ThaiPublica > สู่อาเซียน > ASEAN Roundup เวียดนามเปิดตัวรถไฟขนส่งสินค้าเข้ายุโรปขบวนแรก

ASEAN Roundup เวียดนามเปิดตัวรถไฟขนส่งสินค้าเข้ายุโรปขบวนแรก

25 กรกฎาคม 2021


ASEAN Roundup ประจำวันที่ 18-24 กรกฎาคม 2564

  • เวียดนามเปิดตัวรถไฟขนส่งสินค้าเข้ายุโรปขบวนแรก
  • ค่าเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมเวียดนามสูงขึ้นในQ2
  • เวียดนามปรับเกณฑ์โฆษณากูเกิล/เฟซบุ๊กเข้มขึ้น
  • คลังเวียดนามเสนอเก็บภาษีส่งออกทองคำ
  • กัมพูชาชู 7 จังหวัดท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
  • ลาวเร่งส่งเสริมผลผลิตทางการเกษตร
  • เวียดนามเปิดตัวรถไฟขนส่งสินค้าเวียดนาม-ยุโรปขบวนแรก

    ที่มาภาพ: https://e.vnexpress.net/news/business/economy/vietnam-europe-freight-train-launched-4328117.html

    รถไฟบรรทุกสินค้าจากฮานอยไปเบลเยียม ได้ออกเดินรถเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 โดยบรรทุกเสื้อผ้า สิ่งทอ และรองเท้าหนัง

    การรถไฟเวียดนามเปิดเผยว่า เส้นทางใหม่นี้เป็นการเดินรถไฟระหว่างสถานีรถไฟเยน เวียน ในฮานอยและเมืองลีแยฌของเบลเยียม ซึ่งคอนเทนเนอร์จะถูกถ่ายลงที่นี้และขนส่งโดยรถบรรทุกไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้ายคือ เมืองรอตเตอร์ดัม ของเนเธอร์แลนด์

    รถไฟแต่ละขบวนที่มีตู้สินค้าขนาด 40 ฟุตจำนวน 23 ตู้ จะเดินไปยังเมืองเจิ้งโจวของจีน และเชื่อมต่อกับรถไฟเอเชีย-ยุโรปที่มุ่งหน้าสู่เบลเยียมผ่านรัสเซียและประเทศในเอเชียกลาง การเดินทางจะใช้เวลา 25-27 วัน

    Transportation & Trade Joint Stock Company (Ratraco) ได้ร่วมกับบริษัทขนส่งในประเทศต่างๆ เพื่อให้บริการด้านโลจิสติกส์แก่ลูกค้าโดยใช้รถไฟขบวนใหม่ในการขนส่งสินค้า

    Ratraco และพันธมิตรในยุโรปวางแผนที่จะให้บริการรถไฟ 8 ขบวนต่อเดือน

    เหงียน ฮวง ทันห์ ผู้บริหาร Ratraco กล่าวว่า การเดินรถไฟที่ประสบความสำเร็จจากเวียดนามไปยังเบลเยียม จะเป็นการ เปิดเส้นทางการขนส่งทางรถไฟที่ลึกเข้าไปในยุโรปนอกเหนือจากเส้นทางที่มีอยู่ไปยังเยอรมนีและโปแลนด์

    รถไฟขบวนที่สองจะออกเดินทางในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้และขบวนต่อไปคือวันที่ 3 สิงหาคม

    การขนส่งทางทะเลที่ประสบปัญหาในการช่วงการะบาดของโควิด ส่งผลให้ผู้ค้าหันมาขนส่งสินค้าด้วยทางรถไฟมากขึ้นจากเวียดนามไปจีนและเข้ายุโรป เนื่องจากมีโครงข่ายเชื่อมที่ครอบคลุมและถึงสถานีปลายทางตรงเวลารวมทั้งค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล การขนส่งทางรางจึงขยายตัวขึ้นมาก

    ค่าเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมเวียดนามสูงขึ้นในQ2

    ที่มาภาพ: https://e.vnexpress.net/news/business/industries/industrial-land-rentals-rise-4329148.html

    รายงานของคอลลิเออร์ส เวียดนาม ผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยว่า ในโฮ จิมินห์ซิตี้ ค่าเช่าพื้นที่อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่สอง แม้มีการระบาดของโควิด -19 รอบใหม่

