ThaiPublica > เกาะกระแส > “ประยุทธ์” kick-off มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.36 แสนล้านบาท หวังกองทุนหมู่บ้าน “ใส่เงินไปแล้วไม่หาย”

“ประยุทธ์” kick-off มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.36 แสนล้านบาท หวังกองทุนหมู่บ้าน “ใส่เงินไปแล้วไม่หาย”

14 กันยายน 2015


580914ประยุทธ
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวเปิดงานเริ่มปฏิบัติการ (kick-off) มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย รวมวงเงิน 1.36 แสนล้านบาท

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2558 ที่เมืองทองธานี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการ “มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ” จำนวน 3 มาตรการ รวมวงเงิน 1.36 แสนล้านบาท ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 ให้ความเห็นชอบไปแล้ว ประกอบด้วย

  1. มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับหมู่บ้าน เพิ่มทุนแก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กองทุนหมู่บ้านฯ) ที่ได้รับการจัดชั้นเป็นกองทุนระดับ A และ B กองทุนละไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขห้ามนำไป Refinance หนี้เดิม กำหนดระยะเวลาชำระหนี้คืนภายใน 7 ปี โดย 2 ปีแรกให้เป็นช่วงเวลาปลอดดอกเบี้ย รวมวงเงิน 60,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับผิดชอบวงเงินธนาคารละ 30,000 ล้านบาท
  1. มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) จัดสรรงบประมาณให้ทุกตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท (ทั้งหมด 7,255 ตำบล) รวมวงเงิน 36,275 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนและจ้างงานในท้องถิ่น โดยต้องเบิกจ่ายเงินให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558
  1. มาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กทั่วประเทศ เร่งรัดผลักดันโครงการขนาดเล็กที่มีมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยให้ลงนามในสัญญาและเบิกจ่ายเงินภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ตนได้มาพบตัวแทนชุมชนทั่วประเทศ ถือว่าตนได้มาพบกับเจ้านายเพราะทุกคนคือผู้มีอำนาจตัวจริงในการทำให้บ้านเมืองนี้เจริญเติบโต ไม่ต้องทำเพื่อตนหรือรัฐบาล แต่ขอให้ทำเพื่อลูกหลานและครอบครัวของท่าน ขอให้มาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ ทำให้ประเทศชาติมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เรื่องเงินกองทุนหมู่บ้านฯ อย่าไปมองว่ารัฐบาลเอาเงินมาให้ใช้เฉยๆ เพราะถ้านำไปทำให้งอกเงย สุดท้ายแล้วผลดีก็จะกลับมาหาท่านเอง นี่คือเครื่องมือของรัฐบาลที่ให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม หากเกิดอุปสรรคใดขอให้แจ้งมายังตน

“รัฐบาลเห็นความสามารถของท่านในการบริหารจัดการกองทุน จึงใส่เงินเพิ่มไปให้ แต่ต้องไปช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรจะให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถ้าทำได้ดี เดี๋ยวก็ใส่เงินเข้าไปให้อีก ไม่ใช่ใส่ไปแล้วหาย หรือนำไปใช้หนี้” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้ง 3 มาตรการ ตนหวังว่าจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนวิธีประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน เพราะประเทศยังต้องการนำเงินไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น ไม่สามารถใส่เงินเพิ่มเข้าไปให้ได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ในอนาคตจะมีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการประกอบอาชีพ เช่น ข้อมูลเรื่องปริมาณน้ำฝน เพื่อให้ประชาชนได้ปรับตัวในการทำการเกษตร ทุกอย่างจะสามารถเปิดดูได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่มัวแต่ทำนารอฝนไปเรื่อย มันก็ไม่มีอนาคต ที่สำคัญจะต้องเพิ่มมูลค่าของผลิตผลทางการเกษตร เช่น หากส่งออกข้าวเป็นกระสอบไปก็สู้เขาไม่ได้ เพราะต้นทุนของเราสูงกว่าคู่แข่ง นอกจากนี้ยังต้องเร่งพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กและแหล่งน้ำชุมชน เพราะปีนี้น้ำฝนตกในเขื่อนน้อยกว่าปกติ เนื่องจากผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญที่ได้รับผลกระทบทั่วโลก