ThaiPublica > เกาะกระแส > DSI เตรียมสรุปคดี-แจ้งข้อหา มูลนิธิคุณยายจันทร์ฯ เกี่ยวข้องคดียักยอกเงินสหกรณ์คลองจั่นฯ

DSI เตรียมสรุปคดี-แจ้งข้อหา มูลนิธิคุณยายจันทร์ฯ เกี่ยวข้องคดียักยอกเงินสหกรณ์คลองจั่นฯ

16 มิถุนายน 2017


เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2560 เวลา 12.00 น. นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 และ พ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร แถลงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ

ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้สืบสวนกรณีที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานคณะกรรมการดำเนินการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ทุจริตนำเงินออกจากสหกรณ์ฯ ประมาณ 13,000 ล้านบาท (คดีพิเศษที่ 146/2556) และจากการตรวจสอบพบว่า ในช่วงเวลาเดียวกันก็มีขบวนการสร้างเรื่องอันเป็นเท็จ เพื่อหลอกลวงสมาชิกสหกรณ์และประชาชนทั่วไปให้หลงเชื่อว่าสหกรณ์ฯ มีระบบธรรมาภิบาล รวมทั้งการบริหารที่มีประสิทธิภาพ จนมีผลกำไรดี ทำให้ประชาชนหลงเชื่อนำเงินมาฝากกับสหกรณ์ และมีการยักยอกเงินออกไป ทำให้สหกรณ์และสมาชิกได้รับความเสียหาย (คดีพิเศษที่ 63/2557)

ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสอบสวนทั้ง 2 คดีเสร็จสิ้นและส่งสำนวนให้อัยการไปแล้ว ต่อมาพนักงานอัยการมีหนังสือแนะนำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีกับนายศุภชัยและกลุ่มบุคคลที่รับเงินที่ถูกยักยอกมาจากสหกรณ์ฯ ในความผิดฐานฟอกเงิน รับของโจร และความผิดอื่นด้วย ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้จำแนกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการรับเงินดังกล่าวเป็นหลายกลุ่ม ในจำนวนนี้มีกลุ่มพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย รวมถึงผู้เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายรวมอยู่ด้วย จึงทยอยสอบสวนและสรุปสำนวนการสอบสวน เห็นควรสั่งฟ้องผู้เกี่ยวข้องส่งพนักงานอัยการไปหลายคดีแล้ว ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาอย่างต่อเนื่อง

จากการสอบสวนคดีพิเศษที่ 27/2559 ที่มีการดำเนินคดีกับพระธัมมชโยและผู้เกี่ยวข้องในความผิดร่วมกันรับของโจร ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงินนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบหลักฐานที่มีความเชื่อมโยงไปถึงมูลนิธิคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงแยกคดีนี้ออกมาทำเป็นคดีพิเศษที่ 24/2560 จากนั้นได้ดำเนินการสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ได้พยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว ในวันนี้จึงได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คณะพนักงานอัยการร่วมสอบสวน และที่ปรึกษาคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาพยานหลักฐานในคดี หากมีพยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์พอแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา จะดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา(อ่านเพิ่มเติม)

นอกจากนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษยังพบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงมูลนิธิธรรมกายอีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ดำเนินการแยกคดีนี้ออกมาทำเป็นคดีพิเศษอีกคดีหนึ่ง เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป

นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3

นายขจรศักดิ์กล่าวว่า ผู้ที่รับเงินที่ถูกยักยอกมาจากสหกรณ์ฯ ถือเป็นความผิดมูลฐาน เงินที่ถูกยักยอกมาจากสหกรณ์ฯ หากยักย้ายถ่ายเทไปที่บุคคลใดก็ต้องสอบสวนบุคคลนั้น ส่วนจะผิดหรือถูกขึ้นอยู่กับการสอบสวน ส่วนการแจ้งข้อหานั้น ก็ต้องดูว่ามีหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์หรือยัง เข้าองค์ประกอบความผิดหรือไม่ ถ้าครบ กรมสอบสวนคดีพิเศษก็จะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา การแก้ต่างข้อกล่าวหาก็เป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับการรับเงินที่ถูกยักยอกมาจากสหกรณ์ฯ​อีกหลายคน หากหลักฐานไปถึงใครกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ต้องเรียกมาสอบปากคำ

อนึ่ง มูลนิธิคุณยายอาจารย์-มหารัตนอุบาสิกาจันทร์-ขนนกยูง มีนางวรรณา จิรกิติ น้องสาวเจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล อดีตเจ้าของธุรกิจมือถือดีแทค เป็นประธานมูลนิธิฯ กรรมการอีก 6 คน ประกอบด้วยนางพิศมัย แสงหิรัญ,นางคำนวณ คงศุภลักษณ์,น.ส.เมตตา สุวชิตวงศ์,น.ส.อุบลทิพย์ สุพรรณนานนท์,น.ส.อารีพันธุ์ ตรีอนุสรณ์และน.ส.เสาวนีย์ สิริพงศ์บุญสิทธิ

อ่าน: ซีรีย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น