ThaiPublica > เกาะกระแส > Youth unemployment : ส่องตลาดแรงงานเด็กจบใหม่ยุค COVID-19

Youth unemployment : ส่องตลาดแรงงานเด็กจบใหม่ยุค COVID-19

18 พฤษภาคม 2022


รายงานโดย พิมพ์ชนก โฮว เกวลิน ศรีวิชยางกูร ภัทรียา นวลใย

การว่างงานของเด็กจบใหม่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีมาแล้วระยะเวลาหนึ่ง และยังถูกซ้ำเติมด้วย การระบาดของ COVID-19 โดยตัวเลขการว่างงานของเด็กจบใหม่หรือการว่างงานของกลุ่มเยาวชน (Youth unemployment) ในช่วงอายุ 15-24 ปี มีจำนวนเพิ่มขึ้น จากภาวะปกติเกือบแสนคน สะท้อนถึงปัญหาของตลาดแรงงานเด็กรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญที่จะเป็นแรงงานมีฝีมือในระยะข้างหน้า บทความนี้ จะกล่าวถึงสาเหตุเชิงโครงสร้างของตลาดแรงงานเด็กจบใหม่ผลกระทบของ COVID-19 ที่ซ้ำเติมปัญหานี้ ตลอดจนแนวทางในการรับมือกับปัญหาการว่างงานของต่างประเทศที่ไทยสามารถนำมาปรับใช้เพิ่มเติมได้ในระยะต่อไป

ทำไมการว่างงานในกลุ่มเด็กจบใหม่ของไทยอยู่ในระดับสูง?

1) ตำแหน่งงานว่างไม่สอดคล้องกับทักษะ/วุฒิการศึกษา/ค่านิยมของเด็กจบใหม่

  • ความต้องการแรงงานส่วนใหญ่ในทุกภูมิภาคเป็นกลุ่มอาชีพ พื้นฐาน อาทิ แรงงานทั่วไป แม่บ้าน (รูปที่ 1) และเน้นวุฒิการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีสะท้อนถึงปัญหา Qualification Mismatch ในตลาดแรงงาน ที่แรงงานมีระดับการศึกษาไม่ตรงกับระดับทักษะที่จำเป็นต่องานนั้น ๆ
  • บางบริษัทขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะด้านเทคโนโลยี อาทิ โปรแกรมเมอร์ Data Scientist ซึ่งค่อนข้างหายากในภูมิภาค โดยเป็นสาขาที่คนจบมาน้อย (รูปที่ 2) สะท้อนถึงปัญหา Skill Mismatch ทั้งในปัจจุบัน และอีกอย่างน้อยใน 2-3 ปีข้างหน้า1
  • เด็กจบใหม่บางส่วนจึงนิยมออกไปประกอบอาชีพอิสระมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคการค้าและบริการ พบว่า เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 4.6 หมื่นคน ในปี 2019 เป็น 5.6 หมื่นคน ในปี 20212

  • 2)ธุรกิจมีแนวโน้มปรับกระบวนการทำงาน โดยลดการพึ่งพาการใช้คน และลงทุนในเทคโนโลยี/ดิจิทัลมากขึ้น

  • บางบริษัทมีการปรับลดจำนวนพนักงาน โดยบางส่วนให้พนักงานทาหลายหน้าที่มากขึ้น (Multitask) และนาเทคโนโลยีมาทดแทนแรงงาน ในกระบวนการทำงานต่างๆ มากขึ้น
  • ตลาดแรงงานมีการแข่งขันเข้มข้นมากขึ้น ส่งผลให้เด็กจบใหม่มีโอกาสได้รับการเข้าทางานยากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มคนที่เคยมีประสบการณ์ทำงาน
  • ตัวอย่างการปรับกระบวนการทำงาน

  • บางบริษัทมีการนำระบบ Automation มาทดแทนการใช้แรงงานบางส่วน เช่น ในอุตสาหกรรมการผลิต
  • มีการลงทุนในระบบ IT สำหรับงานด้านบริหาร / งาน admin / งานเอกสาร ซึ่งทำให้มีการลดแรงงานเป็นจำนวนมาก
  • มีความต้องการแรงงานกลุ่ม high skill labor ที่มีทักษะด้านเทคโนโลยี
  • ที่มา : รายงานแนวโน้มธุรกิจ, ธปท. และข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ

    การว่างงานของเด็กจบใหม่นับเป็นปัญหาที่มีความสำคัญ และมีแนวโน้มที่จะเกิดผลกระทบในระยะยาว โดยเฉพาะการเกิดช่องว่างของทักษะการทำงาน (skilled gap) หากคนกลุ่มนี้ว่างงานยาวนาน 2-3 ปี จะยิ่งส่งผลให้เข้าสู่ตลาดแรงงานยากขึ้น ประกอบกับยังมีกลุ่มเด็กจบใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงานราวอีก 4-5 แสนคนในแต่ละปี3 ทำให้ตลาดแรงงานในอนาคตยิ่งน่ากังวลมากขึ้น

    Covid-19 ส่งผลอย่างไรต่อเด็กจบใหม่และทำไมปัญหานี้มีความสำคัญ?

