ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – คนแห่ซื้อสุนัขบางแก้ว หลังกัดโจรบ้าน “ไชยา มิตรชัย” และ คลิปก่อนโศกนาฏกรรมเรือเซวอล

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – คนแห่ซื้อสุนัขบางแก้ว หลังกัดโจรบ้าน “ไชยา มิตรชัย” และ คลิปก่อนโศกนาฏกรรมเรือเซวอล

3 พฤษภาคม 2014


คนแห่ซื้อสุนัขบางแก้ว หลังกัดโจรบ้านไชยา มิตรชัย
กปปส. และ นปช. ต่างนัดชุมนุมใหญ่
เผยคลิปก่อนโศกนาฏกรรม บนเรือเซวอล เกาหลีใต้
มหากาพย์ สัมพันธ์ลับกนก ยังไม่จบ!!
ครูโรงเรียนบางมด ออกคลิปวิดีโอน่ารักๆ (อีกแล้ว)

ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากสุดในโซเชียลมีเดียในรอบสัปดาห์ 27 เม.ย.- 3 พ.ค. 2557

ประเด็นฮอตเรื่องแรก จากเหตุการณ์ที่โจรบุกบ้านพระเอกลิเกชื่อดัง “ไชยา มิตรชัย” เมื่อวันอังคารที่ 29 เมษายน 2557 ที่จังหวัดอ่างทอง แต่ไม่สามารถขโมยได้สำเร็จ เพราะเจ้าสุนัขแสนซื่อสัตย์พันธุ์บางแก้วที่ชื่อ “ใบตาล” อายุ 5 ปี เข้าทำการขัดขวางคนร้ายไว้

ในวันเกิดเหตุผู้ที่ดูแลบ้านของพระเอกลิเกชื่อดังเล่าว่า บ้านหลังดังกล่าว นางวงษ์เดือน สมบูรณ์ มารดาของไชยาเป็นผู้พักอาศัย ซึ่งในวันที่เกิดเหตุไม่มีผู้อยู่บ้าน แต่พอกลับเข้าบ้านก็พบรอยเลือดเป็นทางยาว และรองเท้าผ้าใบคู่ใหญ่หนึ่งคู่ ทางด้านเจ้าใบตาล สุนัขบางแก้วแสนรู้มีรอยเลือดชุ่มตัวและที่ใบหน้ามีบาดแผลจากของมีคม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าน่าจะมีคนร้ายประมาณ 2 คน และก็ได้เบาะแสของคนร้ายแล้ว จึงให้มีการตามติดเพื่อเข้าจับกุมต่อไป

ที่มาภาพ : http://www.matichon.co.thnews_detail.phpnewsid=1398750211
ที่มาภาพ: http://www.matichon.co.thnews_detail.phpnewsid=1398750211

ทางด้านพระเอกลิเก ไชยา มิตรชัย หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น ก็เดินทางกลับมาที่บ้านพร้อมสเต็กเนื้อชิ้นโต เพื่อเป็นรางวัลให้เจ้าใบตาลสุนัขแสนรู้ พร้อมกล่าวต่อสื่อว่า ที่บ้านเลี้ยงสุนัขไว้สองตัว คือใบตาลกับใบเตย แต่เมื่อ 3 วันก่อนเกิดเหตุขโมยขึ้นบ้าน ใบเตยถูกคนร้ายวางยาแล้ว จึงเกิดความกังวลว่าคนร้ายจะกลับมาแก้แค้นเจ้าใบตาล ซึ่งตอนนี้ก็ตั้งใจจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้วเพิ่ม เพื่อไว้คอยดูแลบ้านด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากบรรดาผู้รักสัตว์เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ประชาชนต่างพากันหาซื้อสุนัขพันธุ์บางแก้วมาเลี้ยงไว้กัน

