วันนี้ (21 ก.พ. 2563) เวลาราว 18.00 น. หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมตัดสิทธิทางการเมืองกรรมบริหารพรรคอนาคตใหม่ 16 ราย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค พร้อมนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ได้เปิดการแถลง ณ ที่ทำการพรรค โดยมีสมาชิกและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในสังกัดพรรคเข้าร่วมจำนวนมาก ขณะที่มีสมาชิกพรรคทยอยเดินทางมาร่วมกิจกรรมที่พรรคจัดขึ้นในช่วงหัวค่ำ
ชี้ 6 ข้อ ผลสืบเนื่องจากคำวินิจฉัย
นายปิยบุตรเป็นผู้เริ่มการแถลงโดยกล่าวว่า พี่น้องประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศไทยทุกท่าน รัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทยยืนยันเอาไว้ว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ผมในฐานะปวงชนชาวไทยผู้ทรงอำนาจอธิปไตย ขอใช้สิทธิและอำนาจนี้ในการวิจารณ์และไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจตุลาการ ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอำนาจอธิปไตย เมื่อผมเป็นหนึ่งในอำนาจของอธิปไตยด้วย ผมจึงมีสิทธิและเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความเห็นต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
นี่คือการวิจารณ์ การแสดงความคิดเห็นอย่างสุจริตใจ เพื่อจรรโลงให้ระบบประชาธิปไตยและการแบ่งแยกอำนาจ ตรวจสอบถ่วงดุลกันนั้นสามารถดำรงอยู่ได้
นี่ไม่ใช่การละเมิดอำนาจศาล นี่ไม่ใช่การดูหมิ่นศาล แต่นี่คือการวิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ของอำนาจอธิปไตยในประเทศไทย
ในทางกฎหมาย คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ ได้ส่งผลสืบเนื่องดังต่อไปนี้
พรรคการเมืองซึ่งเป็นการรวมตัวของปัจเกจบุคคล รวมตัวกันแล้วก็ไปก่อตั้งขึ้น จดทะเบียนกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงก่อตั้งเป็นพรรคการเมืองได้ ไม่ได้ถือครองอำนาจรัฐ ไม่ได้ใช้อำนาจมหาชน สถานะของบุคลากรในพรรคการเมืองมิใช่บุคลากรของรัฐ มิใช่ข้าราชการ แต่ ณ วันนี้ จากนิติบุคคล เอกชน แต่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า พรรคการเมืองกลายเป็นนิติบุคคลมหาชนไปเรียบร้อยแล้ว
เงินกู้อาจกลายเป็นเงินบริจาค อาจกลายเป็นประโยชน์อื่นใดได้ทันที ถ้าศาลรัฐธรรมนูญประสงค์ตีความให้เป็นเช่นนั้น ดังนั้น พรรคการเมืองทุกพรรค ด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจ พรรคการเมืองทุกพรรคที่กู้เงินกันในเวลานี้ โปรดระมัดระวังว่า ท่านอาจถูกศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า เป็นเงินบริจาคหรือประโยชน์อื่นใดเกินกว่า 10 ล้านบาทได้
การใช้มาตรา 72 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อยุบพรรคอนาคตใหม่นั้นในวันนี้ ไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย ผลแห่งการนี้คือ ต่อไปนี้ ทุกๆ ความผิดเกี่ยวกับการเงินในกฎหมายพรรคการเมืองซึ่งมีบทกำหนดโทษอยู่แล้ว แต่ต่อไปนี้เมื่อมีการกระทำผิดเกี่ยวกับการเงินของพรรคการเมือง จะส่งผลให้ถูกยุบพรรคทันที