    การระบาดของ COVID-19 กระทบต่อตลาดแรงงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มเด็กจบใหม่4 โดยจำนวนเด็กจบใหม่ว่างงานเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะในไตรมาส 2 ของปี2021 ที่มีจำนวนถึง2.9แสนคน โดยเฉพาะในระดับอุดมศึกษา แม้ปัจจุบันการว่างงานโดยรวมจะทุเลาลงบ้าง แต่ยังสูงกว่าระดับเฉลี่ยก่อนการระบาดของ COVID-19 (รูปที่ 3) และหากคิดเป็นอัตราการว่างงานแล้ว พบว่า กลุ่มเยาวชนอายุ 15-24 ปีมีอัตราการว่างงานสูงถึง 7.2% โดยมากกว่าอัตราการว่างงานของแรงงานทั้งหมด ซึ่งอยู่ที่ 1.6% (รูปที่ 4) นอกจากนี้จากข้อมูล Google trend (รูปที่ 5) ยังพบว่า ความสนใจในการค้นหางานของเด็กจบใหม่ซึ่งยังไม่สามารถหางานทำได้หรือ ตกงานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยในช่วงที่ COVID-19 ระบาดหนัก

  • หากมองในมิติสาขาที่ยังมีจำนวนผู้ว่างงานสูงที่ได้รับผลกระทบหนักจาก COVID-19 ได้แก่ ภาคบริการและการค้า โดยเฉพาะในกทม. ภาคกลาง และภาคใต้ (รูปที่ 6)ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสาขาที่เด็กจบใหม่ไทยเลือกศึกษา จึงอาจซ้ำเติมปัญหาการว่างงานของเด็กจบใหม่มากขึ้น อีกทั้งแต่ละสาขาโดยเฉพาะภาคการค้าและบริการยังจำเป็นต้องใช้เวลาฟื้นตัว จึงยิ่งมีแนวโน้มหางานได้ยากขึ้น
  • ปัญหาการว่างงานของเด็กจบใหม่ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นในทุกภูมิภาค โดยกลุ่มบัณฑิตที่จบระดับปริญญาตรีในภาคเหนือ อีสาน และใต้ ที่ยังไม่มีประสบการณ์ทำงานและว่างงานมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 80%,73%และ 67% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปี2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อน COVID-19(รูปที่7)
  • ทั้งนี้ ข้อมูลจากรายงานการย้ายถิ่นของประชากรปี 2020 พบว่า กลุ่มคนอายุ15-24ปี มีอัตราการโยกย้ายกลับภูมิภาคในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 มากที่สุด และคาดว่ายังไม่สามารถหางานทำได้จนถึงปัจจุบัน ทำให้ ตลาดแรงงานภูมิภาคมีความเปราะบางมากขึ้น ขณะที่ภาคกลางปรับดีขึ้นบ้าง เนื่องจากธุรกิจที่รองรับกลุ่มเด็กจบใหม่มีมากกว่าในภูมิภาคและธุรกิจเหล่านี้เริ่มกลับมาดำเนินการได้ปกติไวกว่าภูมิภาคจากลักษณะของธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงกับความต้องการจากต่างประเทศ ซึ่งมีทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่องมากกว่าภูมิภาค
  • ส่องนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ….บทเรียนจากต่างประเทศ

    การว่างงานของเด็กจบใหม่ไม่ได้เป็นปัญหาที่พบแค่ในไทยแต่หลายประเทศทั่วโลกได้เผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าวเช่นเดียวกันและหลายประเทศเกิดขึ้นก่อนไทย อาทิ สิงคโปร์ เยอรมนี และเกาหลีใต้ เป็นต้น (รูปที่ 8) โดยประเทศเหล่านี้ได้มีมาตรการต่างๆ เพื่อรับมือและจัดการกับปัญหาการว่างงานของเด็กจบใหม่ ซึ่งส่งผลให้ปัญหาดังกล่าวมีแนวโน้มปรับดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยมาตรการที่น่าสนใจ มีดังนี

    เกาหลีใต้
    ภาพรวม รัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อแก้ปัญหา และควบคุมอัตราการว่างงานของเด็กจบใหม่ให้ทรงตัวรวมทั้งให้เงินสนับสนุนผู้ที่กำลังหางาน ผ่าน Employment Success Package Program
    มาตรการที่น่าสนใจ เพิ่มสัดส่วนการจ้างเด็กจบใหม่ในหน่วยงานรัฐจาก 3% เป็น5% และใช้นโยบาย Human New Deal เพื่อปฏิรูป
    แรงงานและสนับสนุนให้ ภาคเอกชนเพิ่มการลงทุนและการจ้างงาน
    จุดเด่น เน้นสร้างงานในระบบเศรษฐกิจจากภาคเอกชน โดยเฉพาะ SMEs ผ่านการสนับสนุนเงินเดือน และขยายวงเงินกู้ให้SMEs ที่จ้างเด็กจบใหม่

