ThaiPublica > เกาะกระแส > หนังสือ A Promised Land ของบารัค โอบามา บทสุดท้ายจบลงที่ ปฏิบัติการสังหารบินลาเดน

หนังสือ A Promised Land ของบารัค โอบามา บทสุดท้ายจบลงที่ ปฏิบัติการสังหารบินลาเดน

25 พฤศจิกายน 2020


รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ภาพจากปกหนังสือ A Promised Land

เว็บไซต์ theguardian.com รายงานว่า หนังสือบันทึกความทรงจำของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ชื่อ A Promised Land ในวันแรกที่ออกจำหน่ายเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน สามารถขายในสหรัฐฯและแคนาดาได้เกือบ 890,000 เล่ม ก่อนหน้านี้ หนังสือของมิเชลล์ โอบามา อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งชื่อ Becoming ที่ออกวางตลาดในปี 2018 ขายวันแรกได้ 725,000 เล่ม

The New York Times เขียนถึงหนังสือเล่มนี้ว่า ความกล้าหาญอย่างหนึ่งของหนังสือคือภาพหน้าปก เป็นรูปของโอบามาที่สะท้อนท่าทีที่เชื่อมั่น ตื่นเต้น และมีชีวิตชีวา จากชัยชนะของการเลือกตั้งครั้งแรกในปี 2009 โอบามาบอกว่า ต้องการจะเขียนบันทึกความทรงจำประมาณ 500 หน้า แต่ A Promised Land หนากว่า 700 หน้า และเล่มนี้เป็นเล่มที่ 1 ในจำนวน 2 เล่ม ที่โอบามาจะเขียนเป็นบันทึกความทรงจำขึ้นมา ในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ

A Promised Land พาคนอ่านไปร่วมเผชิญปัญหาที่โอบามา ได้รับมรดกตกทอดมา อย่างเช่น วิกฤติเศรษฐกิจปี 2008 การต่อสู้เรื่องระบบประกันสุขภาพ ที่ต่อมาเรียกกันว่า “โอบามาแคร์” การขบคิดของโอบามาต่อบทบาทของสหรัฐฯในโลก และบทสุดท้ายจบลงที่ปฏิบัติการทางทหารเพื่อสังหารบินลาเดน โดยที่โอบามาตัดสินใจด้วยตัวเอง ส่วนโจ ไบเดน รองประธานาธิบดีในสมัยนั้น ไม่เห็นด้วยกับแผนปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้

ตามล่าบินลาเดนสำคัญอันดับแรก

โอบามาเขียนไว้ในบทสุดท้ายของ A Promised Land ว่า นับจากธันวาคม 2001 เป็นต้นมา คือสามเดือนหลังจากที่ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ถูกโจมตี โอซามา บินลาเดน หลบซ่อนไปอยู่ที่ไหน กลายเป็นเรื่องลี้ลับ บินลาเดนสามารถหลบหลีการตามล่าของกองกำลังสหรัฐฯในแอฟกานิสถาน โดยออกจากกองบัญชาการของเขา ที่อยู่ตามชายแดนแอฟกานิสถานกับปากีสถาน ไปได้อย่างหวุดหวิด

โอบามากล่าวว่า เดือนพฤษภาคม 2009 เขาได้กล่าวกับที่ปรึกษาและนาย Leon Panetta ผู้อำนวยการ CIA ว่า ต้องการให้การตามลาบินลาเดน เป็นเรื่องที่สำคัญอันดับแรก โดยในทุกๆเดือน จะต้องการรายงานความคืบหน้าในเรื่องนี้ และได้ออกคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อให้ทุกหน่วยงานมีแนวทางเดียวกัน

โอบามาอธิบายว่า มีเหตุผลหลายอย่างในเรื่อง การให้ความสำคัญกับบินลาเดน การที่บินลาเดนยังหลบหนีได้ ได้สร้างความเจ็บปวดแก่ครอบครัวของญาติที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 9/11 การกำจัดบินลาเดนลงได้ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะปรับยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯในการต่อต้านการก่อการร้าย

โอบามากล่าวว่า ที่ผ่านมา สหรัฐฯ “ติดกับดักทางยุทธศาสตร์” เพราะไม่ได้ให้ความสนใจกับผู้ก่อการร้ายกลุ่มน้อย ที่เป็นคนวางแผนและปฏิบัติการการโจมตี 9/11 แต่กลับไปต่อสู้กับภัยคุกคาม ที่เรียกว่า “สงครามกับการก่อการร้าย” ที่ครอบคลุมในทุกมิติ และก็ไม่มีกรอบเวลาการสิ้นสุด นโยบายนี้ไปช่วยยกระดับชื่อเสียงให้กับกลุ่มอัลกออิดะห์ สร้างความชอบธรรมให้กับการบุกอิรัก และสร้างความแปลกแยกสหรัฐฯกับโลกมุสลิม

ค้นพบหลักฐานแหล่งซ่อนตัว

ในเดือนกันยายน 2010 หนึ่งวันก่อนครบรอบ 9 ปีของเหตุการณ์ 9/11 Leon Panetta ผู้อำนวยการ CIA และ Mike Morell รองผู้อำนวยการ CIA ขอเข้าพบโอบามา เพื่อจะแจ้งว่า มีหลักฐานที่มีความเป็นไปได้ ที่จะนำไปสู่ตัวบินลาเดน ทั้งสองคนอธิบายว่า จากการแกะรอยจากหลักฐานหลายพันชิ้น นักวิเคราะห์ของ CIA สามารถระบุสถานที่อยู่ของคนชื่อ Abu Ahmed al-Kuwait ที่เชื่อว่าเป็นคนส่งสารของกลุ่มอัลกออิดะห์ และมีความเชื่อมโยงกับบินลาเดน

นักวิเคราะห์ของ CIA ได้แกะรอยการใช้โทรศัพท์ และกิจกรรมในแต่ละวันของคนๆนี้ การติดตามดังกล่าวไม่ได้ชี้ช่องนำไปสู่พื้นที่ชายแดนห่างไกลของปากีสถาน แต่กลับเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของคนมีฐานะ แถบชานเมือง Abbottabad ของปากีสถาน ที่อยู่ห่างจากเมืองหลวง Islamabad ไปทางเหนือ 35 ไมล์ ขนาดและโครงสร้างของบริเวณที่มีการล้อมรั้วสูง แสดงว่าจะต้องเป็นที่พักอาศัยของสมาชิกระดับสูงของกลุ่มอัลกออิดะห์

วันที่ 10 ธันวาคม 2010 ผู้บริหารของ CIA มาพบโอบามา พร้อมกับนักวิเคราะห์ CIA ที่เป็นหัวหน้าหน่วยต่อต้านการก่อการร้าย และหัวหน้าหน่วยการตามล่าบินลาเดน เจ้าหน้าที่ CIA ให้รายละเอียดแก่โอบามา ถึงงานสืบสวนจนนำมาสู่บริเวณล้อมรั้วสูงขนาดใหญ่ที่เมือง Abbottabad เป็นเรื่องชัดเจนว่า al-Kuwait คนนำสาร เป็นคนซื้อบริเวณบ้านหลังใหญ่แห่งนี้ ที่มีขนาดใหญ่กว่าบ้านละแวกเดียวกัน 8 เท่า โดยมีกำแพงสูง 8-10 ฟุตเป็นรั้วบ้าน