    ค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 175 ดอลลาร์ต่อตารางเมตรในไตรมาสที่ 2 สูงที่สุดในประเทศ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า บริษัทระบุในรายงานอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมในไตรมาสที่สอง แต่การทำธุรกรรมชะลอตัวตั้งแต่เดือนเมษายนเมื่อโควิดกลับมาระบาดระลอกใหม่
    อัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ยของนิคมอุตสาหกรรมอยู่ที่ 85%

    ในเขตภาคเหนือ ฮานอยนำอันดับหนึ่งด้วยค่าเช่า 140 ดอลลาร์ อัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ 90%

    นักลงทุนจำนวนมากกำลังมองหาพื้นที่อุตสาหกรรมในจังหวัด ฮึงเอียน และหายเซือง ทางภาคเหนือ เพื่อขยายการผลิต

    การเช่าพื้นที่อุตสาหกรรมและโรงงานสำเร็จรูปพร้อมใช้ มีแนวโน้มว่าจะชะงัก เนื่องจากการระบาดอย่างรวดเร็วของโรคระบาดและการแพร่กระจายเข้าไปในนิคมอุตสาหกรรม

    รายงานอสังหาริมทรัพย์อุตสาหกรรมระดับภูมิภาคล่าสุดของ โจนส์ แลง ลาซาลส์ เวียดนาม ค่าเช่าเฉลี่ยในโฮ จิมินห์ ซิตี้ และ 4 จังหวัดทางใต้ทั้ง บิ่ญเซือง, ด่งนาย ล็องอานและ บ่าเสียะ-หวุงเต่า อยู่ที่ 113 ดอลลาร์ต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้น 7.1%

    ค่าเชาเฉลี่ยสำหรับภาคเหนืออยู่ที่ 107 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.9% แต่ชะลอตัวลงจากไตรมาสแรก

    เวียดนามปรับเกณฑ์โฆษณากูเกิล/เฟซบุ๊กเข้มขึ้น

    ที่มาภาพ: https://e.vnexpress.net/news/business/economy/vietnam-tightens-google-facebook-ad-regulations-4328758.html

    เวียดนามได้ออกพระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่เพื่อปรับกฎระเบียบโฆษณาข้ามพรมแดนสำหรับบริษัทต่างชาติ เช่น Google และ Facebook ให้ชัดเจนและเข้มงวดขึ้น

    กระทรวงข้อมูลและการสื่อสารจะทำหน้าที่ดูแลในการควบคุมโฆษณาแต่เพียงผู้เดียว แทนที่จะแบ่งความรับผิดชอบกับกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวเช่นเดิม

    แพลตฟอร์มที่แสดงโฆษณาจะต้องให้รายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจของตนเองต่อกระทรวง 15 วันก่อนดำเนินการ โดยให้รายละเอียดรวมถึงที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์ในเวียดนาม (ถ้ามี) และผู้ติดต่อ

    แพลตฟอร์มต่างประเทศต้องมีการป้องกันและลบเนื้อหาที่ละเมิดกฎหมายตามที่กระทรวงการสื่อสารฯหรือหน่วยงานที่มีอำนาจอื่นกำหนด

    แพลตฟอร์มเหล่านี้ยังต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือบุคคลที่ดำเนินการเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย กระทรวงการสื่อสารหรือหน่วยงานที่มีอำนาจอื่น ๆ จะปิดกั้นโฆษณาที่ผิดกฎหมายเหล่านี้หากแพลตฟอร์มไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง

    เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นายเลอ ฉวง ทู โด รองหัวหน้าสำนักงานกระจายเสียงและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์สังกัดกระทรวงกล่าวว่า พระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่จะส่งผลให้ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและบริษัทสื่อ มีข้อได้เปรียบเพิ่มขึ้น

    คลังเวียดนามเสนอเก็บภาษีส่งออกทองคำ

    ที่มาภาพ: https://en.vietnamplus.vn/mof-proposes-to-impose-tariff-on-exported-gold/204909.vnp

    เมื่อเร็วนี้กระทรวงการคลังเสนอให้ ขึ้นภาษีส่งออกผลิตภัณฑ์ทองคำที่มีความบริสุทธิ์ไม่ถึง 95% เป็น 2% จาก 0%

