ThaiPublica > เกาะกระแส > นายกฯยันไม่ “ปรับครม.-ยุบสภา” ชี้ยังออกกฎหมายไม่เสร็จ

นายกฯยันไม่ “ปรับครม.-ยุบสภา” ชี้ยังออกกฎหมายไม่เสร็จ

20 มกราคม 2022


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายกฯยืนยันไม่มี “ปรับครม.-ยุบสภา” ชี้ยังออกกฎหมายไม่เสร็จเรียบร้อย ปัดให้ความเห็นกรณี “ธรรมนัส” ถูกขับจาก พปชร. – ย้ำเป็นเรื่องหัวหน้า-กรรมการบริหารพรรค สั่งพลังงานเตรียมมาตรการรับมือไบโอดีเซล-แอลพีจีปรับขึ้นราคา – กำชับพาณิชย์เร่งแก้ “ของแพง” ช่วงตรุษจีน วอนพ่อค้าอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (ศบค.) ณ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 , ปัญหาสินค้าราคาแพง และปัญหาการเมือง โดยเฉพาะความจัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุม ศบค.ได้มีการพิจารณาเรื่องการแก้ปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส สายพันธุ์โอมิครอน และมีการปรับมาตรการต่าง ๆ ตามที่เคยแจ้งให้ทราบไปแล้ว เพราะรัฐบาลเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน อะไรที่ผ่อนคลายได้ ก็จะผ่อนคลายให้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและภาคธุรกิจต่า ง ๆควบคู่กันไปด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นหากเกิดการแพร่ระบาดขึ้นมาอีก ก็จะทำให้ระบบสาธารณสุขของประเทศเสียหาย

“ผมได้เน้นย้ำมาตลอดเวลาในช่วงที่ผ่านมา และได้มีการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประเมินแล้ว ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ถึงแม้ว่าจะมีตัวเลขการแพร่ระบาดเพิ่มสูงขึ้น แต่สถิติการเสียชีวิตก็ลดลง แต่อย่างไรก็ตามผมก็ไม่สบายใจ ไม่อยากให้ใครเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ผมให้ไปดูมาตรการ ทั้งในเรื่องการผ่อนคลายมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวและในเรื่องของการประกอบธุรกิจต่าง ๆภายในประเทศ ก็ขอความร่วมมือ ส่วนรายละเอียดต่าง ๆมอบให้โฆษก ศบค.และโฆษกรัฐบาลเป็นผู้ชี้แจงเพิ่มเติมให้กับสื่อมวลชน “ขอร้องอย่าไปตีความอะไรมากนัก เพราะสถานการณ์มันชัดเจนอยู่แล้ว ขอร้องอย่าไปพูดให้มันคลุมเครือ เพราะจะทำให้การแก้ปัญหายากขึ้นไปอีก”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องของการแก้ปัญหาราคาน้ำมันดีเซล ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้ว ขณะนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเป็นอย่างไร และอีกด้านหนึก็ต้องเตรียมมาตรการรองรับปัญหางแก๊สแอลพีจี หรือ “แก๊สหุงต้ม” อีกด้วย ซึ่งรัฐบาลก็พยายามทำงานอย่างเต็มที่ โดยหาเงินมาเพื่อทำให้ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เดือดร้อนมากนัก แต่เราก็ต้องติดตามว่าต่อไปสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะเป็นอย่างไร รัฐบาลก็พร้อมที่จะแก้ไข แต่เราก็ต้องดูว่าเรามีงบประมาณเพียงพอหรือไม่ สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็อยากทำความเข้าใจกับประชาชน แต่วันนี้มีหลายสถานการณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะฉะนั้นการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ ทั้งเงินกู้ , งบกลาง และเงินของกระทรวงต่าง ๆ ก็มีปัญหาทั้งหมด เพราะทุกคนก็เดือดร้อนทั้งหมด

ช่วงที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีจึงจำเป็นต้องเรียกหน่วยงานมาชี้แจงทำความเข้าใจ เพื่อต้องการทราบข้อมูลข้อเท็จจริง ไม่ใช่ไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ไม่ใช่ แต่ในฐานะที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาของส่วนราชการ ต้องการทราบข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม ขอให้รัฐมนตรีทำงานให้ดีที่สุด แต่ก็ต้องระวังประเด็นข้อกฎหมายในการใช้จ่ายเงินต่าง ๆ หรือ การผลักดันโครงการต่าง ๆที่ออกไป เพราะเป็นงานระดับนโยบาย นายกรัฐมนตรีจึงจำเป็นต้องใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นศูนย์สั่งการ เป็นสถานที่ที่รับฟังข้อมูลต่าง ๆ เพราะนี่คือศูนย์บัญชาการในการแก้ปัญหาทั้งประเทศและเป็นศูนย์ข้อมูลต่าง ๆมากมาย ซึ่งวันนี้ผมก็ได้รับรายงานเข้ามาทุกวัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงเรื่องสินค้าแพงว่า วันนี้ผมก็จะเรียกกระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเรื่องน้ำมันปาล์มจะมีทางออกในรูปแบบไหนได้บ้าง เดิมใช้น้ำมันปาล์มมาผสมในน้ำมันดีเซลต่าง ๆ ต่อมาราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น เมื่อนำน้ำมันปาล์มมาผสมแล้ว ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นตาม ซึ่งในการแก้ไขปัญหาจึงจำเป็นต้องปรับลดบางรายการลงไปบ้าง แต่ผมก็ยังดีใจที่สถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มยังอยู่ในระดับราคาที่ดี ยังไม่ส่งผลกระทบส่งไปถึงภาคประชาชน หรือ เกษตรกรชาวสวนปาล์มมากนัก วันนี้เป็นเวลาที่พวกเราทุกคนควรจะร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาประเทศชาติมากกว่าจะให้ความสำคัญในเรื่องอื่น ๆ