นักวิเคราะห์ CIA บอก กับโอบามาว่า คนที่อาศัยในบ้านปกปิดอัตลักษณ์ตัวเองอย่างมาก พวกเขาไม่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต หรือระบบการสื่อสารทางภาคพื้นดิน คนพวกนี้แทบไม่การออกจากนอกบ้าน เผาขยะเอง แทนที่จะให้คนเก็บขยะมารับไป จำนวนเด็กที่อยู่ในบ้านและอายุของเด็ก ตรงกับลักษณะลูกของบินลาเดน การลาดตะเวนทางอากาศเห็นชายคนหนึ่ง ที่ออกมาเดินในบริเวณสวนของบ้าน

โอบามาเขียนไว้ว่า ตัวเขามีคำถามมากมาย แต่ที่สำคัญที่สุดคือ มีหนทางใดที่จะพิสูจน์ว่า บินลาเดนอาศัยอยู่ในบ้านนี้ นักวิเคราะห์ CIA บอกว่า ยังพยายามหาหนทางที่จะพิสูจน์เรื่องนี้ แต่ก็สารภาพว่า ความหวังมีไม่มาก เพราะการระมัดระวังอย่างมากของคนที่อาศัยอยู่ วิธีการที่จะพิสูจน์ทราบให้มั่นใจมากขึ้น อาจทำให้คนในบ้านนี้ระแวงสงสัยขึ้นมา แล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อโอบามาถามนักวิเคราะห์ว่า คิดอย่างไร นักวิเคราะห์ CIA ตอบว่า

“ผมคิดว่า มีโอกาสที่เขาจะเป็นคนที่เราต้องการตัว แต่เราไม่อาจจะมั่นใจได้อย่างแน่นอน”

หนังสือบันทึกความทรงจำของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ชื่อ A Promised Land ที่มาภาพ : theguardian.com

ทางเลือกในการปฏิบัติการ

โอบามากล่าวว่า เนื่องจากมีข้อมูลค่อนข้างจะพอเพียง จึงให้ที่ปรึกษาพิจารณาทางเลือกต่างๆ ที่จะเข้าโจมตีบ้านพักนี้ การโจมตีจะเป็นรูปแบบไหน โดยมีเจ้าหน้าที่จำนวนไม่มากที่จะรู้แผนการนี้ นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกการโจมตีแบบไหน ปากีสถานจะต้องไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะหน่วนงานกรองของประเทศนี้ มีการเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้าย ดังนั้น ไม่ว่าจะปฏิบัติการโจมตีแบบไหน ก็จะเป็นการละเมิดดินแดนของปากีสถาน

กลางเดือนมีนาคม 2011 ที่ปรึกษาเสนอ 2 ทางเลือก ในปฏิบัติการโจมตีบริเวณล้อมรั้วนี้ ทางเลือกที่ 1 คือการโจมตีทางอากาศ ด้านที่ดีคือชีวิตคนอเมริกันไม่มีความเสี่ยงในดินแดนปากีสถาน นอกจากนี้ ทางการปากีสถานก็ปฏิเสธได้ว่า ตัวเองไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน แต่ด้านที่ลบก็สำคัญ หากทำลายบริเวณที่ล้อมรั้ว จะมั่นใจอย่างไรว่าบินลาเดนอาศัยอยู่นั้น นอกจากนี้ ยังมีผู้หญิง 5 คน และเด็ก 20 คนที่อาศัยอยู่ และบ้านพักที่อยู่ใกล้เคียง อาจถูกทำลายไปด้วย

ทางเลือกที่ 2 คือปฏิบัติการของหน่วยรบพิเศษ ที่ใช้เฮลิคอปเตอร์บินเหนือน่านฟ้าปากีสถาน เข้าโจมตีบริเวณบ้านพัก แล้วบินกลับออกมา ก่อนที่ทหารของปากีสถานจะมีเวลาตอบโต้ หากเลือกทางเลือกนี้ รัฐบาลโอบามาจะให้ปฏิบัติการจากหน่วยรบพิเศษ นี้อยู่ภายใต้อำนาจของ CIA ไม่ใช่กระทรวงกลาโหม เพราะหากเกิดความผิดพลาด ก็สามารถปฏิเสธการเกี่ยวข้องได้

