ThaiPublica > เกาะกระแส > ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้มาตรา 128 พ.ร.ป. ส.ส. ไม่ขัดหรือแย้งต่อมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญ – ปิยบุตร” ยื่น“กกต.” ทบทวนสูตรคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้มาตรา 128 พ.ร.ป. ส.ส. ไม่ขัดหรือแย้งต่อมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญ – ปิยบุตร” ยื่น“กกต.” ทบทวนสูตรคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

8 พฤษภาคม 2019


ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า มาตรา 128 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (พ.ร.ป. ส.ส.) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 91 เนื่องจากเห็นว่าทั้งสองมาตราเป็นบทบัญญัติที่มีหลักการเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณและคิดอัตราส่วนของ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเพื่อให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวน 150 คน ตามมาตรา 81 วรรคหนึ่ง วงเล็บสอง แม้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 มีบทบัญญัติเกี่ยวกับรายละเอียดเพิ่มเติมจากบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 91 แต่ก็เป็นเพียงการกำหนดรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณคิดอัตราส่วนเพื่อให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อให้ครบจำนวนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด โดยกำหนดวิธีการคิดคำนวณในกรณีที่ไม่สามารถจัดสรรให้ครบ 150 คน ตามมาตรา 128 วรรคหนึ่ง วงเล็บสองถึงวงเล็บเจ็ด ซึ่งเป็นไปตามหลักการและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 91 วรรคหนึ่งและวรรคสาม จึงไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ ในเอกสารข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยังระบุด้วยว่า ตุลาการซึ่งเป็นองค์คณะทุกคนได้ทำความเห็นส่วนตนเป็นหนังสือพร้อมทั้งแถลงด้วยวาจาต่อที่ประชุมและที่ประชุมได้ปรึกษาหารือร่วมกันก่อนที่จะลงมติดังกล่าว

“ปิยบุตร” ยื่นหนังสือ “กกต.” ทบทวนสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

ทางด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เข้ายื่นหนังสือถึง กกต. เรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ว่า หลังจากรับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ซึ่งศาลไม่ได้วินิจฉัยเรื่องสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่วินิจฉัยว่ามาตรา 128 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัดกับมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญเท่านั้น ดังนั้น กกต.สามารถนำฐานของกฎหมายทั้ง 2 มาตรามาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ การคำนวณสูตรต้องเป็นไปตามมาตรา 91 คือห้ามเกิน ส.ส.พึงมี แต่ละพรรคจะนำคะแนนที่ต่ำกว่า 71,000 คะแนนมาคำนวณไม่ได้ ดังนั้นถ้าคำนวณสูตรบัญชีรายชื่อตามรัฐธรรมนูญแล้ว จะมีเพียง 16 พรรคที่ได้รับการจัดสรร ส.ส. ส่วนสูตรที่มี 27 พรรคไม่สามารถใช้ได้ ทั้งหมดเป็นอำนาจโดยแท้ของ กกต.ที่จะวินิจฉัยเช่นใด ซึ่งหากพรรคการเมืองเสียหายโดยตรง หรือหากมีว่าที่ ส.ส.แล้วไม่ได้เป็นส.ส. ก็สามารถอาศัยช่องทางตามกฎหมายฟ้องร้อง กกต.ได้

นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า ถ้าเป็นสูตร กกต. พรรคอนาคตใหม่จะเสียที่นั่ง ส.ส.ไปประมาณ 7-8 ที่นั่ง หรือคิดเป็นคะแนนดิบ 6 แสนคะแนน ขณะเดียวกัน พรรคอื่นว่าที่ ส.ส.ก็หายไปเช่นกัน เช่น พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเสรีรวมไทย หากรวมคะแนนดิบของทุกพรรคแล้ว จะหายไปเกือบ 1 ล้านคะแนน ส่วนพรรคเล็กได้แค่ 3-6 หมื่นคะแนนได้ ส.ส. นอกจากนี้พรรคฝ่ายประชาธิปไตย รวมเสียงได้เกิน 251 เสียง แต่หากใช้สูตร 27 พรรค พรรคฝ่ายประชาธิปไตยจะเหลือประมาณ 240 กว่าเสียง