ThaiPublica > คอลัมน์ > สงกรานต์ที่ปากีสถาน: ทัศนศึกษาประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์โลก (จบ)

สงกรานต์ที่ปากีสถาน: ทัศนศึกษาประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์โลก (จบ)

19 เมษายน 2018


เอนก เหล่าธรรมทัศน์

ต่อจากตอนที่1

ภูมิศาสตร์ของปากีสถานที่น่าประทับใจที่สุดในสายตาผมคือเทือกเขาสูง “หลังคาโลก” สามเทือกอันได้แก่ หิมาลัย การาโกรัม และฮินดูกูช ที่มาบรรจบกันที่ตอนเหนือของประเทศนี้เอง ผมไปชมหิมาลัยมาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าที่อินเดีย เนปาล ภูฏาน จีน ที่สูงเต็มที่นั้นก็แปดพันกว่าเมตร น่าเกรงขามยิ่ง เครื่องบินใบพัดบินไม่ผ่านแน่ ต้องใช้เครื่องไอพ่นเท่านั้น แต่ปากีสถานก็มีหิมาลัยกับเขาด้วย คือหิมาลัยทางด้านตะวันตกสุด และในนั้นมียอดหนึ่งที่ชื่อว่า นังกาปาร์บัต (Nanga Parbat) สูงถึงแปดพันกว่าเมตร และยังมีเทือกการาโกรัมที่สูงไม่แพ้หิมาลัยด้วย มีอยู่ในปากีสถานนี้เท่านั้น ในเทือกนี้มีอยู่ถึงสี่ยอดที่สูงกว่าแปดพันเมตร รวมถึงยอด เค 2 ซึ่งสูงเป็นถึงที่สองของโลก เตี้ยกว่ายอดเอเวอเรสต์ไม่กี่ร้อยเมตร

สรุปสั้นๆ ก่อนว่าปากีสถานมียอดเขาที่สูงแปดพันเมตรขึ้นไปถึงห้าลูก แต่ยังครับ ยังไม่หมด มหาบรรพตในประเทศปากีสถานยังมีอีก เทือกเขาฮินดูกูชก็อยู่ในประเทศนี้ ทางด้านตะวันตก คั่นระหว่างปากีสถานกับอัฟกานิสถานนั่นเอง ซึ่งเทือกเขาฮินดูกูชนี้ก็อยู่ในระดับหลังคาโลก แม้ไม่มียอดแปดพันเมตร แต่ก็เต็มไปด้วยยอดเจ็ดพันกว่าเมตรมากมาย

จีนก็มีภูเขาสูงลิ่ว สูงถึงระดับ 7,000-8,000 เมตร จำนวนมากมาย มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก อินเดียก็น่าจะมีเป็นจำนวนรองๆ ลงมา แต่ถ้านับยอดเขาสูง 7,000-8,000 เมตร ต่อตารางพื้นที่ประเทศแล้วไซร้ ปากีสถานน่าจะเป็นทึ่หนึ่งของโลกครับ

ตอนเหนือของปากีสถานไม่ได้วิเศษที่มีเทือกเขายักษ์สามลูกมาบรรจบกันเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเชื่อมเอเชียกลางเข้ากับเอเชียใต้และเอเชียตะวันออก จากตรงนี้สามารถเดินหรือเดินรถตามแนวเขาและผ่านช่องแคบต่างๆ เข้าไปในอัฟกานิสถาน และถึงทาจิกิสถาน อุซเบกิซสถาน และประเทศเอเชียกลางอื่นๆ ได้ ขณะเดียวกัน จากปากีสถานตอนเหนือยังเดินรถตาม “เส้นทางอันเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับแปดของโลก” หรือ ทางหลวงการาโกรัม ซึ่งยาวกว่าแปดร้อยกิโลเมตร ตั้งต้นจากเมืองหลวงของปากีสถาน คือ อิสลามาบัด เข้าไปได้จนถึงซินเกียงของจีน ซึ่งจีนก็คือเอเชียตะวันออก ที่จริงศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเสียด้วย

ปากีสถานนั้นไม่ได้มีแต่ “หลังคาโลก” หากตอนใต้สุดยังอยู่ติดกับมหาสมุทรอินเดีย เมืองท่าใหม่ “กวาดาร์” ของปากีสถานนั้น อยู่ในปากอ่าวเปอร์เซียทีเดียว ฉะนั้น จีนก็ดี อัฟกานิสถานและเอเชียกลางก็ดี รัสเซียซึ่งอยู่ติดกับเอเชียกลางก็ดี หากต้องการจะลงทะเลที่มหาสมุทรอินเดียแล้วไซร้ ก็จำต้องผ่านปากีสถานไปลงทะเลครับ