เนื่องจากปฏิบัติการนี้ มีขอบเขตใหญ่และเสี่ยงมาก พลเรือโทวิลเลียม แม็กราเวน (William McRaven) หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วย SEAL กองทัพเรือสหรัฐฯ จึงได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าของภารกิจนี้

เดือนมีนาคม 2011 นายพลมาแม็กราเวนเสนอรายละเอียดแผนปฏิบัติการ หน่วย SEAL จำนวนหนึ่งจะออกบินโดยเฮลิคอปเตอร์จากเมือง Jalalabad แอฟกานิสถาน ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ที่จะไปถึงพื้นที่เป้าหมาย ปฏิบัติการจะอาศัยความมืดตอนกลางคืน และลงจอดภายในพื้นที่ล้อมรั้วสูง จากนั้น หน่วย SEAL จะปิดทางเข้าอาคาร ประตู และหน้าต่าง ก่อนจะบุกเข้าอาคาร 3 ชั้น ทำการค้นทุกชั้น และจัดการกับการต่อต้านใดๆ พวก SEAL จะจับกุมหรือสังหารบินลาเดน หลังจากนั้น ก็บินกลับมาที่ Jalalabad

โอบามาถามว่า คิดว่าคนของเขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่ นายพลแม็กราเวลตอบว่า “ตอนนี้ เราเพียงแค่ร่างแนวคิดออกมาเป็นแผนงานคร่าวๆ ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่คิดอยู่นี้จะเป็นวิธีการดีที่สุดหรือไม่ จนกว่าจะได้คัดเลือกทีมงาน และได้มาซ้อมแผนปฏิบัติงานนี้ สิ่งที่พอจะบอกได้ก็คือว่า หากคนของเราไปถึงพื้นที่นั้นแล้ว ปฏิบัติการโจมตีของเราจะประสบความสำเร็จ”

อีกสองสัปดาห์ต่อมา นายพลแม็กราเวนรายงานถึงความเชื่อมั่นในแผนการโจมตี โดยมั่นใจว่า หน่วย SEAL สามารถทำงานได้สำเร็จ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ปากีสถานจะรู้ตัวว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น หากเกิดการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ปากีสถาน หน่วย SEAL จะยังตรึงพื้นที่ไว้ แล้วใช้วิธีการทูตดำเนินการเจรจา เพื่อเดินทางกลับออกไป

โอบามาได้ชมภาพการปฏิบัติการของหน่วย SEAL ที่บุกโจมตีบ้านพักบิน ลาเดน ภาพจากหนังสือ A Promised Land

วันที่ 28 เมษายน 2011 ที่ประชุมความมั่นคงของทำเนียบขาวพิจารณาครั้งสุดท้ายในแผนการปฏิบัติการ Abbottabad ที่จะเกิดขึ้นในปลายสัปดาห์นั้น โดยหน่วย SEAL ได้เข้าประจำการแล้วที่เมือง Jalalabad เพื่อรอคำสั่งอนุมัติ ทาง CIA ประเมินความแน่นอนล่าสุด 60-80% ที่บินลาเดนจะอาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว

วันที่ 29 เมษายน 2011 โอบามาตัดสินใจอนุมัติเป็นทางการในปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้ โดยให้อำนาจการตัดสินใจทั้งหมดในด้านปฏิบัติการ เป็นของนายพลแม็กราเวน เมื่อเฮลิคอปเตอร์ของหน่วย SEAL ขึ้นบินออกจากแอฟกานิสถานแล้ว โอบามาได้เข้ามาอยู่ในห้อง Situation Room ของทำเนียบขาว ร่วมกับทีมงานด้านความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อติดตามปฏิบัติการของหน่วย SEAL จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

เอกสารประกอบ
A Promised Land by Barack Obama review, 17 Nov 2020, thegurdian.com
A Promised Land, Barack Obama, Crown, 2020.