ส่วนราคาสินค้าราคาแพงก็เน้นย้ำกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไปแล้วว่า ขอให้เตรียมมาตรการแก้ไข ไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องหมูแพงอย่างเดียว ยังมีสถานการณ์อื่น ๆที่ตามมาอีก อย่าให้มีการฉวยโอกาส วันนี้ก็ให้ไปสำรวจบรรดาปริมาณเนื้อหมูต่าง ๆ ทั้งที่อยู่ตามฟาร์ม , ห้องเย็น หรือ ตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด

นอกจากนี้รัฐบาลได้ทยอยออกมาตรการมาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย แต่ก็ต้องคำนึงถึงงบประมาณที่มีอยู่ด้วย แต่ก็ต้องเข้าใจการจะทำอะไรก็ตามเพื่อคนจำนวนมาก ก็ต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งก็มีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณอยู่พอสมควร นายกรัฐมนตรีก็ต้องระวังไม่ให้ผิดวิธีการงบประมาณ หรือ วินัยการเงินการคลัง

“วันนี้ผมได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ไปแล้วให้ติดตามทุกเรื่องโดยเฉพาะในช่วงนี้ไปจนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย ขอร้องอย่างเดียวว่าอย่าฉวยโอกาสในช่วงนี้ เพราะประชาชนกำลังเดือดร้อน แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ได้ติดตามสถานการณ์โลก สถานการณ์ในระดับภูมิภาค บางประเทศไม่อยากเอ่ยชื่อ ก็มีการติดเชื้อมากกว่าประเทศไทยมากมาย ประชาชนของประเทศนั้นมีความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากกว่าประเทศไทย และมีปัญหามากมายที่ยังไม่ได้แก้ไข เทียบกับประเทศไทยแล้วที่ผ่านมาแก้ไขปัญหาไปมากพอสมควร โดยรัฐบาลได้จัดมาตรการต่างๆเข้าไปดูแลประชาชนหลายสิบล้านคน” พล.อ.ประยุทธ์

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงเรื่องการเมืองว่า “ผมได้แจ้งให้ทราบไปแล้ว ผมเคารพในกระบวนการของประชาธิปไตย ผมเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีและมีความรับผิดชอบในการบริหารภาพรวม ผมเข้ามาตามกระบวนการของประชาธิปไตยที่กำหนดให้มีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี โดยพรรคการเมืองที่มีคะแนนเสียงมากที่สุดร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล และเสนอชื่อผมขึ้นมา และผ่านการพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) แต่ก็มีหลายคนเอาไปบิดเบือนว่า สว.จะสืบทอดอำนาจให้ผม ถามว่าถ้าพรรคที่จะเสนอชื่อผมเข้ามา ไม่ได้รับคะแนนเสียงมากเพียงพอแล้วจะเสนอชื่อผมเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ ดังนั้น พรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงสูงก็จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีขึ้นไปเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วน สว.ก็คงจะไม่ขัดข้อง ถ้าไม่ใช่คนที่ไม่มีปัญหา ซึ่งผมก็ยอมรับกติกานี้ทุกอย่าง อย่าเอาการเมืองมา พันกันทุกเรื่องเลย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สุดท้ายเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสนใจ คือ เรื่องการประชุมของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผมไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของกรรมการพรรค หรือ หัวหน้าพรรค ผมคิดว่า ทุกคนก็พยามที่จะทำให้สถานการณ์ต่างๆกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคนที่จะมองว่าใครเป็นอย่างไร สำหรับการเลือกตั้งในอนาคตข้างหน้าก็ยังมีอยู่ เพราะฉะนั้นทุกคนก็ต้องช่วยกันติดตามพฤติกรรมของแต่ละคนด้วย ผมพุดไม่ได้ว่าใครดี ใครไม่ดี ซึ่งพฤติกรรมเป็นตัวกำหนดให้ประชาชนได้มีการไตร่ตรอง และตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

“ผมไม่มีความคิดที่จะปรับคณะรัฐมนตรี และยุบสภา เพราะการออกกฎหมายต่าง ๆ ก็ยังไม่เสร็จเรียบร้อย ดังนั้น อย่าเอาทุกอย่างมาตีกันทั้งหมด ผมรักใคร ชอบใคร ผมพูดไม่ได้ หลายอย่างก็ต้องเก็บไว้ในใจ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

แต่ผมต้องขอขอบคุณประชาชนส่วนใหญ่ที่ให้ความเชื่อมั่น เชื่อถือการทำงานของผมในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งผมได้วางรากฐานของประเทศในอนาคตไว้มากพอสมควร ในการทำงานหลายเรื่องที่เป็นปัญหาหมักหมมมานาน ผมก็ต้องมาแก้ นี่คือภาระของผม ซึ่งทำให้นโยบาย หรือ การทำงานใหม่ ๆ ออกมาได้ช้า ซึ่งต้องเห็นใจข้าราชการด้วย เพราะนโยบายที่ผมประกาศออกไป หรือ สั่งการออกไปเป็นรายวันเยอะมาก และผมก็ลงไปในละเอียดทุก ๆเรื่อง ทั้งนี้ ก็เพื่อให้การทำงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ติดขัดตรงไหน อะไรที่นายกรัฐมนตรีจะดูแลช่วยเหลือ หรือ สั่งการได้ นายกรัฐมนตรีก็ไม่เคยว่างเว้นจากการทำงานในลักษณะเช่นนี้…