ในอดีตกาลเมื่อพันถึงสองพันปีที่ผ่านมานั้น ปากีสถานคือส่วนสำคัญของทาง “สายไหม” ที่เชื่อม “ตะวันตก” หรือยุโรป เข้ากับ “ตะวันออก” หรือเอเชียกลาง เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออก ด้วยทางบก ค้าขายสินค้า และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม รับศาสนาและอารยธรรมของกันและกัน มาร์โคโปโลเดินทางบนเส้นทางยาวไกลนี้จากอิตาลีมาเอเชียกลาง แล้วก็ผ่านปากีสถานตอนเหนือนี่แหละ เข้าต่อไปยังจีนด้านตะวันตกสุด แล้วต่อไปถึงเมืองหลวงของราชวงศ์ “หยวน” ทางตะวันออกสุดของจีน การเดินทางบน “ทางหลวงการาโกรัม” นั้น จึงเป็นการวิ่งรถ “ทับรอยเท้า” ของมาร์โคโปโลเข้าไปในจีนโดยแท้

ตลอด “ทางหลวงการาโกรัม” เราไม่เพียงจะได้เห็นหิมะบนยอดเขาสูง เห็นกลาเซียร์ยาวเหยียด เห็นใบไม้ผลิเห็นดอกเชอร์รีบานเบ่ง แต่ยังเห็นเส้นทางสายไหมเส้นเก่าอยู่ไม่ไกลออกไป เห็นอยู่บ่อยๆ คาดว่ามาร์โคโปโลเคยเดินบนเส้นทางเหล่านั้นจริงๆ เมื่อเกือบพันปีที่แล้ว

มาร์โคโปโล นักเดินทางไกลผู้ลือนามที่สุดจาก “ตะวันตก” นี้ ไม่ใช่เพียงคนเดียวที่เคยท่องทางไกลในปากีสถานเพื่อไปยังจีน แต่นักเดินทางไกลนามระบือจาก “ตะวันออก” อีกสององค์คือหลวงจีนฟาเสียนแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 5 และ หลวงจีนถังซำจั๋งแห่งศตววรษที่ 7 ก็เดินจากจีนมาเอเชียกลางและเข้าปากีสถาน ศึกษาที่ตักศิลา และต่อไปยังอินเดีย เส้นทางเดินอันยิ่งใหญ่ของพุทธศาสนาไปยังจีน และต่อไปเกาหลี และญี่ปุ่น ล้วนต้องผ่านปากีสถานในตอนเหนือ และพุทธมหายานแบบจีน รวมทั้งนิกายเซนของญี่ปุ่น ล้วนก่อเกิด พัฒนา ต่อยอด ที่ตักศิลา เป็นสำคัญ และเดินบนทางสายไหมในปากีสถานออกไปเกือบทั้งนั้น

สุดท้าย ประวัติศาสตร์การเดินทัพอันเกรียงไกรของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์แห่งกรีกโบราณ เมื่อ 2,300 ปีเศษที่ผ่านมา ตีเข้าไปได้ไกลจนถึงอินเดียที่เราเรียนกันมา รู้กันมา นั้น เอาเข้าจริงการตีศึกและเดินทัพของพวกกรีกนั้นอยู่ในปากีสถานหมด หรือเกือบหมดน่าจะไม่ได้อยู่ในอินเดียเลย เพราะอเล็กซานเดอร์ยึดตักศิลาก่อน แล้วยึดปัญจาบ ลงใต้ต่อไปแคว้นซินด์ แน่นอนปัญจาบและซินด์ทุกวันนี้อยู่ทั้งในปากีสถานและอินเดีย แต่การเดินทัพของทหารกรีกใต้อเล็กซานเดอร์ในอินเดียที่โลกทุกวันนี้ก็ยังจำได้นั้น เดินตามแม่น้ำสินธุหรือ “อินดูส” ซึ่งแม่น้ำนี้ ต้องย้ำอีกครั้งครับ อยู่ในปากีสถาน ด้วยเหตุนี้จึงน่าเชื่อว่าพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ไม่ได้กรีฑาทัพผ่านส่วนใดของประเทศอินเดียปัจจุบันเลย

ปากีสถานมีผู้คนที่น่ารัก สวยหล่อ น่าคบ น่าเป็นมิตร มีภูมิศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ สำคัญและงดงาม มีประวัติศาสตร์ที่ล้ำค่า และคาดไม่ถึงว่าเคยสำคัญปานนั้นกับชาวพุทธ กับอารยธรรมลุ่มน้ำสินธุ กับศาสนาพราหมณ์-ฮินดู กับภาษา หนังสือ และวรรณกรรมสันสกฤต กับเส้นทางสายไหมเก่า กับเส้นทางสายไหมใหม่ กับกรีกโบราณ กับอเล็กซานเดอร์มหาราช ในแง่หนึ่ง ผมคิดว่าปากีสถานเป็น “ชุมทางประวัติศาสตร์โลก” ทีเดียว

ไปเที่ยว ไปชม ไปเรียนรู้ปากีสถานกันเถิดครับ

หมายเหตุ: ตีพิมพ์ครั้งแรก เฟซบุ๊ก เอนก เหล่าธรรมทัศน์ AnekLao thamatas วันที่ 19 เมษายน 2561