ThaiPublica > เกาะกระแส > ธ.ก.ส.ตรวจพบเกษตรกรเสียชีวิตกว่า 1 แสนคน ขอรับเยียวยา 5,000 บาท

ธ.ก.ส.ตรวจพบเกษตรกรเสียชีวิตกว่า 1 แสนคน ขอรับเยียวยา 5,000 บาท

23 พฤษภาคม 2020


เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 ดร. อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร 10 ล้านราย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เดือนละ 5,000 บาท/ราย เป็นเวลา 3 เดือน โดยมีนายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส.ให้การต้อนรับ ณ ที่ทำการ ธ.ก.ส. สาขานครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

ธ.ก.ส.ตรวจพบเกษตรกรเสียชีวิตกว่า 1 แสนคน ลงทะเบียนขอเยียวยา 5,000 บาท ยืนยันโอนเงินเข้าบัญชีครบ 6.77 ล้านคน ภายในสิ้นเดือนพ.ค.นี้ “อุตตม” เตรียมหารือรมว.เกษตรฯ ถกประเด็นข้าราชการ 90,000 คน ทำเกษตรเป็นอาชีพเสริม สมควรได้รับเงินเยียวยาหรือไม่?

ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังที่ธ.ก.ส.ได้รับรายชื่อจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) โดยผ่านการตรวจความซ้ำซ้อนกับการให้ความช่วยเหลืออื่น ๆ ของรัฐ เช่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับเงินการเยียวยาตามมาตรการ “เราไม่ทิ้งกัน” ของกระทรวงการคลัง,ข้าราชการบำนาญ,ผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 หรือโครงการอื่น ๆ และเกษตรกรที่เสียชีวิตไปแล้ว โดย ธ.ก.ส. ทยอยโอนเงินผ่านสาขาธ.ก.ส. กว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศมาตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 จนถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 มีเกษตรกรกลุ่มแรกได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทจาก ธ.ก.ส.ไปแล้ว 3,222,952 ราย คิดเป็นเงิน 16,115 ล้านบาท เฉพาะจังหวัดนครปฐมมีเกษตรกรที่ได้รับเงินเยียวยาแล้ว 13,881 ราย คิดเป็นจำนวนเงิน 69.4 ล้านบาท

ทั้งนี้ ยังมีเกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา แต่ยังไม่สามารถโอนเงินได้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ร้อยละ 97 ไม่พบบัญชีเงินฝาก จึงขอให้เกษตรกรผู้ได้รับสิทธิ์ ให้ตรวจสอบสิทธิ์และแจ้งเลขบัญชีรับโอนในเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com โดยเร็ว

ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯได้ส่งข้อมูลเกษตรกรกลุ่มที่ 1 รอบที่ 2 ให้ ธ.ก.ส. มาอีก 3,519,434 ราย ซึ่งตามแผนงานที่กำหนดไว้ ธนาคารจะเริ่มจ่ายเงินเยียวยาอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 22-29 พฤษภาคม 2563 ส่วนเกษตรกรกลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรและการขึ้นทะเบียนใหม่เพิ่มเติม เมื่อได้รับรายชื่อจากกระทรวงเกษตรฯ และผ่านการตรวจสอบความซ้ำซ้อนแล้ว ธ.ก.ส. จะเร่งดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยเร็วต่อไป

ส่วนกรณีที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจพบข้าราชการที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นรายได้เสริมกว่า 90,000 ราย กลุ่มนี้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทหรือไม่นั้น ดร.อุตตม กล่าวว่า ประเด็นนี้ผมขอหารือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก่อน ตามหลักการของมาตรการนี้ ตนเข้าใจว่าควรจะจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรโดยตรงเท่านั้น หากเป็นข้าราชการได้รับเงินเงินเดือน สวัสดิการ และค่าตอบแทนอื่นๆจากรัฐบาลแล้ว ก็ไม่น่าจะเข้าข่ายได้รับเงินเยียวยา โดยหลักการแล้ว เราพยายามกระจายความช่วยเหลือไปยังกลุ่มคนที่ได้รับความเดือดร้อนให้ทั่วถึง และลดความซ้ำซ้อน เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก่อน

ด้านนายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ขณะนี้ ธ.ก.ส. ได้รับข้อมูลเกษตรกรกลุ่มแรกที่มาลงทะเบียน ขอรับเงินเยียวยาผ่านกรมส่งเสริมการเกษตร , กรมปศุสัตว์ และกรมประมงแล้วประมาณ 8.33 ล้านราย จากนั้น ธ.ก.ส.นำข้อมูลดังกล่าวมาคัดกรอง ตรวจสอบความซ้ำซ้อน เช่น เคยได้รับเงินเยียวยาจากโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” ไปแล้วหรือยัง , เป็นข้าราชการบำนาญ และผู้ประกันตนหรือไม่ เป็นต้น พบว่าผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลไปแล้ว หรือ ได้รับสิทธิซ้ำซ้อนประมาณ 1.7 ล้านคน จึงส่งข้อมูลดังกล่าวกลับไปให้กระทรวงเกษตรฯ พิจารณา คงเหลือจำนวนเกษตรกรที่จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ประมาณ 6.77 ล้านราย

นายกษาปณ์ กล่าวต่อว่า ธ.ก.ส.ได้รับข้อมูลชุดแรกจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 มีเกษตรกรลงทะเบียนประมาณ 3.335 ล้านราย จากนั้น ธ.ก.ส.ได้นำมาข้อมูลเกษตรกรมาตรวจสอบกับฐานข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย พบว่าเป็นเกษตรกรที่เสียชีวิตไปแล้ว 527 ราย จึงตัดกลุ่มนี้ออกไป และส่งข้อมูลกลับให้กระทรวงเกษตร ฯพิจารณาว่าจะจ่ายเงินเยียวยาแก่ทายาทตามกฎหมายมรดกได้หรือไม่ นอกจากนี้ยังตรวจพบเกษตรกรอีก 110,000 ราย ไม่ได้ระบุเลขบัญชีเงินฝาก เพื่อรับเงินเยียวยา จึงโอนเงินให้ไม่ได้ ทาง ธ.ก.ส.ขอให้เกษตรกรกลุ่มนี้ รีบแจ้งเลขบัญชีเงินฝากของธนาคารใดก็ได้ หรือ เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนผ่านระบบพร้อมเพย์ ให้กับธนาคารทราบโดยเร็ว เพื่อดำเนินการโอนเงิน ขณะนี้ ธ.ก.ส.ได้เริ่มโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15-20 พฤษภาคม 2563 จำนวน 3.22 ล้านราย

นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส.

ต่อมา เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 กระทรวงเกษตรฯ ส่งข้อมูลชุดที่ 2 ให้ ธ.ก.ส. พบว่าเกษตรกรที่อยู่ในทะเบียนประมาณ 3.5 ล้านราย ธ.ก.ส.ได้นำรายชื่อเกษตรกรไปสอบทานกับฐานข้อมูลกระทรวงมหาดไทย พบว่าเป็นเกษตรกรที่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 1 แสนราย จึงส่งรายชื่อเกษตรกรกลุ่มนี้กลับไปให้กระทรวงเกษตรฯพิจารณา คงเหลือเกษตรกรที่จะได้รับเงินเยียวยาประมาณ 3.43 ล้านราย โดยธ.ก.ส.จะเริ่มโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรกลุ่มนี้ได้ ตั้งแต่วันที่ 22-29 พฤษภาคม 2563

ล่าสุด ธ.ก.ส.ได้รับแจ้งจากกระทรวงเกษตรฯจะจัดส่งข้อมูลเกษตรกร กลุ่มที่ 2 มาให้ธ.ก.ส.พิจารณาในวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 จำนวน 1.57 ล้านราย ตามแผนงานของ ธ.ก.ส. จะพยายามโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 30- 31 พฤษภาคม 2563 รวมแล้วในเดือนพฤษภาคมนี้ ธ.ก.ส. จะโอนเงินเยียวยา 5,000 บาท ให้เกษตรกรทั้งสิ้น 6.77 ล้านราย คิดเป็นเงิน 33,850 ล้านบาท

“ตามหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียว 5,000 บาทนั้น เกษตรกรต้องไปขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร , กรมปศุสัตว์ และกรมประมง จากนั้นกระทรวงเกษตรฯ ก็จะส่งข้อมูลมาให้กระทรวงการคลังตรวจว่าเคยได้รับสิทธิเงินเยียวยามตามโครงการเราไม่ทิ้งกันแล้วหรือยัง เป็นข้าราชการบำนาญ หรือ ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมหรือไม่ จากนั้น ธ.ก.ส. ก็จะนำรายชื่อเกษตรกรที่ตรวจทานกับฐานข้อมูลกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทยว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้ทำการตรวจสอบในลักษณะนี้กับทุกโครงการที่ รัฐบาลจัดงบประมาณมาจ่ายเยียวยาเกษตรกร หากพบว่าเสียชีวิตไปแล้ว ก็ต้องส่งรายชื่อกลับไปให้กระทรวงเกษตรฯพิจารณาว่าจะให้ธ.ก.ส.จ่ายเงินเยียวยาแก่ทายาทหรือไม่ หากยืนยันให้ ธ.ก.ส.จ่ายก็จะต้องดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายมรดก คือ ต้องแต่งตั้งผู้จัดการมรดกมอบหมายให้ทายาทมารับเงินเยียวยา ข้อมูลผู้เสียชีวิตที่กระทรวงเกษตรฯส่งมาให้ธ.ก.ส.นั้น เข้าใจว่าจะเป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้แก้ไข” นายกษาปณ์ กล่าว