ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – “ตามลบคลิปล้อเลียนประเด็นการเมือง” และ “ทีมนายกฯโพสต์”นครรัฐอิตาลี”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – “ตามลบคลิปล้อเลียนประเด็นการเมือง” และ “ทีมนายกฯโพสต์”นครรัฐอิตาลี”

14 กันยายน 2013


คลิปล้อเลียนประเด็นดัง ทั้ง “ท่านกำลังเข้าสู่บริการรัฐปรับค่าไฟ” และ “ภาษีคนโสด”

อั้ม เนโกะ ทวงเสรีภาพ (อีกแล้ว)

ไฟลุก ปีกเครื่องบินการบินไทย

ทีมนายกฯ ยิ่งลักษณ์ โพสต์ข้อความผิด ในการเยือน “นครรัฐอิตาลี” และชุดผ้าไหมด่างในการเยือนมิลาน

ช็อก!! ท่อน้ำประปาดื่มได้ สนิมเขรอะ
อ่านรายละเอียด ………….

ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากสุดในโซเชียลมีเดียในรอบสัปดาห์ 8-14 กันยายน 2556

เรื่องแรก จากกระแสและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการใช้สื่อโซเชียลหยอกล้อ และแซวประเด็นสังคมและการเมืองที่เกิดขึ้น ทั้งสินค้าขึ้นราคาและกรณีนักวิเคราะห์เสนอเก็บภาษีคนโสดทำให้สัปดาห์นี้ คลิปวิดีโอการล้อเลียนประเด็นดังกล่าว เป็นที่พูดถึงมาก

คลิปแรกที่มีผู้ให้ความสนใจเข้าชมกันมาก มีการดัดแปลงเนื้อเพลงมาจากเพลงลูกทุ่งชื่อดัง “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร” ของศิลปิน หญิงลี ศรีจุมพล คือเพลง “ท่านกำลังเข้าสู่บริการรัฐปรับค่าไฟ” โดยกลุ่ม DRZO ซึ่งมีผู้เข้าชมและแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก

โดยเนื้อหาของเพลง เป็นเรื่องราวเสียดสีการทำงานของรัฐบาลที่ทำให้สินค้าต่างๆ มีราคาสูงขึ้น ทั้งเรื่องอาหาร, ค่าไฟ, ค่าทางด่วน, ค่าแก๊ส ฯลฯ โดยหลังจากที่มีผู้ให้ความสนใจและแชร์ต่อกันมาก คลิปวิดีโอดังกล่าวก็ถูกไล่ลบออกจากเว็บไซต์ยูทูบไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีบางลิงค์ที่ยังสามารถดูได้ โดยเนื้อเพลงแปลงดังกล่าว มีดังนี้

“แว๊บเดียวแค่ดูก็ทำให้รู้ว่าเธอน่ะทำเพื่อใคร อยากบ่นเหลือเกินว่าคิดถึงกันบ้างไหม
หยุดแดกได้ไหมกลัวมันไม่ดีไม่งาม ฝ่ายค้านไม่ยอม ก็นำมาฟ้องทำเป็นไม่ดู เฉยเมย
จนเฮียชูขอมาเปิดเรื่องยาวแล้วเอ๋ย มาบอกกันเลยว่าค่าครองชีพบ่นหา
เฮียชูบ่นว่าสภาหรูชิบหาย แดก แดก แดก กันไม่พอ และตอนนี้จะได้ยินเพื่อไทยบอกว่า…
ท่านกำลังเข้าสู่บริการรัฐปรับ…ค่าไฟ LPG เราใช้ทุกวัน จัดไปอะไรกันนักหนา
ทางด่วนเราขึ้นแล้ววันนี้งดแลก เหรียญห้า ฝากไว้บอกพวกนักการเมืองของเธอ เลิกไฮโซ โอ๊ะ โอ โอย
ใจคงขาดหวิว บ้านเมืองถึกกินเพราะคนดี ๆ เบิดไป เสียงแรกของข้อยบ่จักสิใช้เลือกไผ
ให้แดกต่อไปจั่งซี้ไว้ก่อนล่ะดี ผลประโยชน์ไม่ลงตัวค้านชิบหาย แบบ แบบ แบบ ว่าไม่ยอม
แต่เบี้ยเลี้ยงให้ทุกคนพร้อมกันหมื่นห้า ท่านกำลังลบหลู่การทำงานของฝ่ายค้านไทย
ลงทะเบียนเอาไว้รับทรัพย์ต่อไป ลงตัวหมด งดค้าน ยอมจำนนมารับเงินฟรีเหมือนเร่ขายชาติ
อยากจะจับพวกนักโกงเมืองเหลือเกิน แดกพุงโต โอ๊ะ โอ โอย”

ที่มาภาพ : https://www.facebook.comjaytherabbitofficial
ที่มาภาพ: https://www.facebook.comjaytherabbitofficial

อีกประเด็นเรื่องภาษีคนโสด จนเฟซบุ๊กเพจยอดนิยมอย่างJaytherabbit ที่ชอบอัพเดทสเตตัสเด่นๆ โดนใจ ก็มีการแชร์คำคมในประเด็นนี้อย่างรวดเร็วว่า “ต้องรีบมีผัว เพราะกลัวภาษี” ทำให้มีผู้กดไลค์และแชร์กันอย่างมากมาย จนเกิดเป็นเพลงล้อเลียนโดนใจอย่างเพลง “ภาษีคนโสด” โดยศิลปิน PuugaO

และนอกจากนี้ ยังมีเพลง “เมียเอื้ออาทร” โดยศิลปิน เจริญ วัตรุจีกฤต ผลิตโดย บานาน่า เรคคอร์ด ซึ่งมีการแชร์เพลงนี้ต่อๆ กันเพื่อเชื่อมโยงเรื่องราวภาคต่อจากภาษีคนโสดจนเป็นเรื่องเดียวกัน โดยที่เพลงนี้แต่งขึ้นสมัยนโยบายเอื้ออาทร เพื่อให้เกิดความบันเทิง ให้แง่คิด และมองโลกในแง่บวก แก่ผู้ที่ยังไม่มีคู่ก็เท่านั้น

“คนโสดอย่างผมยกนิ้วให้เลยครับ ไอเดียดีมาก คนแต่งเพลงได้โดนใจ”

“ขึ้นค่าไฟ ค่าแก๊ส แต่กำลังจะลดภาษีพวกน้ำหอม สินค้าแบร์นด์เนม นำเข้า เอากับพี่เขาสิ”

“เป็นเพลงที่คนไทยต้องฟัง แล้วคิดตาม คิดใหม่ อย่าตกเป็นทาสเงิน”

“รัฐบาลยุคนี้ บอบบางมาก ถูกสะกิดอะไร รับไม่ได้เลยซักอย่าง ตามลบ ตามแก้ตัวตลอด”

“เพื่อป้องกันดราม่า ภาษีคนโสดเป็นเพียงแนวคิดของนัก วิชาการคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่แนวคิดนโยบายของรัฐบาล อย่าหลงประเด็นกันนะครับ”

“เครียดกันไปได้ ฮาจะตาย ไม่รู้จะไปปกป้องนักการเมืองกันทำไม เค้ารวยกว่าเราเยอะแยะ และเค้าไม่แคร์ใครจะว่าหรอก”

เรื่องที่สอง ยังเป็นประเด็นสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 “อั้ม เนโกะ” ที่เป็นเจ้าของความคิดของโปสเตอร์เครื่องแบบนักศึกษาอันล่อแหลม เพื่อต่อต้านการบังคับให้สวมชุดนักศึกษา โดยมีการนำเสนอภาพบุคคลในชุดนักศึกษาที่แสดงท่าทางประหนึ่งกำลังประกอบกิจกรรมทางเพศ และนำไปติดตามมุมต่างๆ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จึงเกิดเป็นเรื่องราวให้สังคมได้วิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้ง

อั้ม เนโกะ ได้มีการอธิบายต่อสื่อว่า อัตลักษณ์ของธรรมศาสตร์ก็คือการเคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ยืนหยัดกับประชาธิปไตย ไม่สนับสนุนอำนาจเผด็จการทุกรูปแบบโดยเฉพาะการรัฐประหาร หรือจมปลักอยู่กับชุดนักศึกษาและกีดกันแนวคิดอื่นๆ ทั้งที่ชุดนักศึกษาไม่ใช่สิ่งดั้งเดิม การติดเข็ม ติดตรา เห็นได้ชัดว่าเลียนแบบเครื่องแบบทหาร ซึ่งเราเป็นไม่กี่ประเทศในโลกที่บังคับให้ใส่ชุดนักศึกษา แม้ตัวเองไม่ได้บังคับ แต่แนวปฏิบัติการยังบังคับอยู่ดี

โปสเตอร์ ที่เป็นข่าว ที่มาภาพ : http://beta.truelife.comdetail2983207hilight
โปสเตอร์ ที่เป็นข่าว ที่มาภาพ: http://beta.truelife.comdetail2983207hilight

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็มีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมองว่าการกระทำเช่นนี้ทำให้มหาวิทยาลัยเสียชื่อเสียง และไม่ให้เกียรติสถาบัน โดยที่ทางฝั่งผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็ได้มีการโพสต์ภาพสองสาวในเครื่องแบบนักศึกษาที่เรียบร้อย ซึ่งชาวโซเชียลต่างบอกว่า หญิงสาวทั้ง 2 คนในภาพ คือ อาจารย์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งยังให้ความรู้สึกชื่นชมภาพดังกล่าว

“การใส่ชุดนักศึกษาไปเรียน มันไม่ใช่การบังคับน่ะ แต่มันคือการเตือนสติมากกว่าว่าเรากำลังอยู่ในฐานะอะไร หน้าที่ของเราคืออะไร อีกอย่างการใส่ชุดนักศึกษาก็เป็นการให้เกียรติทั้งตัวเราเองและสถาบันที่เราศึกษาอยู่ คุณควรจะภูมิใจด้วยซ้ำที่คุณมีโอกาสใส่ชุดนักศึกษา…. ยังมีอีกกี่คนที่เค้าอยากใส่แต่ไม่มีโอกาสเหมือนคุณ!! (สงสัย??อั้มจะไม่ได้ดู Hormones วัยว้าวุ่น ก็เลยไม่รู้ว่าทำไมเราควรใส่ชุดนักศึกษา)”

“เปิดใจตัวเองใหม่นะคะ คุณอั้ม คุณไม่เข้าใจแก่นของชุดนักศึกษา ว่าทำไมถึงต้องใส่ อย่ามาเอาความต้องการตัวเองเป็นที่ตั้งแล้วตีความว่าคือ ความเสรีภาพ เสรีภาพจริงๆ มันลึกซึ้งกว่านั้น”

“การไปอ้างเอาสิทธิเสรีภาพอุดมการณ์เลียบแบบรุ่นพี่ที่เค้าทุ่มเทเพื่อประชาธิปไตยในอดีต มันเทียบไม่ได้หรอกกับสิ่งที่คุณทำ ผมว่าคุณอยากดังมากกว่า มาอ้างอุดมการณ์ซะใหญ่โต ทำลายมหาวิทยาลัยอยู่ ไม่รู้เหรอไง”

“เด็กคนนี้ ไม่ไหวนะ ตรรกะแบบไหนกันนี่ แค่ให้เกียรติสถาบันที่สั่งสอนตัวเองมายังทำไม่ได้ ในชีวิตอย่าหวังจะได้รับเกียรติจากใคร”

“แต่ที่เห็นทันทีคือ คุณใช้เสรีภาพของคุณไปทำลายภาพลักษณ์ของนักศึกษาคนอื่น ที่เขากำลังสวมชุดนักศึกษา สร้างภาพให้เขาว่าคนเหล่านี้หมกมุ่นทางเพศ ใช้เสรีภาพของตัวเองไปทำลายสถาบัน”

“เห็นชุดที่เธอใส่ให้สัมภาษณ์แล้วก็พอจะเดาออกว่า เธอต้องการจะใส่ชุดแบบไหนเข้าไปนั่งเรียน”

เรื่องที่สาม จากกรณีเครื่องบินสายการบินไทย เที่ยวบินจากกวางโจ ประเทศจีน เกิดอุบัติเหตุขณะลงจอดที่ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ เลื่อนไถลออกรันเวย์จนเกิดไฟลุกเครื่องเสียหายและมีผู้บาดเจ็บ ซึ่งในเที่ยวบินดังกล่าว มีผู้โดยสารและลูกเรือเกือบ 300 คน รวมทั้งนักแสดงและบุคคลในวงสังคม อาทิ คณะของนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง, วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ ดาราช่อง 7, ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล และ นายโฆสิต สุวินิจจิต อดีตประธานสปริงนิวส์ รวมอยู่ด้วย

จนเป็นประเด็นให้ได้พูดถึงกันอยู่หลายวัน จนล่าสุดมีความสงสัยจากสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง อาทิ ซีเอ็นเอ็น เดลี่เมล รอยเตอร์ส เดอะการ์เดียน จนเป็นประเด็นข่าวเพิ่มเติมของภาพเหตุการณ์เครื่องบินตกรันเวย์ดังกล่าวว่า เหตุใดจึงมีการใช้สีดำปิดทับสัญลักษณ์โลโก้ของสายการบินไทยทั้งบริเวณลำตัวและเครื่องบิน

ที่มาภาพ : http://www.talkystory.comp=64438
ที่มาภาพ: http://www.talkystory.comp=64438

โดยที่นายสมรรถ พุ่มอ่อน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารภาวะฉุกเฉินและวิกฤติ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีการเปิดเผยต่อสื่อว่า การปิดบังโลโกสายการบินบนตัวเครื่องหลังจากเกิดอุบัติเหตุ เป็นคำแนะนำจากเครือข่ายพันธมิตรสายการบิน สตาร์อัลไลแอนซ์ (Star Alliance) ซึ่งรู้จักกันในชื่อ กฎการสื่อสารภาวะวิกฤติ (crisis communication rule) เพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของทั้งการบินไทย และสมาชิกอื่นๆ ในเครือสตาร์อัลไลแอนซ์ ซึ่งทางด้าน มาคัส รูดิเจอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ของสตาร์อัลไลแอนซ์ ก็กล่าวถึงกรณีการทาสีทับโลโก้ของเครื่องบินการบินไทยว่า ไม่เกี่ยวข้องกับกฎการจัดการวิกฤติของกลุ่ม และอาจเป็นการเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ไทยก็เป็นได้

“กัปตันตัวจริงที่ขับเครื่องบินลำนี้หายหัวไปไหน ทำไมไม่ยอมออกมาพูดขอโทษหรือชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้โดยสารได้ทราบถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ถ้ายังปิดปากเงียบอยู่อย่างนี้ก็ยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่ของกัปตันและลูกเรือเอง มันเป็นความจริงที่การบินไทยไม่ควรปิดบัง”

“ไม่มีความจริงเหลืออยู่ในประเทศไทย กรณีพ่นสีดำทับโลโกเครื่องบินการบินไทย สตาร์อัลไลแอนซ์ ชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ว่า ไม่ใช่วิธีปฏิบัติที่แนะนำ การบินไทยน่าจะเข้าใจผิด”

“ความตายขยับมาใกล้ตัวกันทุกวัน เดี๋ยวเครื่องบินมีปัญหา ถูกฟ้าผ่าตาย รถไฟตกราง รถเล็กชนกับรถใหญ่ เรือชนกัน ฯลฯ ท่านคิดถึงความตายวันละกี่ครั้ง เเล้วท่านทำประโยชน์ ทำดี อะไรบ้างในชีวิตนี้ ก่อนตาย ยังโกงกิน โลภ ชั่ว ไม่ลืมหูลืมตาหรือเปล่า”

“ช่วงเวลาขึ้นและลงเป็นช่วงเวลาที่อันตรายจริงๆ ไม่ชอบนั่งใกล้หน้าต่างเพราะไม่อยากเห็น โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรมาก ขอให้ผู้บาดเจ็บหายไวๆ ครับ”

“ต้องพิจารณาระบบตรวจสอบและระบบซ่อมบำรุงกันหน่อยละ”

“ยังไงก็การบินไทยครับ การบินของเรา ก็มีต่างชาติบ่นเหมือนกันว่า การบินไทยของเรา เอาใจแต่ คนชาติเดียวกัน จริงหรือปล่าว แต่เท่าที่ดูก็เห็นเท่าเทียมกัน ขออะไรก็ไห้ ไม่เห็นว่าไม่ได้อะไร ถ้าเขาไห้ได้ อุบัติเหตุเป็นเรื่องปกติครับคิดว่า ที่ไหนๆ ก็เกิดได้ ผมเดินทางบ่อย พยายามใช้การบินของเราตลอด ก็เคยเห็นมีบ้างที่พนักงาน อายุน้อยๆ กริยาไม่ดี แต่ว่าส่วนน้อยมากครับ รักคุณเท่าฟ้า”

เรื่องที่สี่ เกิดความผิดพลาดขึ้นในทีมงานนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนเป็นกระแสทอล์คเดอะทาวน์กันอีกแล้ว เมื่อทวิตเตอร์ของนายกฯ​ปู ที่ใช้ชื่อว่า @PouYingluck เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 12 กันยายน 2556 มีการโพสต์ข้อความและแชร์รูปภาพจากอินสตาแกรม @pouyingluck_shin และข้อความว่า “ในการเยือนนครรัฐอิตาลีครั้งนี้ ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส…” จนเกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

จนวันถัดมา ทีมงานของนายกรัฐมนตรีก็ได้มีการโพสต์ข้อความขออภัย และกล่าวขอโทษในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น จากคำที่โพสต์ผิดว่า “นครรัฐวาติกัน” เป็น “นครรัฐอิตาลี” ทั้งยังย้ำว่าเป็นความผิดพลาดของทีมงาน และขออภัยมา ณ ที่นี้

ที่มาภาพ : http://www.oknation.netbloghardcorelawyer20130913entry-1
ที่มาภาพ: http://www.oknation.netbloghardcorelawyer20130913entry-1

นอกจากนี้ ยังมีกระแสการแต่งกายของนายก ระหว่างการเดินทางไปเยือนเมืองมิลาน ประเทศอิตาลีอีก เนื่องจากชุดที่นายกสวมเป็นชุดผ้าไหมสีเขียวมีรอยด่างบริเวณกระเป๋าและแขนเสื้อ ทั้งยังมีข้อความที่โพสต์ในเฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อ Yingluck Shinawatra ว่า “ตอนนี้เดินทางถึงนครมิลาน มีโอกาสใส่เสื้อที่ตัดมาจากผ้าไหมของศูนย์ศิลปาชีพ ที่โดนน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ทำให้ผ้าสีอื่นตกใส่จนเกิดเป็นลายผ้าแบบใหม่ที่ใส่มาในวันนี้ค่ะ”

จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เพิ่มเติม เนื่องจากในการเดินทางเยือนต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีควรมีการแต่งกายที่ดูดีและเป็นภาพลักษณ์ให้ประเทศ แต่การแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีรอยด่างขนาดนั้น เป็นการทำให้ภาพพจน์ดูไม่ดี และยิ่งเป็นการสวมด้วยผ้าไหมไทยจากศูนย์ศิลปาชีพอีกด้วย

“ถ้าใส่ชุดสูท ตกสี ไปในงานที่ไม่เป็นทางการ พอรับได้ครับ แต่นี้ เป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศ อย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้นำไทย ก็ควรจะแต่งกายให้มันเหมาะสมมากกว่านี้นะครับ นายกฯ ไม่ได้เป็นดีไซเนอร์ แล้วจะรู้ได้ไง ว่าสูทผ้าไหมตกสี จะเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ระวังนะครับ พวกฝรั่งมันจะแอบหัวเราะ ลับหลัง”

“ถ้านายกฯ ต้องการจะสื่อถึงความประหยัด การเสียดายผ้าไหมดีๆ ถ้าไหนๆ นายกฯต้องการจะสื่อเรื่องการประหยัด ความคุ้มค่า นายกฯ ก็ควรจะทำตัว เป็นตัวอย่างเรื่องอื่นๆด้วย เช่นค่าใช้จ่ายในการเดินทางแต่ละครั้ง ควรจะประหยัดให้มากกว่านี้ ได้ข่าวบินแต่ละเที่ยว ใช้เงินเป็น สิบล้านบาท รวมๆกันแล้ว เป็นเงินหลายร้อยล้านบาทเข้าไปแล้ว”

“อันนี้อยู่ที่มุมมอง ของแต่ละคนละจะว่าดีก็ดี จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี”

“การจะเป็นผู้นำประเทศ ไม่ใช่มีเพียงแค่ วาสนาดีแล้วได้เป็น มันมีมากกว่านั้น การจะเป็นผู้นำประเทศได้ มันต้องมีความสามารถ และ มีความรู้ด้วย และ ข้อสำคัญต้องมีวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำ มีความกล้าหาญ และมีความรับผิดชอบด้วย ไม่ใช่ เอาแต่หนีเที่ยว ลอยตัวหนีปัญหา มีแต่โยนบาปให้คนอื่นเป็นแพะ รับผิดแทนทุกเรื่อง”

“อาจจะเป็นการพิมแบบออโต้ แล้วเลือกข้อความเองก็ได้ คนเราเองก็พิมผิดเพราะระบบออโต้กันบ่อยๆนะ”

“ปล่อยไก่ เต็มประเทศเลยจ้า”

เรื่องที่ห้า ในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพท่อน้ำประปาขนาดใหญ่มีสนิมขึ้นเปรอะทั้งท่อ โดยระบุว่าเป็นภาพที่ถ่ายขณะไปดูการซ่อมท่อน้ำประปา จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และกระแสความกลัวตามมาว่า น้ำประปาของไทยสะอาดและดื่มกินได้จริงหรือไม่

ที่มาภาพ : http://www.naewna.comlocal68271
ที่มาภาพ: http://www.naewna.comlocal68271

โดยที่นายวิวัฒน์ชัย รัตน์รัตน์ ผู้ช่วยผู้ว่า การประปานครหลวง มีการออกมายืนยันต่อสื่อว่า ท่อประปาสนิมตามภาพได้ถูกยกเลิกใช้งานไปนานแล้ว พร้อมยืนยันคุณภาพน้ำได้มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก อีกทั้งทางด้านเฟซบุ๊กของ “MWA Clean Water Clinic คลินิกน้ำสะอาด การประปานครหลวง” ก็ได้โพสต์ชี้แจงรายละเอียดดังกล่าวด้วยว่า

“จากการที่มีผู้โพสน์ภาพท่อขนาดใหญ่ที่ข้างในมีสนิมจำนวนมาก บน social Network นั้น ทางคลินิกน้ำสะอาดจึงขอเรียนชี้แจง ดังนี้

ท่อดังกล่าวที่แสดงอยู่ในภาพ น่าจะเป็นท่อที่ทำมาจากเหล็กซึ่งหมดอายุการใช้งานแล้ว ที่ผ่านมาการประปานครหลวงมีโครงการเปลี่ยนท่อที่เป็นท่อเหล็กและใช้งานมานาน โดยขณะนี้ดำเนินการเปลี่ยนไปเกือบทั้งหมดแล้ว จากรายงานประจำปี 2555 เหลือเป็นท่อจ่ายน้ำ 281.294 กม. ซึ่งน้อยกว่า 1%

สำหรับคุณภาพน้ำ การประปานครหลวงมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำตามค่าแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยมีการตรวจคุณภาพน้ำ ทั้งในแหล่งนำดิบที่ใช้ในในการผลิต โรงงานผลิตน้ำ ระบบท่อจ่ายน้ำ รวมถึงบ้านผู้ใช้น้ำ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ และจากผลการตรวจวิเคราะห์ พบว่า น้ำมีคุณภาพได้ตามเกณฑ์แนะนำองค์การอนามัยโลก ถ้าหากน้ำมีคุณภาพผิดปกติก็จะดำเนินการแก้ไขในทันที จึงขอให้ท่านผู้ใช้น้ำมั่นใจในคุณภาพน้ำของการประปานครหลวงได้ค่ะ”

“ท่อน้ำ ไม่ว่าจะเป็นท่อเหล็ก Pvc ก็มีทั้งตะกอน ตะไคร่ สนิม อยู่แล้ว ที่สะอาด กินได้นะ ต้องที่โรงกรอง ก่อนส่งตะหาก ”

“ยังไม่เคยเห็นมีเจ้าหน้าที่จากการประปานครหลวงมาสุ่มตรวจคุณภาพน้ำตามบ้านที่อยู่อาศัยเลย ที่กล่าวอ้างว่าน้ำประปาสะอาดใช้ดื่มกินได้นั้น คงเป็นมาตรฐานก่อนจ่ายออกจากโรงงานผลิตเท่านั้น เมื่อไหลผ่านท่อส่งแล้วตัวใครตัวมัน เคยเจอไหมตอนเช้ารองน้ำจากก๊อกเพื่อแปรงฟัน เจอน้ำขุ่นออกสีโคลนแทบอ๊วก”

“อย่าตรวจแต่ แหล่งน้ำอย่างเดียวครับ ให้มาตรวจตามปลายน้ำด้วย แล้วจะรู้ว่า มันดื่มไม่ได้จริง ๆ และที่สำคัญ ต้อนนี้เอามาใช้แทบจะไม่ได้ด้วยซ้ำ ขนาดอาบน้ำยังคันเลย”

“แต่ เห็นภาพแล้วสยองอ่ะ ไม่กล้าเลยคะ”

“น้ำประปาดื่มได้ครับ สักแก้วมั้ย แต่ต้องผ่านเครื่องกรองนะ”

“ถ้าดื่มได้จริง แล้วสภา จะซื้อเครื่องกรองน้ำราคาตั้งแพงทำไม ไม่ลองกินให้ประชาชนดูก่อนละ”