ThaiPublica > Native Ad > บทบาทกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีดีกว่าที่คิด

บทบาทกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีดีกว่าที่คิด

21 ธันวาคม 2021


ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวนเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่สูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายลง ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจนเริ่มส่งผลกระทบต่อประชาชน และเศรษฐกิจในภาพรวม กลุ่มเคลื่อนไหวที่ใช้ชื่อเป็นตัวแทนภาคประชาชนจะแข็งขันในการออกโรงต้องการให้ยุบกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมองว่าเป็นภาระของประชาชนผู้ใช้น้ำมันที่ต้องถูกเก็บเงินกองทุนและส่งผลทำให้ราคาน้ำมันแพง

แต่การจะสรุปให้ยุบหรือไม่ยุบกองทุนน้ำมันฯ นั้น ดูจะละเลยมุมมองด้านอื่นๆ ไปอย่างมาก จึงอยากนำเสนอข้อมูลอีกด้านเพื่อให้ผู้อ่านได้ตัดสินอนาคตของกองทุนน้ำมันฯ ว่าควรจะเป็นเช่นไร

อดีตก่อนจะมาเป็นกองทุนน้ำมันฯ ตั้งแต่ปี 2516 เกิดวิกฤตการณ์น้ำมัน คณะรัฐมนตรีขณะนั้นได้ออกพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 ขึ้น ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีออกคำสั่งเพื่อกำหนดมาตรการแก้ไขและป้องกันการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงให้ทันต่อเหตุการณ์ ต่อมาปี 2522 กลุ่มประเทศผู้ส่งออกปิโตรเลียม หรือโอเปก ซึ่งมีอิทธิพลในฐานะผู้ผลิตน้ำมันและกำหนดราคาน้ำมันโลกได้ประกาศขึ้นราคาน้ำมันดิบ 4 ครั้ง รัฐบาลจึงได้จัดตั้งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้น เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกในประเทศไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ

หลักการสำคัญของกองทุนน้ำมันฯ มีขึ้นเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไม่ให้เกิดความผันผวน อย่างไรก็ดี กองทุนน้ำมันฯ ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลทุกยุค ทุกสมัย ในการลดผลกระทบต่อประชาชนในยามที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกปรับสูงขึ้น โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ มาชดเชยราคาไว้ในช่วงระยะเวลานั้นๆ เมื่อราคาตลาดโลกลดลงที่เดิม เงินกองทุนที่เคยชดเชยไว้กลับคืนมาเป็นทุนไว้รับมือกับภาวะราคาน้ำมันแพงในรอบถัดๆ ไป

ช่วงกว่า 40 ปีที่ผ่านมา กองทุนน้ำมันฯ ได้ขยายบทบาทไปสู่การอุดหนุนราคาเชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ การส่งเสริมการใช้เอทานอล (ที่ผลิตจากอ้อย มันสำปะหลัง) ผสมในน้ำมันเบนซิน หรือเรียกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอลในปัจจุบัน และการส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซลที่ผลิตจากปาล์มน้ำมัน มาผสมในน้ำมันดีเซล เป็น B7 B10 และ B20 โดยใช้กลไกของกองทุนน้ำมันฯ ไปชดเชยหรือเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมเชื้อเพลิงชีวภาพสามารถแข่งขันได้ จูงใจให้คนหันมาใช้มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ ทำให้บทบาทของกองทุนน้ำมันฯ มีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการลดใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล รวมถึงได้ก้าวเข้าไปเกี่ยวข้องกับการสร้างเสถียรภาพให้กับราคาพืชผลเกษตรด้านพลังงานอีกด้วย

นอกจากนี้ กองทุนน้ำมันฯ ยังถูกขยายต่อไปถึงการเข้าไปดูแลชดเชยราคาก๊าซหุงต้ม หรือ LPG ที่เป็นเชื้อเพลิงที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันตรึงราคาก๊าซหุงต้มไว้ไม่เกิน 363 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม กระทั่งการระบาดของโควิด-19 ก็ได้ตรึงไว้ที่ 318 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม ตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบันคิดเป็นมูลค่าที่ใช้ตรึงราคาก๊าซหุงต้มไปแล้วกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งหากไม่เข้าไปพยุงราคาก๊าซที่ใช้ในครัวเรือนซึ่งแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็จะกระทบเป็นวงกว้างมากกว่าน้ำมันที่แพงขึ้นเสียอีก
จะเห็นได้ว่า บทบาทของกองทุนน้ำมันฯ ได้เข้ามามีส่วนช่วยลดผลกระทบในหลายๆ ภาคส่วน แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า จะต้องเป็นการช่วยพยุงราคาในระยะเวลาสั้นเท่านั้น ไม่ได้ต่อเนื่องยาวนานเหมือนกรณี LPG เพราะนอกจากจะทำให้เกิดความสูญเปล่าทางเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นการอุดหนุนข้ามประเภทคือเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันไปอุดหนุนให้กับผู้ใช้ก๊าซหุงต้มเกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้ใช้น้ำมัน

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ มีกฎหมายพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 เข้ามารองรับ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2562 โดยกำหนดวัตถุประสงค์หลักไว้ประการเดียวคือ เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น และยังกำกับวินัยทางการเงินไว้ว่า จำนวนเงินบริหารกองทุนน้ำมันฯ ต้องมีจำนวนไม่เกิน 40,000 ล้านบาท และสามารถกู้ยืมเงินได้ไม่เกิน 20,000 ล้านบาท

พร้อมกำหนดให้มีการยกเลิกการลดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยจะมีแผนวิกฤติด้านน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามามีส่วนช่วยให้กองทุนน้ำมันฯ กลับไปสู่บทบาทหลักที่มีไว้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันกรณีเกิดวิกฤติด้านน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหลักอย่างแท้จริง

โดยสรุปมีความจำเป็นหรือไม่ที่ยังต้องมีกองทุนน้ำมันฯ คงต้องตอบโจทย์ให้ได้ก่อนว่าจะมีเครื่องมืออะไรมาแทนที่ หากราคาน้ำมันตลาดโลกสูงขึ้นจนวิกฤติจะนำเงินที่ไหนมาพยุงราคาน้ำมันในประเทศ และจะแก้ปัญหาพืชผลเกษตรด้านพลังงาน อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ที่เผชิญภาวะราคาตกต่ำอย่างไร