    ข้อเสนออยู่ในร่างพระราชกฤษฎีกาแก้ไขและเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาที่ 122/2016/ND-CP ว่าด้วยภาษีส่งออก สิทธิพิเศษทางศุลกากร รายการสินค้าและภาษีอัตราคงที่ ภาษีแบบผสม และภาษีนำเข้านอกโควตา

    กฎระเบียบปัจจุบัน ว่าด้วยการค้า นำเข้า และส่งออกทองคำ มีอัตราภาษีส่งออก2 อัตราคือ 0% และ 2% สำหรับทองคำ เครื่องประดับทองคำ และงานตัวเรือนที่มีความบริสุทธิ์อย่างน้อย 8 กะรัต

    กฎนี้ยังห้ามบริษัทส่งออกทองคำที่ยังไม่ผ่านกระบวนการ และกำหนดให้เพียงงานตัวเรือนและเครื่องประดับทองที่ต้องมีใบอนุญาตการจดทะเบียนธุรกิจ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีปรากฏการณ์ที่ผู้ประกอบการส่งออกทองคำ สำแดงรายการงานตัวเรือนทองคำที่มีความบริสุทธิ์น้อยกว่า 95% และสำแดงรหัสศุลกากรที่มีอัตราภาษี 0%

    เนื่องจากฐานภาษีสำหรับการส่งออกทองคำยังคงเป็นไปตามที่องค์กรสำแดง หน่วยงานศุลกากรจึงไม่มีฐานข้อมูลมากพอสำหรับการตรวจสอบและตรวจสอบ ในขณะเดียวกัน บริษัทที่ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพทองคำก่อนส่งออกทั้งหมด สำแดงว่าทองคำมีความบริสุทธิ์ต่ำกว่า 95% และการสอบทานอีกครั้งจากเอกสารของคู่ค้าต่างประเทศก็แสดงผลเช่นเดียวกัน ทำให้เสี่ยงต่อการสูญเสียรายได้จากภาษี

    กระทรวงการคลังกล่าวว่า ตลาดทองคำโลกและตลาดทองคำในประเทศมีความผันผวนอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ และโดยเฉพาะความซับซ้อนของ การระบาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ การส่งออกทองคำพุ่งสูงขึ้น ข้อมูลที่รวบรวมโดยกรมศุลกากรเปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มูลค่าการส่งออกทองคำสูงถึง 380 ล้านดอลลาร์

    ในปี 2020 การส่งออกมีมูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 600 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับปี 2019 และสูงกว่า ปี 2018 ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสินค้าที่ทำจากทองคำที่มีปริมาณทองคำน้อยกว่า 95% ภายใต้พิกัดศุลกากร 7114.19.00.90 มีสัดส่วนสูงประมาณ 2.1 พันล้านดอลลาร์

    ในปีที่แล้ว มีผู้ประกอบการ 469 รายที่ส่งออกและนำเข้าผลิตภัณฑ์ทองคำ รวมทั้งไข่มุก พลอยที่มีมูลค่าสูงและพลอดยที่มีมูลค่ารองลงมา และผลิตภัณฑ์ เครื่องประดับที่ทำจากวัสดุอื่นๆ และเหรียญโลหะ

    กัมพูชาชู 7 จังหวัดท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

    ที่มาภาพ: https://www.khmertimeskh.com/50761671/eco-tourism-needs-more-guidance-says-world-bank/

    รัฐบาลได้จัดตั้งคณะทำงานที่มีตัวแทนจากหลายกระทรวงขึ้นเพื่อคัดเลือก 7 จังหวัดที่มีศักยภาพเพื่อเข้าโครงการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืนของประเทศ
    กระทรวงสิ่งแวดล้อมและกระทรวงการพัฒนาชนบทร่วมกันปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาที่ยั่งยืนในกัมปง สปือ เกาะกง กำปงชนัง โพธิสัตว์ พระตะบอง เสียมเรียบ และกำปงธม

    พื้นที่ที่จะรวมอยู่ในแผน ได้แก่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขาพนมอาออรัล อุทยานแห่งชาติภูเขากระวานตอนกลางและตอนใต้ เขตสัตว์ป่าตาไท ทางเดินอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพบนภูเขากระวาน และพื้นที่เอนกประสงค์โตนเลสาบ