ในมาตรา 66 หากว่าพรรคการเมืองใดทำผิดจริง ก็มีบทลงโทษของมันอยู่แล้ว แต่ ณ วันนี้ เมื่อทำผิดมาตรการ 66 หรือมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน อาจจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงการยุบพรรคทันที ต่อไปนี้ใครรับเงินบริจาคเกินมา 1 บาทอาจถูกยุบพรรค ต่อไปนี้ใครรับเงินทองแจ้งบัญชีใดๆ ไม่ครบทุกอย่างจะถูกยึดโยงเป็นการได้เงินมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และนำไปสู่การยุบพรรคได้ทันที นี่คือการขยายมาตรา 72 เกินกำหนด
หากระบบกฎหมายไทย ต้องการห้ามมิให้พรรคการเมืองในประเทศไทยกู้เงินจริง หรือต้องการวางเงื่อนไขของการกู้เงินจริง จำเป็นอย่างที่มีการต้องตรากฎหมายข้อห้าม เงื่อนไข จำกัดเกี่ยวกับการกู้เงินเอาไว้ให้ชัดเจน เพราะว่าพรรคการเมืองทุกพรรคที่อยู่ใต้กฎหมายจะได้รู้ล่วงหน้าและจะได้มีการใช้เสรีภาพ ในการดำเนินกิจกรรมของเขาได้อย่างถูกกฎหมาย มิใช่ปล่อยให้คลุมเครือ มิใช่ปล่อยไม่ชัดเจน จนในท้ายที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญเป็นคนตีความ ขยายความว่า การกู้เงินมิอาจจะทำได้ เพราะอาจจะกลายเป็นการบริจาค เงินผลประโยชน์อื่นใด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อโทษรุนแรงถึงขั้นยุบพรรค และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งว่ากันง่ายๆ คือ โทษประหารชีวิตทางการเมืองเช่นนี้ การใช้และการตีความตามกฎหมาย ยิ่งต้องเคร่งครัด ไม่ใช่เป็นการตีความ ขยายความไปได้อย่างชนิดที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าเช่นนี้

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ มีหลายคำที่เกี่ยวข้องการ การมิต้องการให้พรรคการเมือง มีนายทุนครอบงำพรรค ต้องการสร้างประชาธิปไคยในพรรค ต้องการเรื่องความโปร่งใสตรวจสอบได้ของพรรคการเมืองต่างๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ กลับกลายเป็นเรื่องที่ยอกย้อนที่สุด เพราะพรรคอนาคตใหม่ เราก่อตั้งขึ้นมาเพราะต้องการทำงานการเมืองอย่างโปร่งใส เราต้องการทำงานการเมืองเพื่อพิสูจน์ว่า รายได้ เงินต่างๆ ที่เรานำมาใช้ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมาจากที่ใดบ้าง และเราจ่ายไปเพื่อการใดบ้าง ทุกอย่างเอาขึ้นบัญชี เอาขึ้นบนโต๊ะ แต่เรากลับถูกยุบพรรค
ในขณะที่ทุกท่านก็ทราบดีว่า ในประเทศไทยพรรคการเมืองทั้งหลาย ผมไม่ทราบจริงๆ ว่า การรณรงค์ ทำกิจกรรมต่างๆ ส่งผู้สมัครับเลือกตั้งกับครบทุกเขต ตั้งกันมาใหม่ๆ พร้อมกับพรรคอนาคตใหม่ ถึงเวลาแป๊บเดียวตั้งสาขาครบหมด ถึงเวลาแป๊บเดียวตั้งตัวแทนประจำจังหวัดครบหมด ถึงเวลาแป๊บเดียวส่งผู้สมัครลงรับเลิกตั้งได้หมด ถามจริงๆ เอาเงินมาจากไหน
ผลสืบเนื่องจากคำวินิจฉัยนี้คือ พรรคการเมืองจงอย่าโปร่งใส พรรคการเมืองจงอย่างเปิดเผย แต่พรรคการเมืองจงปกปิดให้มิด แล้วจะอยู่รอดได้ ยิ่งโปร่งใสมากเท่าไร ยิ่งซวย ยิ่งโปร่งใสมากเท่าไรยิ่งเดือดร้อน ยิ่งถูกยุบพรรค
