จีนและมาเลเซียจะยืนหยัดร่วมกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเพื่อต่อต้านคลื่นใต้น้ำของการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์และการเผชิญหน้ากันของกลุ่ม ซึ่งเป็นความพยายามร่วมกันเพื่อก้าวข้ามกระแสของนโยบายฝ่ายเดียวและการกีดกันทางการค้า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนกล่าวในระหว่างการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ
ประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง เดินทางถึงมาเลเซียแล้วในวันที่ 15 เมษายน ตามคำเชิญของสุลต่านอิบราฮิม กษัตริย์แห่งมาเลเซีย เพื่อเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 วัน
สายการบินแอร์ไชน่าซึ่งประธานาธิบดีจีนใช้เดินทาง ได้ลงจอดที่อาคารบุงการายา ในสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 15 เมษายน
นายกรัฐมนตรีดาโต๊ะ สรี อันวาร์ อิบราฮิม พร้อมด้วยรัฐมนตรีต่างประเทศดาโต๊ะ สรี โมโฮมัด ฮาซัน รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม แอนโธนี โลค รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม และโอวหยาง อวี่จิง เอกอัครราชทูตจีนประจำมาเลเซีย เข้าร่วมต้อนรับคณะของสี จิ้นผิง
เมื่อเดินทางมาถึง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศซึ่งประกอบด้วยนายทหารและเจ้าหน้าที่ 28 นายจากกองพันที่ 1 กองทัพบก(First Battalion Royal Ranger Regiment) (ฝ่ายพิธีการ) จากนั้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยการแสดงทางวัฒนธรรมที่ผสมผสานจังหวะกลองมาเลย์ จีน และอินเดีย โดยสถาบัน Ariunasukma Academy จาก กมบะก์(Gombak อำเภอในสะลังงอร์) และวงโยธวาทิตสมาชิก 32 คนจาก ยังได้เล่นเพลง “Lenggang Kangkung”(เพลงพื้นบ้านมาเลเซีย) อีกด้วย
“เราจะร่วมกันปกป้องอนาคตที่สดใสของมาตุภูมิเอเชียของเรา” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวในงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการ ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่นายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะ เสรี อันวาร์ อิบราฮิม จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนที่มาเยือนมาเลเซีย
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวว่าเขาและอันวาร์ได้หารือกันอย่างเป็นกันเองและได้บรรลุฉันทามติสำคัญหลายประการเกี่ยวกับการกระชับความร่วมมือระหว่างสองประเทศในภาคส่วนต่างๆ
“เมื่อเผชิญกับความท้าทายในปัจจุบันที่มีต่อระเบียบโลกและโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ ประเทศของเราทั้งสอง พร้อมด้วยประเทศต่างๆในภูมิภาค จะร่วมกันต่อต้านกระแสคลื่นใต้น้ำการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์และการเผชิญหน้ากันของกลุ่ม และก้าวข้ามกระแสของนโยบายฝ่ายเดียวและการกีดกันทางการค้า” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าว
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวอีกว่า มิตรภาพระหว่างจีนและมาเลเซียสอดคล้องกับกระแสประวัติศาสตร์และมีอนาคตที่สดใส
ความสัมพันธ์จีน-มาเลเซียก้าวเข้าสู่ยุคทองรอบใหม่
การเยือนมาเลเซียของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงครั้งนี้ ท่ามกลางภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ที่ท้าทายในปัจจุบัน นับเป็นการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการครั้งที่ 2 ของสี จิ้นผิง ในรอบ 12 ปี ตั้งแต่การเยือนครั้งล่าสุดในปี 2556
“ในปี 2566 นายกรัฐมนตรีอันวาร์และผมได้ประกาศร่วมกันถึงการสร้างประชาคมจีน-มาเลเซียที่มีอนาคตร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการเปิดบทใหม่ในความสัมพันธ์ทวิภาคีของเรา
