ThaiPublica > เกาะกระแส > บริษัทชั้นนำสหรัฐฯ-จีนก้าวข้ามความขัดแย้งการค้า ร่วมบริจาคเงิน-อุปกรณ์การแพทย์ช่วยสกัดไวรัสโคโรนา

บริษัทชั้นนำสหรัฐฯ-จีนก้าวข้ามความขัดแย้งการค้า ร่วมบริจาคเงิน-อุปกรณ์การแพทย์ช่วยสกัดไวรัสโคโรนา

29 มกราคม 2020


ที่มาภาพ: https://globalnews.ca/news/6457872/wuhan-china-coronavirus-quarantine/

ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัทชั้นนำทั่วโลก ทั้งในสหรัฐฯ และจีน ได้ร่วมบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019

บริษัทชั้นนำในสหรัฐฯ ประกอบด้วย ไมโครซอฟท์ เดลล์ คอมพิวเตอร์ และคาร์กิลล์ ได้บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หลังจากที่จีนกระตุ้นให้ธุรกิจในสหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือจีนในการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

บริษัทข้ามชาติที่มีธุรกิจในจีนซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ได้บริจาคเงินและสิ่งของทั้งหน้ากากอนามัยรวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์มูลค่าราว 10 ล้านหยวนหรือ 1.4 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรนา

ไมโครซอฟท์ระบุว่าจะสนับสนุนเป็นเงิน 1 ล้านหยวนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเมืองอู่ฮั่น และรอบๆ มณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดและมีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย

คาร์กิลล์ ธุรกิจเกษตรแปรรูปจะบริจาคเงินรวม 2 ล้านหยวนให้สภากาชาดจีน เพื่อสนับสนุนทีมแพทย์ และช่วยเหลือชุมชนที่ติดเชื้อ รวมทั้งจะมอบหน้ากากอนามัยหลายแสนชิ้นเพื่อบรรเทาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยในจีน

ขณะที่เดลล์ จะบริจาคเงิน 2 ล้านหยวน

ส่วนบริษัทอื่นๆ ในภาคธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและเฮลท์แคร์ เช่น เป๊บซี่โค และพร็อกเตอร์แอนด์ แกมเบิลในสหรัฐฯ ก็ได้มอบเงินบริจาคเช่นกัน ทำให้คาดว่าจำนวนเงินบริจาคจะเพิ่มขึ้นอีก

มูลนิธิบิลล์และเมลินดา เกตส์ บริจาค 5 ล้านดอลลาร์ ส่วนบริษัทในยุโรป ทั้งเบเยอร์ ลอรีอัล และมิชลิน ต่างก็บริจาคในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน

ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล ทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาว่า บริษัทฯ จะบริจาคให้กับหลายกลุ่มในจีนที่มีส่วนในการบรรเทาและสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

แม้จำนวนเงินบริจาคของบริษัทในสหรัฐฯ ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับเงินบริจาคของบริษัทของจีนอย่างเทนเซนต์และอาลีบาบา แต่ก็นับว่าบริษัทเหล่านี้ยังผูกพันกับจีนซึ่งเป็นแหล่งทำรายได้อย่างลึกซึ้ง แม้ทั้งสองประเทศยังมีความขัดแย้งทางการค้า ประกอบกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนามีผลต่อพนักงานของบริษัทในจีน มีผลต่อซัพพลายเออร์ และเศรษฐกิจของจีน

นายเครก อัลเลน ประธานสภาธุรกิจสหรัฐฯ-จีน ในสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า “ต้องเห็นใจจีนและต้องให้ความช่วยเหลือ และตระหนักว่าไม่มีใครที่ไม่มีความเปราะบาง” และ “บริษัทสหรัฐฯ กังวลต่อการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยเฉพาะรายที่มีธุรกิจในเมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นศูนย์การผลิตขนาดใหญ่”

นายอัลเลนยังเปิดเผยอีกว่า สถานฑูตจีนประจำสหรัฐฯ ได้ติดต่อมายังสภาธุรกิจฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับการบริจาคเงิน

สถานฑูตจีนประจำสหรัฐฯ ระบุว่า บริษัทจีนบางรายกำลังมองหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีคุณภาพในสหรัฐฯ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่เกิดการขาดแคลนในจีน โดยเฉพาะในเมืองอู่ฮั่น ขณะเดียวกันบริษัทสหรัฐฯ บางรายได้เสนอที่จะส่งมอบเครื่องมือและอุปกรณ์ป้องกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ และยืนยันว่าไม่ได้มีการขอให้บริษัทสหรัฐฯ บริจาคไม่ว่าในรูปแบบใดทั้งสิ้น แต่ได้ให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่บริษัทที่เกี่ยวข้อง