ในท้ายที่สุดพรรคใด ซ่อนเก่ง ซุกเก่ง ปกปิดเก่งกลายเป็นพรรคที่ถูกกฎหมาย ใครที่เปิดเผย โปร่งใส แสดงแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในการทำกิจกรรมกลับถูกยุบพรรค ประเทศไทยจะกลับตาลปัตร ยอกย้อนแบบนี้
สืบเนื่องจากคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค ต่อนื่องมายังคำนิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี ก่อนหน้าเราใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 เพิกถอนสิทธิเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งก็ว่าเยอะแล้ว ก็ว่าประหารชีวิตกันทางการเมืองแล้ว แต่ ณ วันศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า นี่คือ ความได้สัดส่วนความพออยู่สมควรแก่เหตุ โทษหนักเช่นนี้สาสมกับการกระทำจึงเพิกถอนสิทธิ 10 ปี
ผลจากคำวินิจฉัยเช่นนี้ กลับกลายเป็นว่าการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี นี่คือปรานีแล้ว
รัฐธรรมนูญก่อตั้งศาลรัฐธรรมนูญขึ้นมา กำหนดอำนาจหน้าที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดกระบวนการ ที่มาตุลาการของศาลรัฐธรรมนูญ แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะกำหนดให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันทุกองค์กร มีผลเด็ดขาดและเป็นที่สุด แต่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันในใจของประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้ ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานเหตุผลความถูกต้องชอบธรรม
คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบผู้อื่น ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบผู้อื่น คำถามคือว่า ใครตรวจสอบคณะกรรมการเลือกตั้งใครตรวจสอบศาลรัฐธรรมนูญ
คำถามนี้ คำตอบชัดเจนที่สุด นั่นคือ พี่น้องประชาชน ปวงชนชาวไทยผู้ทรงอำนาจอธิปไตย อำนาจสูงสุดของประเทศ พี่น้องประชาชนเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ ดังนั้นพี่น้องประชาชนจึงมีอำนาจมีสิทธิอย่างชัดเจนในการตรวจสอบคณะกรรมการเลือกตั้งและศาลรัฐธรรมนูญ นี่คือการตรวจสอบถ่วงดุล
เมื่อไรก็ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสินยุบพรรค ประชาชนจะเป็นคนวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ดังนั้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้เป็นเช่นไร มีคุณภาพหรือไม่ ถูกต้องชอบธรรมมีเหตุมีผลหรือไม่ พวกท่าน ประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของแผ่นดินเป็นคนตัดสิน
ผลสืบเนื่องทางการเมืองไทยจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ แน่นอนว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแค่ขอบเขตในอดีต แต่เมื่อตัดสินแล้วกระทบองค์กร ย่อมส่งผลกระทบในทางการเมือง ทางสังคมเป็นเรื่องปกติ
ผลสืบเนื่องในทางการเมืองคือ ประเทศไทยไม่อนุญาตให้มีพรรคการเมืองที่ทำงานสร้างสรรค์เปิดเผยโปร่งใสมีความคิดก้าวหน้า ต้องการผลักดันเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยถึงระดับโครงสร้าง
