ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 24-30 เม.ย. 2564
ราชทัณฑ์ส่งเพนกวินเข้า รพ. ชี้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองไม่ได้
วันที่ 30 เม.ย. 2564 กรมราชทัณฑ์ตัดสินใจนำตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” นักกิจกรรมทางการเมือง แกนนำกลุ่ม “ราษฎร” เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ
นายพริษฐ์ตกเป็นจำเลยตามข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 112 (ม.112 หรือกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ) และคดีอื่นๆ อันมาจากการชุมนุมทางการเมือง และถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีมาตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. 2564 ก่อนจะเริ่มอดอาหารมาตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2564 เพื่อเป็นการประท้วงต่อกระบวนการยุติธรรมที่ตัวเขาเห็นว่าไม่เป็นธรรม
แม้ที่ผ่านมาจะไม่มีข้อบ่งชี้หรือมีการวินิจฉัยทางการแพทย์ว่าพริษฐ์อยู่ในภาวะวิกฤติ แต่ในที่สุด ทางกรมราชทัณฑ์ก็จำเป็นนำตัวเขาเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ เพราะนายพริษฐ์อดอาหารเป็นเวลานาน จนร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ อีกทั้งในวันดังกล่าวเขาเริ่มดื่มน้ำเกลือแร่ได้น้อยลง และมีอาการปวดบริเวณที่ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำจึงต้องถอดสายน้ำเกลือไว้ก่อน ซึ่งทั้งหมดนั้นทำให้แพทย์และพยาบาลมีความกังวลว่าอาจทำให้เกิดอาการช็อก และควรได้รับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ดี แม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด และตลอดเวลาที่ผ่านมามีความพยายามขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวแก่นายพริษฐ์มาถึง 9 ครั้ง แต่ศาลก็ไม่เคยอนุมัติแม้แต่ครั้งเดียว และในการไม่ได้รับอนุมัติให้มีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวในครั้งล่าสุด (29 เม.ย. 2564) ก็ทำให้นางสุรีรัตน์ ชิวารักษ์ ผู้เป็นมารดาของนายพริษฐ์ ตัดสินใจโกนศีรษะประท้วงที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
การไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนักกิจกรรมโดยไม่มีเหตุอันชอบธรรม ตอกย้ำว่าทางการไทยไม่เคารพสิทธิในการได้รับพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม อีกทั้งยังขัดต่อหลักการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ การปล่อยชั่วคราวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญาทุกคนตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายไทย
ปิยนุช โคตรสาร
ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเเนล ประเทศไทย
ที่มา: เว็บไซต์บีบีซีไทย
อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — ราชทัณฑ์ส่ง “เพนกวิน” รักษา รพ.รามาฯ อดอาหารนาน ร่างกายฟื้นฟูตัวเองไม่ได้
เว็บไซต์บีบีซีไทย — ราษฎร: ศาลไม่ให้ประกันตัว “เพนกวิน” เป็นครั้งที่ 9 ราชทัณฑ์แจงอาการล่าสุดหลังอดอาหาร 46 วัน
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — “ราชทัณฑ์” แจงยิบ หามเพนกวินส่งโรงพยาบาล ยืนยันไม่พบถ่ายเป็นเลือด
“น้าค่อม” ตลกชื่อดัง เสียชีวิตเพราะโควิดแล้ว
วันที่ 30 เม.ย. 2564 นายอาคม ปรีดากุล ดาวตลกชื่อดังที่รูจักกันในนามค่อม ชวนชื่น หรือ “น้าค่อม” ได้เสียชีวิตลงหลังจากเข้ารับรักษาตัวจากการจิดโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. 2564
นายอาคมอยู่ในภาวะโคม่าตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. 2564 กล่าวคือ อวัยวะหลายอย่างล้มเหลว รวมถึงชีพจนและความดัน อีกทั้งร่างกายก็ไม่ตอบสนองต่อยาที่ได้รับ
นายอาคมแสดงตลกมานานกว่า 20 ปี ทั้งยังมีผลงานการแสดงภาพยนตร์จำนวนมาก เขาเป็นที่จดจำด้วยคำด่าประจำตัวอย่าง “ไอ้สัตว์” (ไอ่ซัส) ที่สร้างเสียงหัวเราะให้ใครต่อใคร และกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ที่ไม่ว่านายอาคมจะไปไหนคนก็จะเรียกร้องให้ตวาดคำนั้นออกมา เอกลักษณ์ประการนี้ของอาคมเป็นที่ประทับใจจนกลายเป็นความใฝ่ฝันของหลายคนว่า อยากโดนเขาด่าเช่นนั้นใส่หน้าสักครั้ง
ที่มา: ช่องยูทูบ Ch3ThailandNews — ‘น้าค่อม’ อัปเดตอาการโควิด ฝากวลีเด็ดถึงแฟนๆ ทำ ‘หนุ่ม กรรชัย’ ขำลั่น
หลังจากการเสียชีวิตในช่วงเช้าของวันดังกล่าง ร่างของอาคมก็ได้รับการทำพิธีฌาปนกิจ ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหารบางเขน ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน
อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์มติชนออนไลน์ — สุดยื้อ! ตลกคนดัง ‘น้าค่อม’ เสียชีวิตแล้ว หลังเข้ารักษาตัวด้วยโรคโควิด
เว็บไซต์ไทยโพสต์ — แพทย์เคลียร์สาเหตุ’น้าค่อม’ทรุดเร็วจนเสียชีวิต
เว็บไซต์มติชนออนไลน์ — ‘อนุทิน’ เสียใจ ‘น้าค่อม’ เสียชีวิต ยันแพทย์เป็นธรรมกับผู้ป่วยทุกคน ชี้ สธ.เร่งกู้วิกฤตตกค้าง-ขาดเตียง
ไม่ล็อกดาวน์ ไม่เคอร์ฟิว 6 จ.ควบคุมสูงสุด ห้ามบริโภคในร้านอาหาร
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม เป็นประธานว่า ที่ประชุมศบค.มีมติ
1. ปรับระดับการกักตัวให้กลับมากักตัว 14 วัน เหมือนเดิมในทุกประเภท อาทิ โดยไม่อนุญาตให้ออกจากห้องพักได้ ยกเว้นจะทำการตรวจหาเชื้อ หรือรักษาพยาบาล
2. ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยทั่วราชอาณาจักร พื้นที่ควบคุมสูงสุด เข้มงวดสูงสุด สีแดงเข้ม จำนวน 6 จังหวัด กทม. ชลบุรี นนทบุรี เชียงใหม่ ปทุมธานี และสมุทรปราการ
โดยมีข้อกำหนดดังนี้ 1. ห้ามจัดกิจกรรมที่รวมกลุ่มกันเกิน 20 คน 2.ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้จำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในลักษณะนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น โดยงดการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม และแอลกอฮอล์ในร้าน และเปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 21.00 น.