    โครงการนี้จะรวมถึงการติดตั้งหลักชายแดน การก่อสร้างสถานีพิทักษ์อุทยาน และการเปิดศูนย์ข้อมูล 3 แห่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงความเป็นอยู่ของชาวบ้านและส่งเสริมความต้องการผลิตภัณฑ์จากป่าไม้

    รัฐบาลกำลังดำเนินการโครงการร่วมกับบริษัทเอกชน Emerging 360

    นายเสา โสภาพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า การเตรียมการขยายและการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนแผนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จังหวัดเป้าหมายจะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ มากขึ้นซึ่งจะช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมและเพิ่มรายได้ของชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย

    โครงการนี้จะดำเนินการจนถึงปี 2568 โดยได้รับการสนับสนุนจากธนาคารโลก

    ลาวเร่งส่งเสริมผลผลิตทางการเกษตร

    ที่มาภาพ: https://www.phnompenhpost.com/business/laos-accelerates-agri-output-promotion

    กระทรวงเกษตรและป่าไม้ของลาวได้ประกาศเมื่อเร็วๆนี้ว่า ได้เริ่มเร่งดำเนินการตามแผนซึ่งเน้นที่การส่งเสริมการผลิตและบริการทางการเกษตรเพื่อทดแทนการนำเข้า
    การปรับปรุงการผลิตทางการเกษตรจะช่วยส่งเสริมการบรรเทาความยากจน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านการเกษตร ป่าไม้ และการพัฒนาชนบทอย่างมีคุณภาพ เพื่อช่วยขับเคลื่อนองค์กรการผลิตให้มีการพัฒนาภายในองค์กร

    การส่งเสริมการผลิตในภาคการเกษตรเกิดขึ้นจากการหารือในวันที่ 16 กรกฎาคมของหน่วยงานต่างๆ ในภาคส่วนระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะเวลา 5 ปี ฉบับที่ 9

    ความคิดริเริ่มนี้จะมุ่งเป้าไปที่วิธีการผลิตที่ทันสมัยในยุทธศาสตร์การพัฒนาการเกษตรของประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล เพื่อช่วยผลักดันวาระนโยบายด้านความมั่นคงด้านอาหารและการลดความยากจนในพื้นที่ชนบท

    ปัจจุบัน รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกกฎหมายและข้อบังคับในการจัดการการเกษตรและการป่าไม้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน

    กระทรวงฯมีเป้าหมายที่จะปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์เพิ่มเติม โดยเน้นไปที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

    ในการจัดการกับความท้าทายในการทำฟาร์ม ภาครัฐแนะนำให้ใช้เทคโนโลยีใหม่และวิธีการที่ทันสมัยในการปรับปรุงคุณภาพของผลผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด

    การลดขั้นตอนในการผลิตสินค้าเกษตรจะช่วยให้ผู้ประกอบการเพิ่มผลผลิตเพื่อการส่งออก

    ในปีนี้ กระทรวงฯ ได้สรุปยุทธศาสตร์การขยายการผลิตข้าวเปลือกประจำปีในปริมาณกว่า 4.4 ล้านตัน กาแฟสูงถึง 160,000 ตัน ข้าวโพดหวาน 1 ล้านตัน มันสำปะหลัง 2.28 ล้านตัน การผลิตเนื้อสัตว์ 199,210 ตัน ไข่ 43,770 ตัน และปลา 215,000 ตัน

    กระทรวงให้คำมั่นที่จะดำเนินการวิจัยเพิ่มเติมและจัดหาแหล่งเงินทุนจากในประเทศและต่างประเทศ และทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาภาคส่วน

    ตลาดส่งออกหลักของลาว ได้แก่ จีน ไทย เวียดนาม และสหภาพยุโรป รัฐบาลคาดการณ์ว่าภาคการเกษตรจะมีอัตราการเติบโต 3.4% ต่อปีภายในปี 2568 หากไม่มีเหตุการณ์สภาพอากาศเลวร้าย

    ในเดือนกันยายน สถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติคาดว่า ภาคส่วนนี้จะเติบโตในอัตราเพียง 0.9-1.7% ในปี 2563 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 2.8-3% ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาภาคการเกษตรขยายตัว 3% ต่อปี

    ข้อมูลของธนาคารโลกระบุว่า ในปีที่แล้ว 61.67%ของประชากรลาวประกอบอาชีพในภาคเกษตร ลดลงจาก 62.42% ในปี 2562