บริษัทเทคโนโลยีจีนแห่ลงขัน

ทางด้านบริษัทเทคโนโลยีของจีนได้ประกาศบริจาคเงินและสิ่งของ รวมทั้งการวิจัยและสนับสนุนทีมที่อยู่ในแนวหน้าเพื่อการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรนา

บริษัทไป่ตู้ประกาศเมื่อวันที่ 26 มกราคม ว่า ได้จัดกองทุนเพื่อการสกัดการแพร่ระบาดและด้านสาธารณสุขในวงเงิน 300 ล้านหยวน หรือ 43 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ทั้งการกลั่นกรอง การวิจัยและพัฒนาหาสาเหตุของโรคระบาด เช่น ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 รวมทั้งมาตรการระยะยาวเช่น การเปิดเผยข้อมูลด้านสาธารณสุขและความปลอดภัย

ในเว็บไซต์ WEchat บริษัทฯ ระบุว่า บริษัทฯ จะนำเทคโนโลยี AI รวมทั้งระบบการคำนวณมาใช้ในการทำการวิจัยและพัฒนาของสถาบันวิจัยและหน่วยงานควบคุมโรค นอกจากนี้ ไป่ตู้จะนำเทคโนโลยีบิ๊กดาต้าและการวิเคราะห์ข้อมูล (data analytic) เพื่อตรวจจับการติดเชื้อ การตอบสนอง และการจัดการกับการแพร่ระบาด

ทางด้านเหม่ยต้วน ตั้งกองทุนมูลค่า 200 ล้านหยวน เพื่อดูแลทีมแพทย์โดยเฉพาะ เริ่มแรกนั้นมุ่งความช่วยเหลือไปที่ทีมแพทย์และพยาบาลในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นต้นแห่งการแพร่ระบาด โดยใช้เงินไปในด้านบุคคลากรทางการแพทย์ ให้มีการดูแลความเป็นอยู่ทีมแพทย์ ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้เปิดช่องทางการบริจาคบนระบบออนไลน์ ในแอปพลิเคชันเหม่ยต้วน

นอกจากนี้ยังได้ริเริ่มการจัดอาหารราว 1,000 มื้อแก่ทีมแพทย์ในโรงพยาบาลที่เมืองอู่ฮั่น และรวมจัดการรถจักรยาน 300,000 คันให้ทีมแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหูเป่ยให้ใช้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ มณฑลหูเป่ยได้รับผลจากการระบาดของไวรัสโคโรนามากที่สุด เพราะได้มีการปิดเมืองอย่าง 15 เมือง หลังจากมีการแพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นศูนย์กลางของมณฑล

อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ในเมืองอู่ฮั่นเริ่มขาดแคลน ขณะที่เมืองอื่นถูกสั่งปิด ทำให้บริษัทเฮลท์แคร์บางรายเริ่มให้บริการฟรีแก่ผู้ติดเชื้อ

ธุรกิจค้าปลีกของจีน ได้แก่ Anta เจ้าของเสื้อผ้าอุปรณ์กีฬาบริจาคเงิน 10 ล้านหยวนหรือ 1.44 ล้านดอลลาร์ให้กับมูลนิธิ องค์กรการกุศลของจีน

ส่วนอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ ได้ร่วมช่วยเหลือสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาด้วยการบริจาคเงินและสิ่งของ ตลอดจนสนับสนุนการวิจัย นอกจากนี้อาลีบาบาได้จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 พันล้านหยวนหรือ 144 ล้านดอลลาร์

อาลีบาบาเฮลท์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ของอาลีบาบา ได้ให้บริการการแพทย์ทางไกลแก่ผู้ที่พักอาศัยในหูเป่ย โดยผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่หนักปรึกษาแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะโรงพยาบาลในพื้นที่รับภาระหนักมาอยู่แล้ว

ผู้ติดเชื้อในหูเป่ย สามารถเข้าถึงแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ของอาลีบาบาเฮลท์ ได้ผ่านแอปพลิเคชันอาลีเพย์และเถาเป่า ซึ่งปรากฏว่ามีผู้เข้าระบบกว่า 400,000 ราย ณ วันที่ 26 มกราคม ส่วนใหญ่ 97% มาจากหูเป่ย และในจำนวนนี้ 64% มาจากเมืองอู่ฮั่น

ผิงอันกู๊ดดอกเตอร์ บริษัทเฮลท์แคร์ออนไลน์อีกราย ประกาศว่า ได้จัดจั้งศูนย์ต่อต้านไวรัส พร้อมบริจาคหน้ากากอนามัยจำนวน 10 ล้านชิ้นให้กับหลายเมืองทั่วประเทศ และให้บริการคำปรึกษาฟรีแก่ผู้ใช้ทุกคนในประเทศ

