Ad > ปม พ.ร.ก.คลังค้ำหนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ภาครัฐเอาอยู่ ไม่กระทบวินัยการคลัง

ปม พ.ร.ก.คลังค้ำหนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ภาครัฐเอาอยู่ ไม่กระทบวินัยการคลัง

30 สิงหาคม 2022


ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประเด็นที่คณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. … และการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ตามข้อเสนอกระทรวงพลังงาน เพื่อเป็นการช่วยแก้ไขสภาพคล่องให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งสร้างความกังวลไม่น้อยต่อสถานการณ์หนี้สาธารณะของประเทศ เพราะหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นการโยกภาระหนี้ไปให้ประชาชนผู้เสียภาษี ใช้คืนหนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ปัจจุบันติดลบกว่าแสนล้านบาทแล้ว

แต่ไม่ทันที่กระแสจะถูกตีวงกว้างไปกว่านี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในสังกัดกระทรวงการคลังต่างออกมาสยบข่าว สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้ออกมาชี้แจงว่า ตามหลักการเมื่อกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกู้เงินมา ไม่ว่ากระทรวงการคลังจะเข้าไปค้ำประกันหรือก็ตาม เมื่อกองทุนนั้นๆ เป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของรัฐ หนี้ที่กู้ก็ถือว่าเป็นหนี้สาธารณะอยู่แล้ว แต่ภาระชำระหนี้จะไม่ใช่ภาษีหรือเงินงบประมาณของภาครัฐที่นำไปชำระ จะเป็นเงินที่มาจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เรียกเก็บจากผู้ใช้น้ำมัน ซึ่งรูปแบบนี้เป็นเหมือนกับหลายรัฐวิสาหกิจที่การกู้เงินถือว่าเป็นหนึ่งในหนี้สาธารณะ องค์กรนั้นๆ จะชำระหนี้เอง ไม่เป็นภาระหนี้งบประมาณ

อีกทั้งธนาคารออมสินได้ประสานเสียงสร้างความมั่นใจในฐานะแบงก์ของรัฐว่า พร้อมรับนโยบายเข้าร่วมแข่งขันในการปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดเท่าที่ธนาคารจะทำได้ เนื่องจากเป็นโครงการที่ตอบสนองนโยบายของรัฐ และเป็นการเข้าข่ายโครงการเพื่อสังคม

งานนี้อาจกล่าวได้ว่า ภาครัฐจัดการกับสถานการณ์นี้ที่ไม่ทำให้เรื่องการออก พ.ร.ก. ถูกจุดชนวนบานปลายกลายเป็นประเด็นปัญหาซ้ำเติมระบบเศรษฐกิจ

ย้อนความสำหรับการออก พ.ร.ก.ให้กระทรวงการคลังค้ำประกันหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) นั้น เป็นผลมาจากการเปลี่ยนผ่านการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปัจจุบันบริหารโดย สกนช. ซึ่งเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากรัฐ กระทรวงการคลังไม่ได้เป็นผู้ค้ำประกันโดยอัตโนมัติ จึงต้องออก พ.ร.ก. เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่สถาบันการเงินที่จะให้กู้ และยังช่วยเสริมสภาพคล่องสนับสนุนให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เดินหน้าทำหน้าที่ในการดูแลเสถียรภาพราคาพลังงาน ช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนต่อไปได้

อย่างไรก็ดี ขั้นตอนต่อจากนี้ที่จะทำให้การกู้เงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเดินหน้าต่อไปได้ ยังต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอีกหลายขั้นตอนก่อนมีผลบังคับใช้ต่อไป