ThaiPublica > เกาะกระแส > เกาะกระแสการเมือง > “พล.อ. ประยุทธ์” ประชุม 3 คณะ คสช.-ครม.-รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ย้ำเปิดสัมปทานปิโตรเลียม เร่งแก้ปัญหาข้าว-ยาง โมโหเดือดคำถาม พ.ร.บ.ไซเบอร์ ตอบ “ทำไม่ได้ เป็นนายกฯ ทำไม”

“พล.อ. ประยุทธ์” ประชุม 3 คณะ คสช.-ครม.-รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ย้ำเปิดสัมปทานปิโตรเลียม เร่งแก้ปัญหาข้าว-ยาง โมโหเดือดคำถาม พ.ร.บ.ไซเบอร์ ตอบ “ทำไม่ได้ เป็นนายกฯ ทำไม”

20 มกราคม 2015


เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วม 2 คณะ และการประชุมคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจว่า มีการพูดคุยความคืบหน้าในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ทุกด้าน ติดตามมาตรการส่วนใดที่ล่าช้าอยู่ก็ให้เร่งดำเนินการ ส่วนรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจวงเล็ก ได้พิจารณาว่ารัฐบาลจะสร้างรายได้ให้กับประชาชนที่มีอาชีพแตกต่างกันอย่างไร วันนี้รัฐบาลดูแลในส่วนประชาชนที่ไม่ได้ทำการเกษตรในฤดูแล้งว่าจะมีการจ้างงานได้หรือไม่ และหาเม็ดเงินลงไปดูแล

พล.อ. ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีการเปิดสำรวจสัมปทานปิโตรเลี่ยมรอบที่ 21 ว่ายังคงอยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่ ณ ปัจจุบันยังมีบริษัทเข้าร่วมประมูลไม่มาก โดยพร้อมรับฟังข้อเสนอจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะข้อเสนอของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่เสนอให้ใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) ในการเปิดสัมปทาน ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ทำให้เกิดการคิดทบทวน ตรวจสอบการดำเนินงานให้ชัดเจน ส่วนจะเลือกแนวทางระบบไทยแลนด์ 3 พลัส หรือ ระบบพีเอสซี ยังคงต้องพิจารณาต่อไป และบริษัทที่เข้าร่วมประมูลนั้นสามารถเสนอแนวทางที่ตนต้องการได้เช่นกัน

“ผมฟังข้อมูลทุกฝ่าย วันนี้เรื่องสำรวจ สัมปทานเขาเปิดไปแล้ว โดยให้บริษัทที่สนใจสมัครเข้ามาและระบุมาว่าจะเลือกแนวทางไหน ระหว่างสัมปทานกับระบบแบ่งปันผลประโยชน์ (พีเอสซี) ขั้นตอนตรงนี้หากเขาเสนอมาก็ต้องใช้เวลาอีก 4-5 เดือน ไม่ใช่จะทำได้เลย”

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีการลงนามความร่วมมือโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วปานกลาง ไทย-จีน ที่จะมีการหารือร่วมกันกับคณะผู้แทนจากประเทศจีนในวันที่ 21 มกราคม 2558 ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายมีความเห็นตรงกันคาดว่าในเดือนกันยายน 2558 จะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ทันที

ทั้งนี้ตนได้เตรียมที่จะหารือกับประเทศญี่ปุ่นสำหรับการร่วมทุนก่อสร้างทางรถไฟเช่นเดียวกับกรณีของประเทศจีน ในการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งนอกจากเป็นเรื่องของการสร้างความเชื่อมโยงกับต่างประเทศแล้วยังเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วยเช่นกัน โดยโครงการก่อสร้างรางรถไฟรัฐบาลจะทำเป็นโครงการนำร่องในการลงทุนก่อสร้างทางรถไฟ 2 สาย ส่วนก่อสร้างในสายอื่นๆ ก็จะให้ภาคเอกชนเข้ามาทำการแข่งขันประกวดราคากันต่อไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงโครงการก่อสร้างทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สายสีน้ำเงิน ว่าจะมีการหารือให้ได้ข้อสรุปในเดือนกุมภาพันธ์ โดยย้ำว่าการก่อสร้างโครงการดังกล่าวนั้นไม่มีใครได้ประโยชน์ สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรจะให้สามารถเปิดใช้งานได้โดยเร็ว

สำหรับกรณีการบริหารจัดการสต็อกข้าวนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สิ่งสำคัญคือต้องบริหารจัดการโดยไม่ให้ส่งผลเสียต่อราคาตลาด ซึ่งจะมีการแบ่งขายให้กับผู้มีรายได้น้อยเป็นกรณีพิเศษ ส่วนกรณียางพารา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนได้สั่งการไปแล้วให้มีการนำยางส่วนหนึ่งไปสร้างถนน ซึ่งต้องพิจารณาเพิ่มเติมในประเด็นค่าใช้จ่าย และส่วนหนึ่งนำไปทำยางรถยนต์ และนำไปทำวัสดุในการสร้างสนามกีฬาให้กับโรงเรียนต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวน 5,000 ตัน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณยางในสต็อกโดยไม่กระทบราคาตลาด

ผู้สือข่าวถามถึงประเด็นที่ ครม. เห็นชอบหลักการ ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา โดยในหมวดอำนาจหน้าที่ ซึ่งบัญญัติว่านายกฯ ที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์มีอำนาจสั่งให้หน่วยงานเอกชนกระทำหรืองดเว้นการกระทำได้นั้นอาจเข้าข่ายการละเมิดสิทธิมนุษยชน พล.อ. ประยุทธ์ตอบว่า “เป็นการเข้าไปหาคณะกรรมาธิการ เพราะเราเป็นผู้เริ่มต้นแล้วคณะกรรมาธิการเข้ามาเสนอต่อ ครม. ทุกคนต้องรู้จักกติกาบ้าง รู้ว่าทำงานกันอย่างไร สิ่งที่ผมกลัวและเป็นห่วงคือทุกคนมัวแต่มองอย่างเดียวว่าจะถูกจำกัดสิทธิ วันนี้จำกัดสิทธิอะไรบ้างหรือยัง จำกัดอะไรบ้างหรือยัง”

ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า แต่ว่ามีการให้อำนาจหน้าที่เจ้าหน้าที่เข้าถึงข้อมูลทุกรูปแบบ พล.อ. ประยุทธ์ตอบอย่างมีอารมณ์ขึ้นมาทันทีว่า “แล้วเขาจบหรือยังล่ะ กฎหมายออกมาหรือยัง” เมื่อถามว่า ประเด็นคือทำไมถึงผ่านร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวได้ พล.อ. ประยุทธ์ ตอบว่า “ไม่ต้องมาทำไม ทำไมล่ะ จะผ่าน ทำไม เฮ้ย แล้วจะเป็นทำไมวะ นายกฯ จะเป็นทำไม” จากนั้นผู้สื่อข่าวคนอื่นพยายามจะถามประเด็นต่อ แต่ พล.อ. ประยุทธ์เดินเลี่ยงไปก่อนกล่าวว่า “ไม่เอา ไปแล้ว” พร้อมเดินไปบ่นเสียงดังว่า “อารมณ์เสียๆ” ก่อนเดินขึ้นห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า