ประเทศไทยเลือกใช้นิติสงครามในการกำจัดศัตรูทางการเมือง แบบเดิมแบบที่เคยทำมากว่าทศวรรษ และนิติสงครามเช่นนี้ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้ ตรงกันข้าม นิติสงครามจะตอกลิ่มความขัดแย้งมากกว่าเดิม
สิบกว่าปีที่ผ่านมาคนไทยจำนวนมากตั้งคำถามถึงระบบยุติธรรม กระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจต่างๆ พวกเขาเจ็บช้ำน้ำใจ พวกเขาชอกช้ำ พวกเขาตั้งคำถามดังๆ ว่า ยุบพรรคที่เขาเลือก ยุบพรรคที่พวกเขาสนับสนุนไปทำได้อย่างไร
ณ วันนี้มีคนอีกจำนวนมากที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ เขาอาจจะไม่รู้เรื่องรู้ราวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสิบกว่าปีที่ผ่านมา เขาอาจจะเพิ่งมาสนใจการเมือง แต่ ณ วันนี้เขาเห็นปรากฏการณ์อยู่เบื้องหน้าแล้ว นิติสงคราม เขาทำกันอย่างไร เล่นจริงเจ็บจริงกันอย่างไร ของเดิมยังไม่แก้ ความวัวไม่ทันหายความความกลับเขามาอีก
นิติสงครามที่ทำครั้งแล้วครั้งเล่ามีแต่เพิ่มความไม่พอใจ มีแต่เพิ่มความฉงนสนเท่ห์ ถึงระบบการตรวจสอบ การใช้อำนาจรัฐ ระบบสองมาตรฐานในไทยมากขึ้น
หากการยุบพรรคอนาคตใหม่ครั้งนี้ หากการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ครั้งนี้ เพียงเพราะว่าผู้มีอำนาจต้องการกำจัดความคิดแบบอนาคตใหม่ออกไป เพราะเสือกไสไล่ส่ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และผมออกจากระบบการเมือง ผมยืนยันว่า พวกเขาคิดผิด เพราะความคิดแบบอนาคตใหม่จะเจริญเติบโตกว้างไกลไปยิ่งกว่าเดิม เพราะธนาธรและผมจะออกไปโลดแล่นรณรงค์การเมืองทั่วประเทศยิ่งกว่าเดิม
หากผู้มีอำนาจคิดว่า นี่คือการตัดไฟแต่ต้นลม แต่ผมยืนว่าพวกเขาคิดผิด เพราะนี่คือไฟลามทุ่ง หากผู้มีอำนาจคิดว่านี่การกำจัดศัตรูทางการเมือง เพื่อให้พวกขาสืบทอดอำนาจได้อย่างสบายใจ พวกเขาคิดผิด เพราะอาการนี้คืออาการโรคที่แสดงให้เห็นว่า อำนาจที่ถือครองนั้นปราศจากซึ่งความชอบธรรมโดยสิ้นเชิง จึงต้องงัดทุกวิถีทางทุกวิธีการมากำจัดพวกเรา
หากผู้มีอำนาจไม่คิดว่าประชาชนไม่รู้สึกอะไร เดี๋ยวก็ลืม ผ่านไปสักพัก แล้ววันหน้ามีใหม่ก็ทำใหม่ ขอยืนยันว่าพวกเขาคิดผิด เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของประชาชน ของการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย
เราจะร่วมกันต่อสู้ต่อไป ความคิดแบบอนาคตใหม่จะเติบโตยิ่งกว่าเดิม พี่น้องประชาชนจะให้การสนับสนุนความคิดแบบอนาคตใหม่มากกว่าเดิม
ผมและธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะรณรงค์ทางการเมืองต่อเนื่องต่อไปในประเทศไทยอย่างไม่รู้จักเหน็ดหนื่อย
นี่ไม่ใช่จุดจบ แต่นี่คือจุดเริ่มต้น เพราะว่าพวกเราคือ ปีศาจที่กาลเวลาได้สร้างเพื่อหลอกหลอนคนที่อยู่ในโลกเก่า ความคิดเก่า ทำให้เกิดการละเมอหวาดกลัว และไม่มีอะไรที่จะเป็นเครื่องปลอบใจท่านเหล่านี้ได้ เท่ากับไม่มีอะไรที่จะหยุดยั้งความรุดหน้าของกาลเวลาที่จะสร้างปีศาจเหล่านี้มากขึ้นทุกที
