ThaiPublica > เกาะกระแส > เปิดตัว QR code โอนจ่ายระหว่าง “ไทย-กัมพูชา” ลุยต่อเชื่อม “PayNow” ของสิงคโปร์ไตรมาส 3

เปิดตัว QR code โอนจ่ายระหว่าง “ไทย-กัมพูชา” ลุยต่อเชื่อม “PayNow” ของสิงคโปร์ไตรมาส 3

18 กุมภาพันธ์ 2020


ดร.วิรไท สันติประภพ (2 จากขวา) ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ฯพณฯ เจีย จันโต (H.E. Chea Chanto) (2 จากซ้าย) ผู้ว่าการ ธนาคารกลางกัมพูชา (National Bank of Cambodia: NBC)

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ฯพณฯ เจีย จันโต (H.E. Chea Chanto) ผู้ว่าการ ธนาคารกลางกัมพูชา (National Bank of Cambodia: NBC) ร่วมเป็นประธานในงานเปิดตัวบริการชำระเงินผ่าน QR Payment ข้ามประเทศ ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารพาณิชย์ในประเทศกัมพูชาที่ได้รับอนุญาตให้ทำหน้าที่เป็นธนาคารผู้ให้บริการ (sponsoring bank) ได้แก่ Acleda Bank, Cambodia Commercial Bank (CCB) และ Foreign Trade Bank of Cambodia (FTB) ได้ร่วมกันพัฒนาบริการชำระเงินด้วย Interoperable QR Code ซึ่งสอดคล้องตามมาตรฐานสากลและรองรับการชำระเงินรายย่อยระหว่างลูกค้าและร้านค้าของทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ บริการดังกล่าวจะเริ่มให้บริการกับนักท่องเที่ยวกัมพูชาที่เดินทางมาประเทศไทยสามารถใช้ mobile banking application ของธนาคารกัมพูชาที่ร่วมให้บริการสแกน Thai QR Code ที่ร้านค้าในประเทศไทยได้ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป และในทางกลับกัน นักท่องเที่ยวไทยจะสามารถใช้ mobile banking application ของธนาคารไทยที่ร่วมให้บริการสแกน QR Code ของกัมพูชาเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้าในประเทศกัมพูชาได้ในไตรมาส 3 ปี 2563 ประมาณเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป

ธปท. และ ธนาคารกลางกัมพูชา ตระหนักถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาพัฒนาบริการทางการเงินเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการ และเข้าถึงผู้ใช้บริการที่เป็นประชาชน ธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ โดยวางบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันการพัฒนาร่วมกับภาคเอกชน โดยเฉพาะการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่เชื่อมโยงกัน (interoperable infrastructure) มีมาตรฐานสากล และสามารถต่อยอดบริการที่หลากหลายในอนาคต เช่น การพัฒนา interoperable QR payment เพื่อให้เกิดนวัตกรรมทางการเงินที่ช่วยอำนวยความสะดวก ลดต้นทุน สร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน และครอบคลุมทั้งบริการภายในประเทศและบริการระหว่างประเทศ

ดร.วิรไทและนายเจีย จันโต ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินและการชำระเงิน ตลอดจนส่งเสริมการชำระเงินภายในประเทศและการเชื่อมโยงบริการทางการเงินระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการใช้เงินสกุลท้องถิ่น ความร่วมมือระหว่างประเทศในครั้งดังกล่าว ได้มีการต่อยอดพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมในวันนี้

ดร.วิรไท กล่าวว่า “การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเชื่อมโยงระบบการชำระเงินระหว่างกัมพูชากับไทยจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้ mobile banking application ของตนในการใช้จ่ายผ่าน QR code ที่ร้านค้าในอีกประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินระหว่างประเทศ และช่วยส่งเสริมการชำระเงินแบบดิจิทัลของประชาชนทั้งสองประเทศ นวัตกรรมนี้สามารถต่อยอดขยายไปสู่บริการโอนเงินระหว่างประเทศอาเซียนในระยะต่อไป และถึงแม้ไทยจะใช้ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นผู้ให้บริการคือทำหน้าที่ชำระเงินระหว่างกันเท่านั้นและผู้ใช้บริการสามารถใช้งานได้จากทุกธนาคาร”

ดร.วิรไทกล่าวต่ออีกว่าสำหรับแนวทางต่อไปในอนาคตคาดว่าจะสามารถเชื่อมโยงระบบพร้อมเพย์และระบบ PayNow ของสิงคโปร์ในระดับมาตรฐานการชำระเงินเดียวกันในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 ด้วย ทั้งนี้ ในปัจจุบันไทยได้เชื่อมโยงระบบการชำระเงินข้ามประเทศกับประเทศลาว ญี่ปุ่น และสิงคโปร์อยู่แล้ว เพียงแต่เป็นการเชื่อมโยงในระดับผู้บริการของสองประเทศ แต่ไม่ใช่การเชื่อมโยงในระดับมาตรฐานกลางเดียวกันอย่างระบบพร้อมเพย์และระบบ PayNow ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบชำระเงินระหว่างประเทศได้ดีกว่า

ด้านนายเจีย จันโตกล่าวว่าวันนี้เป็นวันสำคัญที่นวัตกรรมด้านบริการชำระเงินผ่าน QR Code ระหว่างกัมพูชาและไทยจะเกิดขึ้นจริง และเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะส่งเสริมการใช้เงินสกุลท้องถิ่นสำหรับการชำระเงินรายย่อยและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นจากการลดต้นทุนการชำระเงินและความเสี่ยงจากการใช้เงินสด ทั้งสองธนาคารกลางเชื่อมั่นว่า การเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ และจะเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนการเข้าถึงบริการการชำระเงินของประชาชนอีกด้วย