“บ้านผมก็ทำฟาร์มบางแก้วครับ ขอแนะนำว่าหมาทุกพันธ์ดีเหมือนกันหมดครับและอยู่ที่คนเลี้ยงด้วยว่าฝึกหมาให้เป็นแบบไหน แต่ถ้าอยากได้หมาที่เป็นมิตร เลี้ยงหมาบ้านปกติก็ดีครับ ไม่ดุและรักเจ้าของไม่ต่างกัน เพียงแต่คนที่จะคิดเลี้ยงหมาบางแก้วควรมีเวลาให้มันเยอะๆ และหมั่นสอนมัน เพื่อให้มันรู้จักวินัย เพราะหมาบางแก้วเป็นหมาฉลาดไม่ต่างจากหมาพันธ์นอก ไม่ควรทำตามใจเกินไป มันจะคิดว่าคุณคือลูกน้อง ควรสอนให้มันรู้ว่าคุณคือจ่าฝูง เพราะหากคุณตามใจมันมากไป มันจะเสียหมาครับ ปล.หมาที่ดีไม่ใช่กัดคนเก่งอย่างเดียว แต่ต้องเป็นเพื่อนเฝ้าบ้านได้ ซึ่งเป็นหมาได้ทุกพันธ์ครับ”

“ขอชมเชย เจ้าใบตาล ที่เป็นสุนัข ที่ดูแลได้ดีมาก เก่งจริงๆ”

“สุนัขพันธ์บางแก้วเป็นสุนัขหวงถิ่น ใครแปลกหน้าเข้ามามันกัดเละ แต่ปัจจุบันพวกฟาร์มเพาะพันธ์ส่วนมากเอามาประกวดกลายเป็นหมาไม่ดุ ถ้าจะซื้อมาเฝ้าบ้านต้องไปซื้อกับคนพื้นบ้านที่เพาะขายถิ่นกำเนิดอยู่”

“ไม่ว่าจะเลี้ยงพันธ์อะไร ก็ขอให้เลี้ยงให้ตลอดจนเค้าแก่ตายนะคะ บางแก้วฉลาด และรักเจ้าของมากๆ คะ”

“จะเตือนว่าถ้าไม่รักหมาไม่รู้จักศึกษาหมาก่อนเลี้ยงแล้วอย่าเลี้ยงเลยถ้าจะเอาตามกระแส เพราะมันดุมากกับคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวปล่อยไว้ไม่ได้ ขนาดคนในบ้านเดียวกันที่แบบไม่ได้มาดูแลมันแต่เห็นกันมันยังกัดได้เลย พอเห็นมันดุแล้วก็จะแห่เอาไปทิ้งกัน นี่แหละที่น่ากลัวของคนไทยชอบเห่อหมา ดูจากหมาวัดเลยมาฝรั่งนี่เพียบ ไซบีเรียนที่ฮิตกันพักนึงยังมีเลย”

“อยากฝากเตือนคนที่จะเลี้ยงพันธุ์บางแก้ว ต้องมีความรัก และ รับผิดชอบมาก ๆ เพราะสุนัขพันธุ์นี้ดุมาก และ ฝึกยากพอดุ โดยเฉพาะบ้านไม่มีบริเวณ อาจทำให้มันหงุดหงิด ขี้โมโห … และหากไม่มีรั้วรอบขอบชิดหลุดไปกัดคนอื่นเรื่องใหญ่นะครับ โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ก่อนหามาเลี้ยงรบกวนศึกษาลักษณะนิสัย และ เลี้ยงให้ดีด้วยนะครับ ไม่ใช่อ่านจากข่าวว่าเฝ้าบ้านดีก็หามาเลี้ยง เกิดเรื่องขึ้นมาก็ไปลงที่สุนัขอีก สงสารมัน”

ประเด็นฮอตเรื่องที่สอง รอบสัปดาห์นี้ความเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นเรื่องการนัดชุมนุมใหญ่ของ 2 ฝั่งระหว่างกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) และ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่มีการประกาศนัดชุมนุมใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง โดยที่ทางด้าน นปช. จากเดิมที่มีการนัดชุมนุมในวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 ณ ถนนอักษะ แต่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเลื่อนการชุมนุมไปเป็นวันที่ 10 พฤษภาคม 2557 เพื่อลดการโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม เพราะวันที่ 5 พฤษภาคมเป็นวันฉัตรมงคล อีกทั้งยังยืนยันว่า นปช. เป็นคนไทยที่จงรักภักดี แต่กลับถูกใส่ร้ายจากฝ่ายตรงข้ามนำเรื่องสถาบันมาโจมตี