ผมขอเชิญชวนประชาชนที่ฟังการแถลงที่บ้าน ออกมารวมตัวกันที่พรรคอนาคตใหม่ เพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นพลังของพวกเรา และส่งสัญญาณผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า เขาจะไม่ได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ

1 ปี 4 เดือน 18 วัน พรรคอนาคตใหม่
จากนั้นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้แถลงต่อโดยกล่าวว่า เมื่อบ่ายวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัย ซึ่งผลของการวินิจฉัยนั้นคือการยุบพรรคอนาคตใหม่ ตัดสินสิทธิกรรมการบรการพรรค ซึ่งมีผม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ปิยบุตร แสงกนกกุล, กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ, ชำนาญ จันทร์เรือง, พงศกร รอดชมภู, รณวิต หล่อเลิศสุนทร, ไกลก้อง ไวทยการ, นิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์, เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์, ชัน ภักดีศรี, สุรชัย ศรีสารคาม, เจนวิทย์ ไกรสินธุ์, พรรณิการ์ วานิช, จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ และสุนทร บุญยอด ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิเพราะศาลรัฐธรรมนูญตัดสินในวันนี้
พรรคอนาคตใหม่จดจัดตั้งกับคณะกรรมการการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2561 วันที่ 21 พฤษภาคม ปีเดียวกัน เราได้ประชุมพรรคครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต พรรคอนาคตใหม่ได้การรับรองจากคณะกรรมการเลือกตั้งให้มีสถานะเป็นนิติบุคคล เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2561 นับจากวันที่พรรคได้รับการรับรอง พรรคมีชีวิตทั้งสิ้น 507 วัน มีอายุทั้งสิ้น 1 ปี 4 เดือน 18 วัน
ผมขอย้อนกลับไปถึงวัตถุประสงค์ของการตั้งพรรคอนาคตใหม่ พวกเราคือการรวมตัวของกลุ่มคนที่รวมตัวกัน ต้องการสร้างพรรคการเมืองรูปแบบใหม่ พรรคการเมืองที่ไม่ซื้อสิทธิซื้อเสียง พรรคการเมืองที่เป็นหลักของประชาธิปไตย เป็นเสาหลักของความเท่าเทียมสิทธิมนุษยชนในระยะยาว เราตั้งใจจะเป็นพรรคที่กล้าพูดเรื่องก้าวหน้า กล้าพูดเรื่องการปฏิรูปกองทัพในสภาผู้แทนราษฎร อยากเห็นสังคมไทยที่ก้าวหน้า อยากเห็นระบบราชการที่รวมศูนย์ ต้องการสร้างสังคมไทยที่คนทุกคนมีความมั่นคง มีชีวิตมีความเท่าเทียมพื้นฐานผ่านกลไกรัฐสวัสดิการ นี่คือสิ่งที่เป็นความฝันที่ร้อยรัดกุมรวมตัวพวกเรา โดยมีเป้าหมายร่วมกัน คือ การหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) คือการแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 นั่นคือสิ่งร้อยรัดพวกเราให้มาตั้งพรรคการเมือง
วันนี้ผู้สนับสนุนของพวกเรา ที่เดินทางร่วมกับพวกเราไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด จากส่วนกลาง สมาชิกพรรค สมาชิกที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้สนับสนุน นักวิชาการ เอ็นจีโอ ผมขอขอบคุณ