ฉีฮู่ 360 ได้บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์คิดเป็นเงิน 15 ล้านหยวน ขณะที่ไอฟลายเทค (iFlyTek) บริษัท AI ประกาศบริจาคเงิน 10 ล้านหยวนและอุปกรณ์ทางการแพทย์คิดเป็นเงิน 500,000 หยวน

แบรนด์เนมยุโรปร่วมด้วย

บริษัทสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ จากยุโรปได้ร่วมบริจาคเพื่อช่วยสนับสนุนรัฐบาลจีนและองค์กรการกุศลในการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเช่นกัน โดยมีตั้งแต่ LVMH เจ้าของแบรนด์เครื่องหนังอย่าง หลุยส์ วิตตอง, เซลีน, จีวองชี, คริสเตียนดิออร์ รวมทั้งไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น Moet & Chandon และ Hennessy รวมไปถึง เคอริง (Kering) คู่แข่ง LVMH

โดย LVMH บริจาค 1 ล้านหยวน หรือ 144,000 ดอลลาร์ให้กับสภากาชาดจีน เพื่อบรรเทาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ในเมืองอู่ฮั่น

ด้าน Kering เจ้าของแบรนด์กุชชี, แซงต์โลรอง และบาลองเซียกา บริจาค 25 ล้านหยวน หรือ 3.6 ล้านดอลลาร์ ให้กับสภากาชาดในมณฑลเหอเป่ย เพื่อนำไปใช้ในการช่วยเหลือทีมแพทย์และผู้ติดเชื้อในโรงพยาบาลและการให้ความด้านสาธารณสุข

นอกจากนี้มีรายงานข่าวว่าคู่รักนักแสดง หวง เสี่ยวหมิงและแองเจลาเบบี้ ได้เพิ่มเงินบริจาคเป็น 1 ล้านหยวนจากที่ได้บริจาคเงินจำนวน 200,000 หยวนช่วงก่อนหน้าให้กับกองทุนบรรเทาความยากจนในเสฉวน (Siyuan Poverty Alleviation Fund) หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลแสดงความไม่พอใจที่บริจาคน้อยเกินไป

Siyuan Poverty Alleviation Fund ซึ่งมีเจตนายกย่องการบริจาคของหวงและแองเจลาเบบี้ได้เปิดเผยผ่านเว่ยปั๋ว แต่กลับทำให้ชาวเน็ตไม่ประทับใจ

ชาวเน็ตรายหนึ่งเขียนวิจารณ์ว่า ทั้งคู่จ่ายเงินตั้ง 200 ล้านหยวนไปกับการจัดงานแต่งงาน แต่ขณะที่ประเทศกำลังประสบกับวิกฤติ พวกเขาบริจาคแค่ 200,000 หยวน ต่อมา Siyuan Poverty Alleviation Fund เปิดเผยว่า หวงและแองเจลาเบบี้บริจาคเพิ่มอีก 800,000 หยวน

ขณะที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ในจีน หรือซีพีในจีน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและล่าสุด เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้สนับสนุนความช่วยเหลือแก่ทางการจีนในด้านการดำเนินงานป้องกันโรคปอดอักเสบอู่ฮั่นที่กำลังระบาด โดยซีพีในจีนบริจาคกว่า 222 ล้านบาท พร้อมอนุมัติให้นำน้ำยาฆ่าเชื้อของธุรกิจในเครือกว่า 33 ตัน มูลค่ารวม 1.2 ล้านหยวน บริจาคแก่มณฑลหูเป่ยทั้งหมด เพื่อให้สภากาชาดมณฑลหูเป่ยนำไปแจกจ่ายให้โรงพยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

พร้อมกันนี้ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ระบุว่า ทางเครือซีพีเร่งบริจาคเงินและเครื่องอุปโภคบริโภครวมมูลค่า 50 ล้านหยวนตามความต้องการของเขตที่มีโรคระบาด โดยเป็นเงินสดจำนวน 30 ล้านหยวน และเครื่องอุปโภคบริโภครวมมูลค่า 20 ล้านหยวน มีอาหาร อุปกรณ์ป้องกัน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เขตแพร่ระบาดต้องการอย่างเร่งด่วนเป็นหลัก

สำหรับเงินบริจาคจำนวน 10 ล้านหยวน ได้มอบให้แก่ Chinese Academy of Medical Sciences และ Peking Union Medical College เพื่อจัดตั้งกองทุนวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ สำหรับงานวิจัยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ และเงินบริจาคจำนวน 20 ล้านหยวนมอบให้แก่ Overseas Chinese Charity Foundation of China เพื่อช่วยเหลือและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ในมณฑลหูเป่ย ซึ่งจะนำไปแจกจ่ายให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ผู้ป่วย องค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ โดยมีธุรกิจของทางเครือฯ ในพื้นที่คอยรับผิดชอบติดต่อประสานงาน