ที่มาภาพ : เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/suthep.fb/photos
ที่มาภาพ : เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/suthep.fb/photos

ทางด้านผู้ชุมนุม กปปส. นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ได้มีการรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนสวมใส่เสื้อเหลืองในวันที่ 5 พฤษภาคม และมารวมตัวกันที่สนามหลวง เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดี เนื่องในวันฉัตรมงคล พร้อมเชิญชวนให้ออกมาร่วมต่อสู้ชุมนุมใหญ่ครั้งสุดท้ายกับกลุ่ม กปปส. ในวันที่ 13-14 พฤษภาคม 2557 อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวทางการเมืองของทั้ง 2 กลุ่มเป็นที่จับตามองของประชาชนอย่างมาก เพราะแต่ละฝ่ายต่างตั้งความหวังต้องการให้ความสงบเกิดขึ้นกับบ้านเมือง ไม่ต้องการให้มีการเสียเลือดเสียเนื้อของผู้บริสุทธิ์อีก พร้อมทั้งต้องการให้มีการเดินหน้าเพื่อการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

“ถ้าทั้งสองม็อปถอยคนละก้าว พากันกลับบ้าน ไม่มาร่วมชุมนุม แล้วแกนนำคงไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากยอมเจรจา ทีนี้ประเทศไทยก็คงจะเดินหน้าไปได้ ในขณะความขัดแย้งก็ยังคงมีอยู่ แต่อยู่บนมาตรฐานของการยอมรับร่วมกัน”

“จบ สงบ และหาทางออกที่ดี ให้ประเทศกันซักทีเถอะ ขัดแย้งกันไป ไม่มีผลดีอะไรเลย มีแต่เจ็บ มีแต่เสีย ทั้งเงินและเวลาอันมีค่า ที่จะไปพัฒนาประเทศ”

“ชุมนุมยาวนาน ความน่าเชื่อถือของประเทศลดหาย นายกก็ไม่ได้รู้สึกตัวว่าควรทำอย่างไร ยังคงทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกตัวอยู่อย่างนั้น หลายคนพยายามที่จะหาทางออก แต่หลายคนก็ยังดื้อดึงต่อไป”

“ที่คนทั้งประเทศยังจนก็เพราะกลุ่มเผด็จการ ยังไม่ยอมรามือเพราะฉะนั้นคนเสื้อแดงต้องสู้ ต่อไปขอบอกพวกกลุ่มเผด็จการด้วยหรือพวกที่ใฝ่เผด็จการว่านับแต่นี้ต่อไปประชาชนเขาไม่ ยอมเป็นยังไงก็เป็นกันอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด หรือเผด็จการจะฆ่าผู้รักประชาธิปไตยให้ตาย หมดทั้งประเทศก็จะยอมตายตั้งแต่ปู่ย่าตาทวด ถูกกดขี่ข่มเหงมามากพอแล้วต่อไปนี้เป็นหน้า ที่โดยตรงของประชาชนทั้งหมดต้องทำการต่อ สู้ให้ใด้ชัยชนะโดยเด็ดขาดแล้วไม่ชนะไม่เลิกรา นอนให้ชาวโลกคอยดูก็แล้วกันตอนนี้เผด็จการ ดูถูกประชาชนมากเหลือเกินอย่าลืมนะการดูถูก เหยียดหยามมันยิ่งเท่ากับน้ำมันมาเสริมไฟให้แรงขึ้น”

“นั่งคำนึงถึงคำกล่าวของคุณย่าว่า จะเกิดการขัดแย้งอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก อดอยากถึงกับกินดิน แม้ผ้าก็ไม่มีเช็ดน้ำตา ต้องใช้หัวเข่าเช็ดน้ำตาแทน จะถอยหลังกลับมาแก้ตัว ก็สายเสียแล้ว ได้แต่พูดบ่น รู้อย่างนี้ อย่าทำ”

“หลายคนไม่เชื่อเรื่องกรรมเวร ซึ่งไม่รู้ว่าเวรกรรมคืออะไร ผู้ที่คิดแบบนี้เขาจะไม่เชื่อว่าวันพรุ่งนี้จะมีจริง”

ประเด็นฮอตเรื่องที่สาม ยังคงเป็นประเด็นที่ผู้คนให้ความสนใจ กับการล่มของเรือเซวอลที่เกาหลีใต้ เนื่องจากยังมีการค้นหายอดผู้สูญหาย และผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ล่าสุด เว็บไซต์เดลิเมลของประเทศอังกฤษ ได้ทำการเปิดเผยคลิปวิดีโอจากโทรศัพท์มือถือของนักเรียนที่อยู่บนเรือเซวอล ขณะบันทึกภาพช่วงเหตุการณ์ระทึก โดยตามรายงานข่าวต่างรายงานว่า จากหลักฐานบนมือถือและคลิปวิดีโอของเด็กๆ แสดงให้เห็นช่วงความวุ่นวาย เด็กๆ บางคนยังมองเป็นเรื่องสนุก มีการถ่ายภาพ เพื่อรออัพลงโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือแม้กระทั่งการสนทนาพูดคุยถึงเรื่องไททานิค และร้องเพลงประกอบภาพยนตร์อย่างอารมณ์ดี โดยไม่รู้ชะตาของตัวเองในอีกไม่กี่นาที จนมีเสียงของลูกเรือและกัปตันบอกให้ทุกคนอยู่ในความสงบ และเตรียมรับกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงสร้างความหวาดกลัวให้เด็กๆ จนเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของเกาหลีใต้ ในขณะนี้ ทั้งนี้สื่อต่างรวบรวมขอความ คำพูดที่เด็กๆ ได้กล่าวในคลิป ที่แปลเป็นภาษาไทยแล้ว มีดังนี้

“ฉันอยากออกไปจากที่นี่”
“นี่แกจะใส่ชูชีพทำไมเล่า บ้ารึเปล่า”
“เราไม่อยากตายนะ เราไม่อยากตาย”
“นี่คือภาพที่เราอยากจะบันทึกเป็นความทรงจำสุดท้าย”
“สนุกแฮะ เหมือนหนังเรื่องไททานิคเลย”
“โทรศัพท์ใช้ไม่ได้เลย”

รวมทั้งคำพูดที่สร้างความสะเทือนใจให้ผู้ที่ได้ยินข่าวเป็นจำนวนมาก กับข้อความที่เด็กผู้เคราะห์ร้าย กล่าวออกมาว่า “พ่อ แม่ ผมรักพ่อกับแม่นะ”

เหตุสะเทือนใจของเกาหลีใต้ก็ยังไม่จบ เมื่อล่าสุดได้มีรายงานข่าว เกิดเหตุรถไฟใต้ดินชนกันที่เกาหลีใต้ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 200 ราย ซึ่งผู้คนบนโลกออนไลน์ก็ได้ร่วมแสดงความเห็นใจ ความคิดเห็นต่อเหตุการณ์การสูญเสียกันอย่างมากมาย

ที่มาภาพ : http://s1.ibtimes.com/sites/www.ibtimes.com
ที่มาภาพ : http://s1.ibtimes.com/sites/www.ibtimes.com

“ขอให้การสูญเสียต่างๆ หมดลงเสียที ขอให้ไม่ต้องมีผู้จากไป ก่อนกาลอันควรอีกเลย”

“เด็กเขาไม่ได้นึกสนุกเลย เพียงแต่พวกเค้าคงกำลังงงๆ กับเหตุการณ์ ไม่นึกว่าจะเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ จนถึงกับต้องเสียชีวิตอย่างโหดร้าย เพราะถ้าใครรู้ถึงจุดจบตัวเองที่กำลังตามมาแล้ว คิดว่าคงไม่มีใครเกิดอารมณ์สนุกสนานหรอก”

“เด็กนักเรียนเขาไม่คิดว่าเรือจะล่มเพราะว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และเสียงลูกเรือก็ประกาศให้เขาอยู่กับที่ เด็กพวกนี้เขาเชื่อฟังคำสั่งเพราะว่าเขาถูกสอนให้เคารพกฏกติกาอย่างเคร่งครัด ที่ร้องเพลงไททานิคเพราะไม่มีใครคาดคิดว่าเรือจะจม จะเห็นได้ว่าพวกเด็กที่มีพนักงานหญิงช่วยแจกเสื้อชูชีพและปีนออกจากเรือนั้นรอดชีวิต ที่จริงการไปนอกสถานที่ของเด็กนักเรียนน้ันโรงเรียนน่าจะซักซ้อมกับครูที่เป็นหัวหน้าพาเด็กๆไปว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉินเด็กๆต้องฟังครูที่เป็นหัวหน้ากลุ่มเท่านั้น อย่างโรงเรียนของลูกเวลาพาเด็กไปทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมเขาจะแบ่งเด็กๆเป็นกลุ่มแล้วมีครูหัวหน้าและครูผู้ช่วยคอยดูแลเด็ก ถ้าเป็นเด็กประถมเขาจะขอให้ผู้ปกครองไปด้วยเพื่อช่วยดู นี่เด็กเป็นร้อยครูคงไม่พอที่จะดูแลเด็กหรือเปล่าพอเกิดเหตุเด็กเขาเลยไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไร เห็นข่าวนี้แล้วน้ำตาไหลทุกทีสงสารเขาที่ต้องตายอย่างทรมาน”

“ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคนไทย รับรองได้เลยว่าจะไม่ตายเยอะแบบนี้ เพราะคนไทย มักจะไม่ค่อยทำตามคำสั่ง ยิ่งเรือใกล้จมแล้วบอกให้อยู่นิ่งๆ ถ้าเป็นคนไทย รับรองได้เลยว่าต้องรีบวิ่งหนีออกจากตัวเรือเป็นอันดับแรก”

“ขอแสดงความเสียใจให้กับเด็ก เพราะเด็กยังไงก็ยังเป็นเด็กวุฒิภาวะไม่เท่าผู้ใหญ่”

“ถ้าประกาศให้คนอพยพ ใส่เสื้อชูชีพ ลงเรือยางตั้ง 40 กว่าลำ ต่อแถวมา ตั้งแต่แรก ก็จะไม่เกิดการเสียชีวิตมากมายแบบนี้ แต่นี้เรือยาง ไม่ได้ใช้สักลำ”

ประเด็นฮอตเรื่องที่สี่เรื่องราวต่อเนื่องที่ยังไม่คลี่คลายสำหรับกรณีการแฉความสัมพันธ์ลับของผู้ประกาศข่าวชื่อดัง”กนก”ที่มาพร้อมภาพหลุดเป็นหลักฐานมากมาย จนทำให้ทางผู้ประกาศข่าวชื่อดังต้องมีการประกาศพักงานของตัวเอง เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ต้องการสร้างความเสื่อมเสีย และเป็นเหตุที่มาจากกรณีทางการเมือง แต่แล้วก็ได้มีข่าวออกมาว่า มีผู้ใช้ อินสตาแกรมที่ชื่อว่า “Kanok3inches” อ้างตัวเป็นสาวนิรนามตามที่เคยเป็นข่าว โพสต์ข้อความขอโทษที่โจมตีพิธีกรชื่อดังด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังมีข้อความต่อไปนี้

“ดิฉันยอมรับว่าโพสต์รูปและข้อความโจมตีคุณกนก ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากภาวะสับสน และความกดดันทางด้านจิตใจ ทำให้หลงเชื่อข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เผยแพร่คุณกนก ทั้งภาพและเรื่องที่ทำให้เสื่อมเสีย ดิชั้นได้เข้าพบและพูดคุย กับคุณอดิศักดิ์หลายครั้ง และท่านได้ช่วย กรุณาไกล่เกลี่ย ดิฉันขอบคุณ คุณกนก ที่ไม่เอาความ ณ. ที่นี้”

เหมือนเรื่องราวจะจบ แต่แล้วก็มีข้อความจากผู้ใช้อินสตาแกรมที่ชื่อว่า “Kanok3inch” ซึ่งถ้าดูผ่านๆ ดูเหมือนชื่ออินสตาแกรมอันเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วตัวสะกดจะไม่เหมือนกัน โพสต์ข้อความโต้ตอบว่า อินสตาแกรมนี้ คือตนเองจริงๆ ที่ชื่อ เอ ตามที่เคยเป็นข่าว ทั้งยังยืนยันว่าไม่เคยขอโทษและไม่เคยเป็นโรคจิตตามที่ถูกกล่าวหา โดยมีข้อความดังต่อไปนี้

“อะไรกันคะเพจ kanok3inches เป็นใครคะ?? ดิฉันมีไอจีนี้ kanok3inch เพจเดียวนะคะ ไม่เคยทำเพจขอโทษใคร…..ถ้าจะขอโทษจะลงไอจีนี้เท่านั้น!! เข้าใจตรงกันนะคะ และสื่อทั้งหลายที่นำข้อความนั้นไปเผยแพร่ คิดได้ไงคะ? ได้ข่าวว่ามีคนตามแค่ 3 คน นำไปขึ้นเวปฯ ว่าเป็นเอ เอาหลักฐานมาจากไหนคะมีระบุตรงไหนว่าเป็นเอ เอเป็นโรคจิต? ประสานหลอน? หลักฐานอยู่ไหนคะที่กล่าวอ้าง

ล่าสุดที่ได้คุยกับทางผู้ใหญ่ในเนชั่นคือคุณกนกไม่ยอมรับทุกเรื่องราว เลยต้องให้กรรมการสอบสวนกันต่อ แต่ขอว่าอยากให้เห็นแก่ครอบครัวคุณกนกด้วย ขอโอกาสให้คุณกนกกลับมาทำงาน ขอให้เอเงียบไปก่อนและจะมีการลงโทษกันภายในให้แน่นอน..เอก็เดินทางกลับญี่ปุ่น ใช้เวลาอยู่กับลูก

อยู่ๆมีไอจีโผล่มาดราม่า แถมด่าตัวเองในเพจนั้นอีก คนบ้าโรคจิตยืนยันว่าคือคนที่ชอบแก้ผ้า…โชว์ คนที่ชอบเอาคลิปตัวเอง…….โชว์ คนที่ชอบ….โฟน คนประเภทนี้ป่วยค่ะ ป่วยทั้งภายนอกและภายใน แต่อาจจะยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองป่วย เชิญรับยาที่ช่อง 3 ค่ะ”

และอีกข้อความต่อมาว่า

“มีเรื่องกับคนที่มีอิทธิพลสื่อลำบากนะคะ นอกจากเอาดีใส่ตัว ใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามผ่านสื่อแล้ว ยังใช้สื่อฟอกตนเองให้สะอาด ดิฉันโดนกล่าวหาผ่านตัวหนังสือและคำพูดจากปากคนเล่าข่าว ผ่านรายการของตัวเองว่า ดิฉันเป็นคนโรคจิต รบกวนโชว์หลักฐานทางการแพทย์ หรือหลักฐานอื่นที่มีอาการทางจิตให้ดูด้วย จะมีแต่คำพูดลอยๆ คำกล่าวอ้างใส่ร้ายลอยๆ ไม่มีแม้แต่หลักฐานใดๆ ไม่ได้นะ จรรยาบรรณสื่อมีมั้ยคะ ขอเรียกร้องให้นายกนก เอาหลักฐานที่ว่าทั้งหมดออกมาแถลง”

เรื่องนี้ก็ยังมีผู้ติดตามให้ความสนใจกันมาก บางส่วนมองว่าอาจเป็นเรื่องของการสร้างเหตุการณ์เพื่อให้จบ อีกทั้งยังมีอีกหลากหลายความคิดเห็นที่ต่างกันไป

“คนที่ว่าฝ่ายหญิงอย่างโน้น อย่างนี้ ระวังเจอกับตัวเองหรือคนในครอบครัวระวังพูดกันไม่ออกนะคะ อีกอย่างเรื่องสื่ออย่าไปเชื่อมากนะคะมีวิจารณญาณให้ดีๆ ฟังความทั้งสองข้างด้วยสมองและสติปัญญานะคะ โซเชียลเนตเวิกก็สร้างเรื่องราวปั่นหัวโกหกได้ง่าย ส่วนสื่อโทรทัศน์หรือกระจายเสียงก็มีอิทธิพลมาก เชื่อฝังไหนไม่เชื่อฝังไหนอยู่ที่ระดับวิจารญณญาณนะคะ”

“กนก ก้อหาวิธีให้ตัวเองดูสะอาดก้อเท่านั้น ข่าวที่เอามาลงก้อนักข่าวพวกเดียวกัน ความจริงคือความจริง กนก ผู้หญิงเวลาแค้นน่ะมันน่ากลัวนะ”

“เรื่องนี้มีเบื้องหลัง กนกเอ๋ยเลิกใช้วิธีสกปรกเหอะคุณรับผิดชอบเค้าตามสัญญาที่ตะล่อมเพื่อจะล่อเขาแค่นี้ก็จบลูกผู้ชายหน่อยดิ”

“สังคมสมัยนี้ ทำไมแย่จัง ไม่เข้าใจคนเราคบกันยังไง อยากมีอะไรกันท่าเดียว”

“เราคุยกันเข้าใจแล้วค่ะ ทุกอย่างลงตัวด้วยดี หายสับสนและความกดดันคลี่คลายแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันสุมฟืน”

“ฝ่ายหญิงออกมาโพสขอโทษที่ทำให้เสื่อมเสีย เผยแพร่ทั้งภาพและคลิป แต่สังคมไทยตัดสินไปแล้วว่าฝ่ายหญิงผิด ถามจริงมีคำไหนทีเธอบอกสักคำไหมว่า ภาพตัดแต่ง คลิปปลอม คือจริงๆ ทั้งภาพทั้งคลิปล้วนเป็นกนกจริงๆ ทั้งหมด แยกแยะความจริงกันหน่อยสาวกทั้งหลาย กนกเองก็ควรจะเอ่ยปากขอโทษฝ่ายหญิงด้วย รวมทั้งขอโทษเมียคุณด้วย ทีคุณนอกใจไปมีอะไรกับหญิงอื่นจริงๆ ไม่ใช่ทำเนียน เขาออกมาขอโทษแล้วผมก็พ้นผิด จะพ้นได้ไง ทั้งภาพทั้งคลิปนะคุณจริงๆ แบบนี้เหรอจะปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปตัวเองกันก่อนไหมชาวไทยทั้งหลาย แยกระหว่างความชอบส่วนตัว ออกจากความผิดถุก ก่อนดีไหม”

“เรื่องกาม คนส่วนมากเห็นว่านี่คือความสุข แต่จริงๆ มันคือโทษ หากไม่อยู่ในกรอบของศีล ผมคบผู้หญิงพร้อมๆๆกันสามคน และมีอะไรกับสองคนไปแล้ว ซึ่งอีกคนก็เต็มใจให้ผมมีอะไรด้วย แต่เพราะผมศึกษาเรื่องศีล หัวใจของศีลคือความเมตตาต่อคนอื่น หากเราไปแอบมีอะไรกับลูกคนอื่นพ่อแม่ใคร ใครก็รักลูก ไม่มีคนไหนที่อยากให้ผู้ชายมาทำแบบนี้กับลูกสาวเขา ผมรู้เลยว่าแม่เขารักลูกเขา ผมถึงไม่กล้าทำผิดศีลข้อสามอีกเลย หากมีความต้องการก็ช่วยตัวเองไป ก็จบ ถึงแม้ผู้หญิงที่เรามีอะไรด้วยเขาจะเต็มใจ แต่ยังไงก็ผิด เพราะหากมีอะไรกัน ความผูกพันมันเกิด หากเราไม่ใส่ใจเธอ เธอก็เศร้าใจ เสียใจ คาดหวังว่าเราจะรักเธอ ที่พูดมาไม่ได้ยกตน ว่าตัวเองดี แต่ผมเชื่อเรื่องนรก บาปบุญ ผลแห่งกรรม เลยไม่กล้าทำชั่วแบบนี้อีก”

ประเด็นฮอตเรื่องที่ห้า คลิปน่ารักๆ ที่มีชื่อว่า “ครูยอนป๊อป รีบดูก่อนเปิดเทอม” เมื่อคุณครูจากโรงเรียนบางมด (ตันเปาว์วิทยาคาร) มีการจัดทำคลิปวิดีโอเต้นคัฟเวอร์ประกอบเพลงเลียบแบบศิลปินเกาหลี “Crayon Pop” เพื่อเป็นการรณรงค์ให้เด็กสวมหมวกกันน็อกและขับขี่อย่างปลอดภัย ต้อนรับวันเปิดเทอม โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกโพสต์ไว้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า“ครูนกเล็ก” จนมีผู้แชร์ต่อกันดูและแสดงความคิดเห็นถึงไอเดียน่ารักๆ ที่คุณครูต่างเต้นและแสดงออกมา เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งก็ได้ผลเพราะเด็กชาวออนไลน์ต่างดูคลิปวิดีโอดังกล่าว แชร์ และแสดงความคิดเห็นต่อกัน จนเป็นที่พูดถึงในสังคม

ที่มาภาพ : http://news.mthai.comhot-news326061.html
ที่มาภาพ: http://news.mthai.comhot-news326061.html

โดยก่อนหน้านี้ ครูโรงเรียนบางมดได้มีการจัดทำคลิปวิดีโอจนเป็นที่พูดถุงในโลกออนไลน์ไว้แล้วหลายเพลงด้วยกัน อาทิ คลิปขายสารส้ม และคลิปรวบรวมท่าเต้นเพลงในตำนานสมัยเด็กๆ ได้แก่ เพลงช้าง ช้าง , เพลงแมงมุมลายตัวนั้น, เพลงระบำชาวเกาะ, เพลงโอ้ทะเลแสนงาม, เพลงเป็ดอาบน้ำในคลอง, เพลงมดตัวน้อยตัวนิด, เพลงการ์ตูนโดราเอมอน และเพลงการ์ตูนเรื่องชินจังจอมแก่น เป็นต้น

“ดูแล้วชอบมากค่ะคุณครูทุกท่านทำใด้ดีมากมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ถ้าเป็นการโฆษนาขายของโรงเรียนเรื่องสารส้มทำใด้ดีมากๆ ค่ะเพราะเด็กในวัยนี้กลิ่นตัวจะแรงมาก”

“ครูที่ยอมทำทุกอย่าง แม้กระทั่งเต้นตลกๆ เพื่อรักษาชีวิตลูกศิษย์ แบบนี้สิครับถึงจะเป็นครูจากจิตวิญญาณ”

“ไม่มีอะไรที่ครูไทยทำไม่ได้ ถ้าทำเพื่อศิษย์แล้วทำได้ทุกอย่าง ไม่มีครูคนไหนไม่รักศิษย์ ปรารถนาดีต่อศิษย์ คนเราทุกคนไม่ว่าจะยากจนหรือร่ำรวยทุกคนต่างก็มีครูทั้งนั้น”

“น่ารักดีค่ะ แค่มีความคิดว่า อยากรณรงค์ให้คนสวมหมวกก็ดีอยู่แล้ว เอาคุณครูแก่ ๆ มาเต้น ดูแล้วคิดถึงคุณครูสมัยประถมจังค่ะ ลูกชายดูแล้ว หัวเราะชอบใจ บอกชอบมาก”

“คุณครูนี่ไอเดียสุดยอดมากๆ เลยคะ หาจุดสนใจของวัยรุ่นเพื่อให้เด็กได้ดู และยังสามารถได้ความรู้จากคลิปนี้ด้วย
ได้ทั้งความบันเทิงและความรู้ เยี่ยมคะ!!! ขอให้คลิปนี้ทะลุล้านวิวนะคะ คุณครูทุกท่านเต้นได้น่ารักมาก”

“ในสมัยนี้ผมกล้าพูดเลยครูน้อยคนที่จะมือทำและเป็นแบบอย่างที่ดีให้ศิษย์ มีเพียงคำพูดที่คอยกล่อมหูเด็กไปวันๆ ผมขอชื่นชมจากหัวใจเลยครับ มองแล้วผมอดที่จะคิดถึงคุณครูของผมไม่ได้ แต่เสียดายที่ปัจจุบันท่านไม่ได้อยู่ให้ผมได้พูดคุยเหมือนผมวัยเด็กอีกแล้ว“