1 ปี 4 เดือน 18 วัน เป็นการเดินทางที่สวยงาม มีเรื่องประทับใจมากมายในการเดินทางครั้งนี้ ได้รับผ้าขาวม้าจากพี่น้องในภาคอีสาน ได้รับเสื้อที่เป็นสัญลักษณ์ของพี่น้องในภาคเหนือ ผมได้รับมะละกอ ทุเรียน ผมได้ดอกไม้ ผมได้ขวดน้ำ ได้รอยยิ้ม ได้กำลังใจจากทุกท่าน ทำให้เรากล้าสู้ต่อ แม้ว่าเราจะโดนทำลายความน่าเชื่อถือผ่านกลไกข่าวปลอมในออนไลน์ ถึงแม้จะโดนข้อหาจากข้อร้องเรียนต่างๆ ถึง 29 กรณีด้วยกัน แต่สิ่งเหล่านั้น ที่ท่านให้พวกเรา คือแรงผลักดันที่ทำให้พวกเรามาไกลถึงเท่านี้ ขอบคุณจากใจพวกเราชาวอนาคตใหม่
นอกจากคำขอบคุณแล้ว สิ่งที่ผมต้องกล่าวกับประชาชนที่เคารพ คือ พรรคอนาคตใหม่สิ้นสุดลงแล้ว ผมในฐานะหัวหน้า ผมขอโทษประชาชนทุกคนที่พวกเราทำตามสัญญาไม่ได้ พวกเราสัญญากับทุกท่านไว้ว่าจะเราหยุดยั้งทั้งการสืบทอดอำนาจ คสช. เราสัญญากับทุกท่านไว้ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 เราสัญญาว่า ปฏิรูปกองทัพ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เราทำไม่ได้ตามสัญญา ผมในฐานะหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ขอกล่าวขอโทษพี่น้องประชาชนทุกคน
แต่ผมเรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชนว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมและกรรมการบริหาร พวกเราทุกคนได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามาถ เต็มสรรพกำลัง เต็มทรัพยากรที่เรา เพื่อผลักดันให้ได้สิ่งเหล่านั้นมา อย่างน้อยที่สุด ผมกล้าพูดได้เต็มปาก กล้ามองหน้าคนรุ่นต่อไปได้ว่า ผมไม่ได้อยู่เฉยรอวันที่สังคมจะลุกเป็นไฟ
ผมและชาวอนาคตใหม่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับอำนาจอยุติธรรม ลุกขึ้นเพื่อผลักดันสังคมไทยไปข้างหน้า เพื่อหยุดยั้งความขัดแย้งทางการเมืองที่มีอยู่อย่างยาวนานในสังคมไทย อย่างน้อยที่สุด เราบอกกับลูกหลานวันนี้ได้เต็มปาก
วันนี้พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบแล้ว กรรมการบริหารถูกตัดสิทธิแล้ว แต่การเดินทางยังไม่สิ้นสุดลง นี่ไม่ไช่เวลาที่จะเสียใจ ยังเร็วไปที่จะร้องไห้ เพราะพรรคอนาคตใหม่เป็นมากกว่าพรรคการเมือง
พรรคอนาคตคือคนอย่างคนอีสานที่แต่งเพลงให้กับพรรคของเราอนาคตใหม่ โดยไม่คิดค่าตัวไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ พรรคอนาคตใหม่คือคนอย่างบัวลอง ดีมาก พนักงานโรงงานอุตสาหกรรม ที่ถูกเลิกจ้างแล้วออกมาสู้กับความไม่ยุติธรรมด้วยตัวเธอเอง พรรคอนาคตใหม่คือคนอย่าง หรินทร์ ยุวรัตนาพร ทำงานในฝ่ายศิลปกรรมวัฒนธรรมของพรรค โดยไม่เรียกร้อง โดยไม่เคยขอค่าจ้าง พรรคอนาคตใหม่คือคนเหล่านี้
คุณยุบพรรคได้ แต่คุณยุบคนไม่ได้ พวกเขาต้องการทำลายเรา นี่เป็นเวลาพิสูจน์ว่าทำลายเราไม่ได้ เราต้องเข้มแข็งกว่าเดิม พวกเขาต้องการเหยียบย่ำเราให้จมดิน นี่เป็นเวลาของการลุกขึ้นยืนให้มั่นคง ไม่ใช่เวลาที่จะเสียใจ ไม่มีเวลาที่จะร้องไห้ เราไม่มีเวลาให้กับสิ่งเหล่านั้น
อย่าเปลี่ยนใจ อย่าหมดไฟ อย่าหยุดฝัน พรรคอนาคตใหม่เป็นมากกว่าพรรคการเมือง เป็นการเดินทาง
วันนี้ยานพาหนะที่ชื่อพรรคอนาคตใหม่สิ้นสุดลง แต่ผู้คนยังเดินทางต่อ
ตั้งคณะอนาคตใหม่สืบทอดอุดมการณ์
