ThaiPublica > เกาะกระแส > DSI แจ้งข้อหา “ประธานมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ฯ” ส่ง อสส. สั่งฟ้อง คดีเอี่ยวฟอกเงิน “สหกรณ์คลองจั่นฯ”

DSI แจ้งข้อหา “ประธานมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ฯ” ส่ง อสส. สั่งฟ้อง คดีเอี่ยวฟอกเงิน “สหกรณ์คลองจั่นฯ”

29 พฤศจิกายน 2018


เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.00 น. พ.ต.อ. ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด (ขวา) และ พ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน (ซ้าย) แถลงความคืบหน้าของคดีพิเศษที่ 24/2560 กรณี DSI การกล่าวโทษมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ในอุปถัมภ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือ “พระธัมมชโย” และกรรมการ ในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ณ ห้องแถลงข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ

ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินคดีอาญากับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน หลอกลวงให้นำเงินมาฝากกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง จากนั้นเมื่อประชาชนหลงเชื่อ นำเงินมาฝากกับสหกรณ์ฯ ปรากฏว่านายศุภชัย กับพวก ได้ร่วมกระทำการทุจริต นำเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ออกไปโดยไม่ชอบ ซึ่งที่ผ่านมากรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินคดีฟอกเงินกับผู้กระทำความผิดมาอย่างต่อเนื่อง หลายคดี รวมถึงคดีวัดพระธรรมกายที่ DSI ได้สรุปสำนวนส่งสำนักงานอัยการคดีพิเศษออกคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปแล้ว

สำหรับคดีพิเศษที่ 24/2560 กรณีนายธรรมนูญ อัตโชติ กับพวก ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีฟอกเงินกับมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูงในพระอุปถัมภ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระธัมมชโย) และกรรมการมูลนิธิฯ ที่ได้รับเงินจำนวน 125 ล้านบาท จากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก กระทำทุจริต เซ็นเช็คสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยไม่มีมูลหนี้ต่อกันนั้น

  • DSI เตรียมสรุปคดี-แจ้งข้อหา มูลนิธิคุณยายจันทร์ฯ เกี่ยวข้องคดียักยอกเงินสหกรณ์คลองจั่นฯ
  • ตำนานคดียักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
  • เกาะติดสถานะสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
  • ล่าสุด กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ได้สรุปสำนวนคดี และแจ้งข้อกล่าวหานางวรรณา จิรกิติ ประธานกรรมการมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง และนางสาวอารีพันธุ์ ตรีอนุสรณ์ (เสียชีวิต) กรรมการและเลขานุการมูลนิธิฯ ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (3), 5, 9 และ 60 โดยนางวรรณา ผู้ถูกกล่าวหา ได้เดินทางมาชี้แจงต่อคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมยื่นพยานหลักฐานแก้ต่างข้อกล่าวหาแล้ว ทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงสรุปสำนวนการสอบสวน และมีความเห็นให้ส่งตัวผู้ถูกกล่าวหาพร้อมสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการคดีพิเศษ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

    นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมของมูลนิธิว่ากระทำการขัดต่อกฎหมายหรือไม่ ซึ่งพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด มีอำนาจในการดำเนินการ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 131 (2) ดังนั้น ทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงทำเรื่องเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ส่งเรื่องดังกล่าวนี้ไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปด้วย

    พ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าว จากการตรวจสอบเส้นทางเงิน พบว่า นายศุภชัย ได้เซ็นเช็คของสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นจำนวน 11 ฉบับ เข้าบัญชีพระธัมมชโย 538 ล้านบาท เงินจำนวนนี้นำไปรวมกับเงินบริจาคจากแหล่งอื่น เพื่อนำสร้างอาคารลูกโลก และวิหารคต ขณะนี้ทางสำนักงาน ปปง. ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของมูลนิธิฯ ไว้แล้ว ส่วนการติดตามตัวพระธัมมชโยเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองว่าพระธัมมชโยหลบหนีไปอยู่ที่ไหน แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษก็ยังคงดำเนินการอยู่

    ด้านนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวสรุปการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นว่าในขณะนี้มีทั้งหมด 23 คดี กรมสอบสวนคดีพิเศษสรุปสำนวนคดีส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องแล้วมี 12 คดี ส่วนที่เหลืออีก 11 คดียังอยู่ระหว่างการสอบสวน ทาง DSI ยังไม่ได้สรุปสำนวนคดีส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้อง

    นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ
    รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด