ในปีที่ผ่านมา ผู้บริหารทั่วโลกต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนทางเศรษฐกิจ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน (supply chain disruption) และการขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถ ฯลฯ แม้จะเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เหล่านี้ แต่ผู้บริหารระดับ CxO ยังให้ความสำคัญกับประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นอันดับต้นๆ ในองค์กรของตน ถึงแม้ว่า CxO ส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสำรวจ มีวิสัยทัศน์เป็นไปในทางเดียวกันว่าเศรษฐกิจทั่วโลกสมารถเติบโตได้เป็นอย่างดี และในขณะเดียวกันก็สามารถบรรลุเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ แต่การดำเนินการและผลจากการดำเนินการไม่เชื่อมโยงกัน เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ ยังคงล่าช้าในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จะปลูกฝังแนวคิดความยั่งยืนในการวางกลยุทธ์ การดำเนินงาน และวัฒนธรรมขององค์กร
เมื่อให้จัดอันดับประเด็นที่เร่งด่วนที่สุดสำหรับองค์กรของพวกเขา CxO หลายคนจัดอันดับให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่ในกลุ่ม “สามอันดับแรก”
CxO มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ยังมีความเห็นในทางที่ดีในเรื่องการดำเนินการจัดการด้านสภาพอากาศ
บริษัทต่างๆ รู้สึกกดดันอย่างมากที่จะต้องดำเนินการกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตั้งแต่คณะกรรมการ/ฝ่ายบริหาร ลูกค้า ไปจนถึงกลุ่มพนักงาน
ดังที่เห็นในปีที่ผ่านมา ในขณะที่บริษัทต่างๆ มีการดำเนินการในด้านนี้ แต่ยังไม่ใช่การดำเนินการที่แสดงถึงการปลูกฝังการคำนึงถึงด้านสภาพอากาศไว้ในวัฒนธรรมองค์กร และการมีผู้นำอาวุโสที่มองเห็นความสำคัญและผลักดันสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย
รายงานของดีลอยท์สำรวจเพิ่มเติมในเรื่อง ความต้องการและเป้าหมาย การลงมือปฏิบัติ และผลกระทบ ที่ไม่สอดคล้องกัน ตลอดจนขั้นตอนที่ CxO สามารถดำเนินการให้แต่ละส่วนสอดคล้องกันและเร่งให้เกิดดำเนินการไปสู่การเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจสีเขียว
*การเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม เป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าผลประโยชน์มากมายจากการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจสีเขียวจะได้รับการแบ่งปันอย่างกว้างขวาง ในขณะเดียวกันก็ยังสนับสนุนผู้ที่ต้องสูญเสียผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นระดับประเทศ ภูมิภาค อุตสาหกรรม ชุมชน คนงาน หรือผู้บริโภค
[pdf-embedder url=”https://thaipublica.org/wp-content/uploads/2023/02/Deloitte-2023-CXO-Sustainability-Report-2023.pdf” title=”Deloitte 2023- CXO Sustainability Report 2023″]