ดังนั้นเพื่อการนี้ ผมขอประกาศตั้ง คณะอนาคตใหม่ คณะรณรงค์สังคมเพื่อผลักดันวาระที่ก้าวหน้าขึ้น ผมขอประกาศจัดคณะอนาคตใหม่ซึ่งเป็นที่รวมตัวกันของกลุ่มคนที่ต้องการสืบสานอุดมการณ์และแนวคิดพรรคอนาคตใหม่ขึ้น เพื่อทำงานการเมืองต่อ โดยมีวัตถุประสงค์กลับไปเมื่อครั้งตอนที่เราตั้งพรรคอนาคตใหม่ครั้งแรก นั่นคือ ปักธงความคิด
การปักธงความคิดเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าทำให้พี่น้องประชาชนเชื่อได้ว่า ระบบประชาธิปไตยคือระบบที่ดีที่สุดสำหรับสังคมไทยและทำให้เชื่อได้ว่า ทางออกทางเดียวที่เหลืออยู่ คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ถ้าเราทำให้เชื่อได้ว่า มีแต่การสร้างรัฐสวัสดิการเท่านั้นทำให้ประชาชนมั่นคง และประชาชนที่มั่นคงคือพื้นฐานของประเทศใอนาคต ถ้าทำให้พี่น้องประชาชนเชื่อได้ว่า ปฏิรูปกองทัพก่อนเท่านั้น ถึงจะปลดล็อกการเมืองได้ ถ้าทำให้พี่น้องประชาชนเชื่อได้ว่าทำอย่างนี้ได้เมื่อไร เสียงมาเองไม่ต้องรณรงค์ เลือกตั้งครั้งหน้าพรรคที่มีอุดมการณ์แบบนี้จะชนะการเลือกตั้งเอง
และนั่นคือสิ่งที่คณะอนาคตใหม่จะทำ จะรณรงค์วาระทางการเมืองที่เคยเป็นนโยบายพรรคอนาคตใหม่อย่างเข้มแข็ง ไม่ย่อท้อ อย่างมุ่งมั่นและหนักแน่น แม้ว่าเขาจะเหยียบเรากี่ครั้งก็ตาม
คณะอนาคตใหม่จะทำมากกว่านั้น คือ การเมืองท้องถิ่นที่เคยเพาะเมล็ดพันธุ์ไว้ในนามพรรคอนาคตใหม่ เราจะทำให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าเราเป็นมืออาชีพพอที่จะบริหาร ทำให้ชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้น ดังนั้นคณะอนาคตใหม่จะทำงานการเมืองท้องถิ่นด้วย
สิ่งที่ตัวผมจะทำในนามปัจเจก ผมจะจัดตั้งมูลนิธิใหม่ขึ้น เพื่อพัฒนาการศึกษาให้ลูกหลานของเรา จะทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อม นั่นคือ ก้าวต่อไปของผมและกรรมการบริหารพรรคที่โดนตัดสิทธิ จะทำงานต่อ สัญญากับประชาชนว่า เราจะก้าวเดินต่อไปในรูปแบบใหม่ ผมและกรรมการบริหารพรรคที่โดนตัดสิทธิ ขอพลังจากทุกท่านเพื่อเดินต่อไปด้วยกัน
ผมเชื่อว่าสมาชิกผู้แทนราษฎรที่ยืนกับพวกเราจะหนักแน่นและไปด้วยกัน และเชื่อว่าจะสานต่อพรรคอนาคตใหม่ สานต่อนโยบายอนาคตใหม่ พวกเขาจะไม่เปลี่ยนใจ จะไม่หมดไฟและไม่หยุดฝันเช่นกัน ดังนั้นขอให้สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ทุกคนติดตาม พวกเขาไป พวกเขาไปอยู่พรรคไหนของให้สมาชิกพรรค 60,000 คนร่วมเดินไปกับพวกเขา ทุกท่านเชื่อใจผมมาแล้ว วันนี้ผมขอให้ทุกท่านเชื่อใจพวกเขาเหมือนอย่างที่เคยเชื่อใจผม ทุกท่านเคยสนับสนุนผมมาแล้ว ผมขอให้ทุกท่านสนับสนุนพวกเขาอย่างที่เคยสนับสนุนพวกเรามา
ก้าวต่อไปข้างหน้า แม้จะไม่มีพรรคอนาคตใหม่ แต่ยังมีคณะอนาคตใหม่ ทำงานรณรงค์วาระที่ก้าวหน้าทางการเมืองกับสังคมกับประชาชน จะยังมี ส.ส. อนาคตใหม่ ที่ผมเชื่อว่าจะดำเนินอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ต่อไปในสภาผู้แทนราษฎร
ผมภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมาตั้แต่วันแรกถึงวันสุดท้าย ภาคภูมิใจที่เป็นสมาชิกพรรค และหวังว่าทุกท่านที่เป็นสมาชิกพรรคจะภาคภูมิใจที่เราเคยเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประวัติศาสตร์บทนี้ขึ้น ขอให้พวกเราเดินต่อไป