ส่วนการขอความร่วมมืองดการเดินทางออกนอกพื้นที่โดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดโรค ซึ่งขอความร่วมมือ ไม่ได้ถือเป็นเคอร์ฟิว ในเวลา 23.00-04.00 น.
ที่มา
เฟซบุ๊กแฟนเพจ กรุงเทพธุรกิจ — เช็คด่วน! 6 จว.ศบค.ห้ามนั่งรับประทานอาหารที่ร้าน ไม่ประกาศเคอร์ฟิว แต่ขอความร่วมมือห้ามออกนอกพื้นที่ 23.00-04.00 น. มีผล 1 พ.ค.นี้
ทบ. แจงซื้ออาวุธใช้งบให้คุ้มค่า-ช่วยประชาชน-ความมั่นคง
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงถึงกรณีที่ทางกองทัพบกยังคงมีการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในช่วงที่ประเทศกำลังประสบกับภาวะวิกฤติเนื่องจากการแพร่ระบอดระลอกล่าสุดของโควิด-19 โดยระบุว่า ภาพรวมเจตนาการใช้งบประมาณของกองทัพบก คือ จะต้องใช้งบประมาณตามที่ได้รับการจัดสรรให้ดีที่สุด โดยล่าสุด พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับทุกหน่วยทหารว่างบประมาณอะไรที่สามารถปรับมาใช้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ก็ขอให้พิจารณา แต่อะไรที่เป็นเรื่องของการดำรงความพร้อมทางด้านความมั่นคงของประเทศ และมีความจำเป็น รวมถึงผ่านการเห็นชอบในระดับสายการบังคับบัญชาและรัฐบาลแล้ว คงจำเป็นต้องเดินหน้า ภายใต้ข้อผูกพันต่างๆ ที่มี ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การเสริมสร้างความพร้อมรบ ความแข็งแกร่ง และศักยภาพความมั่นคงของประเทศในภาพรวม แต่ยังไม่ขอลงในรายละเอียดในแต่ละโครงการ
และเมื่อถามว่าจะมีการทบทวนหรือไม่ รองโฆษกกองทัพบกตอบว่า การบริหารงบประมาณของกองทัพบก มีการอนุมัติ และพิจารณาเห็นชอบจากหลายส่วนแล้ว เจตนารมณ์ของกองทัพบกนอกจากจะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ตรงกับความต้องการ เสริมสร้างความแข็งแกร่งงานความมั่นคง อะไรที่สามารถผ่องถ่ายไปช่วยเหลือประชาชน หรือปรับไปเพื่อดูแลสถานการณ์โควิด ทางกองทัพบกก็ดำเนินการอยู่ แต่ในรายละเอียดไม่ได้มีการตีแผ่ให้ส่วนต่างๆ ได้รับทราบ จึงขอให้มั่นใจว่ากองทัพบกจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเรื่องโควิดอย่างเต็มที่
อ่านเพิ่มเติม
ข่าวสดออนไลน์ — ทบ.แจงแล้ว เหตุจำเป็นต้องซื้อยุทโธปกรณ์ ท่ามกลางสถานการณ์ ‘โควิด’
สหภาพยุโรปฟ้องแอสตร้าเซนเนก้าส่งวัคซีนไม่ได้ตามสัญญา
สหภาพยุโรปได้ยื่นฟ้องบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ด้วยเหตุที่ทางบริษัทไม่อาจรักษาสัญญาว่าจะ “พยายามอย่างดีที่สุดอย่างสมเหตุสมผล” ที่จะจัดส่งวัคซีน 180 ล้านโดสให้สหภาพยุโรปในไตรมาสแรกของปีนี้ (พ.ศ. 2564) จากจำนวนทั้งหมด 300 ล้านโดสที่จะจัดส่งระหว่าง ธ.ค. ถึง มิ.ย.
การฟ้องร้องดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากทางแอสตร้าเซนเนก้าแถลงการณ์เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2564 ว่าตั้งเป้าจะจัดส่งแค่ 1 ใน 3 ของจำนวนทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย. ซึ่งในจำนวนนั้น ราว 70 ล้านโดสจะถูกจัดส่งในไตรมาสที่ 2
เจ้าหน้าที่ทางการสหภาพยุโรปบอกว่าจุดประสงค์ของการฟ้องร้องก็เพื่อให้บริษัทจัดส่งวัคซีนให้มากกว่าที่บอกไว้ และเป็นการส่งสารไปยังประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท
อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์บีบีซีไทย — โควิด-19 : สหภาพยุโรปยื่นฟ้องแอสตร้าเซนเนก้าที่จัดส่งวัคซีนไม่ได้ตามสัญญา