    สิงคโปร์
    ภาพรวมการว่างงานของเด็กจบใหม่ฟื้นตัวจาก COVID-19 ได้เร็ว เนื่องจากมีการวางแผนแรงงานผ่านระบบการศึกษาด้วยการจำกัด
    โควตา เพื่อให้สามารถผลิตแรงงานได้ทั้งสายสามัญและสายอาชีพ
    มาตรการที่น่าสนใจ มีเว็บไซต์ให้เด็กจบใหม่เรียนรู้เพิ่มพูนทักษะ อาทิ Skills Future Singapore และ SG United Traineeships Programme for Trainees
    จุดเด่นเน้นการวางแผนแรงงานในระยะยาวผ่านระบบการศึกษาและมุ่งพัฒนาทุนมนุษย

    เยอรมัน
    ภาพรวม มีความยืดหยุ่นจากระบบประกันสังคม และ Dual Education System ที่ดีโดยเรียนรู้วิชาการควบคู่การฝึกงาน และเลือก
    ศึกษาต่อสายสามัญและปริญญาได้ในภายหลัง
    มาตรการที่น่าสนใจ กรมจัดหางานท้องถิ่นให้เงินช่วยเหลือที่ครอบคลุมขั้นพื้นฐาน ให้คำปรึกษา รวมทั้งจัดอบรมเพิ่มทักษะทางวิชาชีพสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า25 ปี
    จุดเด่นเน้นการให้สวัสดิการพื้นฐานเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายระหว่างการหางานใหม่ และมีระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น และฝึกปฏิบัติควบคู่กับเรียนรู้ทางวิชาการ

    สำหรับไทย ภาครัฐมีมาตรการแก้ปัญหาการว่างงานในกลุ่มเด็กจบใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาคุณภาพแรงงานและการจัดหางานและในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลให้การว่างงานในกลุ่มเด็กจบใหม่ปรับเพิ่มขึ้นมาก ภาครัฐได้ออกมาตรการเพิ่มเติม อย่างโครงการ Co-payment ที่มีการสนับสนุนค่าจ้างไม่เกิน 50% ให้กับนายจ้างที่จ้างเด็กจบใหม่ตามวุฒิการศึกษาและการจ้างงานจากหน่วยงานภาครัฐในลักษณะสัญญาชั่วคราว 1 ปี6ซึ่งมีส่วนช่วยให้ปัญหาดังกล่าวของไทยปรับดีขึ้น สอดรับกับช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว

    มองไปข้างหน้า ประสบการณ์จากต่างประเทศที่ได้เผชิญกับปัญหาดังกล่าวก่อนไทย สะท้อนว่า การว่างงานของเด็กจบใหม่จะยังคง เป็นประเด็นของตลาดแรงงานไทยไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งภาครัฐได้เตรียมรับมือโดยมีมาตรการระยะยาว อย่างการผลักดันการพัฒนากำลังคนเพื่อ รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของ EEC และขยายผลโครงการ E-Workforce Ecosystem นอกจากนี้ ไทยยังสามารถเรียนรู้ประสบการณ์จาก ประเทศเหล่านี้และนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของไทยเพิ่มเติมจากมาตรการที่ดำเนินการอยู่ เพื่อช่วยเสริมสร้างให้แรงงานไทยพร้อม รับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกใหม่ได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

    5 แสนคน คือ จำนวนเด็กจบใหม่ในทุกๆ ปี7และยังมีแนวโน้มจบจากสาขาที่ไม่ตรงกับความต้องการของตลาด หากเด็กกลุ่มนี้ว่างงานต่อเนื่อง จะก่อให้เกิด skill gapซึ่งอาจส่งผลให้แข่งขันในตลาดแรงงานได้ยากขึ้น การเสริมสร้างทักษะให้เด็กจบใหม่ว่างงานเป็นสิ่งสำคัญ แต่การวางแผนแรงงานและการสร้างงานเป็นสิ่งจำเป็น

    อ้างอิง
    1 ผู้ศึกษาประเมินจากข้อมูลกรมจัดหางาน ที่แสดงจำนวนนักศึกษาในแต่ละระดับชั้นปี จำแนกตามคณะพบว่ายังมีสัดส่วนใกล้เคียงเดิม
    2 สำนักงานสถิติแห่งชาติ, คำนวณโดยผู้ศึกษา
    3 การคาดการณ์สถานการณ์ตลาดแรงงานปี 2022-2023 โดยกรมจัดหางาน
    4 มีอายุระหว่าง 15-24 ปี โดยอ้างอิงตามนิยามของ OECD ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ และ Google Trend, คำนวณโดยผู้ศึกษา
    5 ข้อมูลอัตราการว่างงานของแรงงานอายุ 15-24 ปี ปี2019-2021 ประเทศไทยใช้ข้อมูลจากสำนักสถิติแห่งชาติ ประเทศสิงคโปร์ใช้ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ ใช้ข้อมูลจาก OECD
    6 โครงการสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2021
    7 ข้อมูลคาดการณ์ปี 2022และ 2023จากกรมจัดหางาน

    บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย