ป.ป.ช. เตรียมพิจารณาอายัดทรัพย์ “สาธิต รังคสิริ” อดีตอธิบดีกรมสรรพากร 25 มิ.ย.นี้ เจ้าตัวยันไม่เคยมีทองคำ มูลค่า 600 ล้าน พร้อมชี้แจง – ด้าน รมว.คลัง ชี้เป็นการขยายผลสอบสวนของ ป.ป.ช.เอง

จากกรณีที่สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มูลค่า 4.3 พันล้านบาทซึ่งมีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นประธาน ได้มีมติอายัดทรัพย์สินทองคำมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ซึ่งอ้างว่าเป็นของนายสาธิต รังคสิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีนี้ หลังพบว่าไม่ได้แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.
นายสาธิต ชี้แจงว่า ทาง ป.ป.ช.ยังไม่แจ้งมาเลยว่ามีการอายัดทรัพย์สินของตนหรือไม่ ดังนั้นจะสอบถามไปยัง ป.ป.ช. เพราะการออกข่าวแบบนี้ทำให้ตนเสียหาย เมื่อสอบถามแล้วได้คำตอบอย่างไรกลับมาตนก็พร้อมจะชี้แจงต่อสาธารณชน แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ครอบครองทองคำมูลค่ากว่า 600 ล้านบาทตามที่เป็นข่าว การที่ ป.ป.ช.กล่าวหาตนเช่นนี้ไม่แฟร์ เพราะคดีทุจริตขอคืน VAT ตนเป็นคนสั่งปราบ ล่อซื้อ และจับกุมผู้ถูกกล่าวหาเอง หากตนต้องมาถูก ป.ป.ช.เล่นงานอีก ต่อไปก็คงไม่มีใครกล้าทำอะไรเลย
นายภักดี กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการไต่สวน จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามีการอายัดทรัพย์สินบุคคลใดหรือไม่ เพราะต้องรอให้ผลการไต่สวนถึงที่สุดและมีการชี้มูลความผิดก่อน ทั้งนี้ คาดว่าคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ จะเสนอเรื่องให้ที่ประชุม ป.ป.ช.พิจารณาลงมติว่าจะชี้มูลความผิดได้หรือไม่ ในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม นายวิชา มหาคุณ กรรมการและโฆษก ป.ป.ช. เปิดเผยว่า คาดว่าจะมีการนำเรื่องขออายัดทรัพย์สินของนายสาธิตเข้าพิจารณาในที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่วันที่ 25 มิถุนายน 2558 เป็นวาระจร เพราะการจะอายัดทรัพย์ผู้ถูกกล่าวหารายใด จะต้องใช้เป็นมติของที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2558 ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติอายัดทรัพย์สินข้าราชการระดับ 9 ของกรมสรรพากรที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตขอคืน VAT ไปแล้ว 2 ราย รวมเป็นมูลค่ากว่า 19 ล้านบาท ได้แก่ นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ อดีตนักวิชาการสรรพากรชำนาญพิเศษ สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 27 กรมสรรพากร และนายศุภกิจ ริยะการ หรือสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสรรพากรพื้นที่กรุงเทพฯ 22 (บางรัก)
ด้านนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจากสื่อมวลชน คดีนี้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และเมื่อตนเข้ามารับตำแหน่งแล้ว ปลัดกระทรวงการคลังได้นำสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงมารายงานให้รับทราบ ขณะนั้นไม่พบว่ามีบุคคลระดับอดีตอธิบดีคนใดเกี่ยวข้อง ต่อมาทางกระทรวงการคลังได้ส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบต่อ จึงน่าจะเป็นเรื่องที่หน่วยงานเหล่านั้นขยายผลเพิ่มเติมเอง ขณะนี้คงต้องผลการพิจารณาของป.ป.ช.

“เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2558 ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงการคลัง ซึ่งมีตนเป็นประธานฯ ได้มีมติ “ไล่ออก” ข้าราชการกรมสรรพากรที่เกี่ยวข้องคดีทุจริตขอคืน VAT อีก 2 ราย คือนายป้อมเพชร วิทยารักษ์ นักวิชาการเชี่ยวชาญ สำนักงานสรรพากรภาค 7 และ นายพายุ สุขสดเขียว สรรพากรพื้นที่ปัตตานี โดยไม่ได้รับเงินบำเหน็จบำนาญ” นายสมหมาย กล่าว
นอกจากนี้อ.ก.พ.กระทรวงการคลัง ยังมีมติ”ให้ออก” ข้าราชการกรมสรรพากรระดับ 9 อีก 1 ราย คือ นายกู้ศักดิ์ จันทราช สรรพากรพื้นที่สมุทรสาคร แต่ยังคงได้รับเงินบำเหน็จบำนาญ ส่วนนายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ(นายศุภกิจ ริยะการ) อ.ก.พ.มีมติ “ไล่ออก”จากราชการเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2558
นายสมหมาย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากรมสรรพากรตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ข้าราชการกรมสรรพากรที่ไปเกี่ยวข้องกับคดีทุตริตของคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 18 คน เสียชีวิต 1 ราย กรมสรรพากรส่งรายชื่อให้อ.ก.พ.ลงโทษ โดยตัดสินไล่ออก 2 ราย ให้ออกอีก 1 ราย ที่เหลืออีก 14 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนความผิดทางวินัยร้ายแรง
ทั้งนี้ นายสาธิต อยู่ระหว่างถูกสั่งพักราชการ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 มาตรา 44