“จีนหวังที่จะทำงานร่วมกับมาเลเซียเพื่อสร้างประชาคมจีน-มาเลเซียที่มีคุณภาพสูงและมียุทธศาสตร์พร้อมอนาคตร่วมกัน ซึ่งจะนำไปสู่ ‘ความสัมพันธ์ทวิภาคียุคทอง 50 ปีรอบใหม่'” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าว
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวว่า ความร่วมมือที่แข็งแกร่งขึ้นนี้จะสนับสนุนความพยายามในการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยของทั้งสองประเทศ เป็นแบบอย่างของความสามัคคีและความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา และมีส่วนสนับสนุนสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
“จีนและมาเลเซียแค่มีทะเลกางกั้น ดังสุภาษิตของมาเลเซียที่ว่า ‘ด้วยความขยันหมั่นเพียรและอดทน ภูเขาทั้งลูกก็สร้างขึ้นได้’ ตลอดเวลา 50 กว่าปีนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และด้วยความพยายามร่วมกันของเรา ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและมาเลเซียยังคงแข็งแกร่งดุจหินและยังคงแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าว
‘เราเป็นเพื่อนและหุ้นส่วนที่ใกล้ชิด ทางการเมือง เราเคารพและไว้ใจกัน ทางเศรษฐกิจ เรามีความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อกัน ทางวัฒนธรรม เราเรียนรู้และเสริมสร้างกำลังใจให้กันและกัน ผมขอให้มาเลเซียมีความเจริญรุ่งเรืองต่อไป และประชาชนมีความสุขและความเป็นอยู่ที่ดี ขอให้มิตรภาพระหว่างจีนและมาเลเซียคงอยู่ตลอดไป” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวเน้นย้ำ
มาเลเซียและจีนวิสัยทัศน์ชัดเจนในเรื่องผลประโยชน์
ด้านนายกรัฐมนตรีดาโต๊ะ สรี อันวาร์ อิบราฮิม กล่าวว่า นโยบายต่างประเทศของมาเลเซียและจีนนั้นถูกกำหนดโดย วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ รวมถึงความเป็นแกนกลางของอาเซียน
นายอันวาร์กล่าวว่า มาเลเซียจะยังคงเป็นเพื่อนที่มั่นคงและมีหลักการของจีน ด้วยภูมิปัญญาแห่งประวัติศาสตร์และคำมั่นสัญญาถึงอนาคตร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศ
“จีนเป็นพันธมิตรที่มีเหตุผล แข็งแกร่ง และเชื่อถือได้ มาเลเซียให้ความสำคัญกับความสม่ำเสมอนี้”
“ขอให้มิตรภาพระหว่างมาเลเซียและจีนคงอยู่ตลอดไป ลึกดั่งท้องทะเล มั่นคงดั่งดวงดาว และสว่างไสวด้วยคำมั่นสัญญาแห่งวันพรุ่งนี้” นายอันวาร์กล่าว
นายอันวาร์กล่าวว่า มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนในปีนี้ หวังว่าจะได้ต้อนรับจีนในการประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม
นายอันวาร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วย กล่าวว่า มิตรภาพระหว่างมาเลเซียและจีนยังคงมั่นคงและแน่วแน่ และต่อเนื่องผ่านการเจรจาและตอกย้ำผ่านการดำเนินการเพื่อสันติภาพและความมั่งคั่งของทั้งสองประเทศ
“มาเลเซียและจีนยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กันมายาวนานทั้งในช่วงเวลาแห่งชัยชนะและช่วงเวลาแห่งการทดสอบ ไม่เพียงแต่ในฐานะหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนที่มั่นคงอีกด้วย การเยือนครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันความสัมพันธ์ที่ก่อตั้งขึ้นจากความเคารพ เสริมสร้างด้วยประวัติศาสตร์ และดำรงอยู่ด้วยจุดมุ่งหมายร่วมกัน” นายอันวาร์กล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความคิดริเริ่มระดับโลกของจีนได้ให้ความหวังใหม่ในช่วงเวลาที่ระบบพหุภาคีอยู่ภายใต้ความตึงเครียดอย่างมหาศาล
“เมื่อประเทศบางประเทศละทิ้งหลักการความรับผิดชอบร่วมกัน และบางประเทศตั้งคำถามถึงความมุ่งมั่นที่มีมายาวนาน ความคิดริเริ่มระดับโลกของจีนก็ให้ความหวังใหม่ให้กับเรา ความคิดริเริ่มเหล่านี้มองออกไปข้างนอก ไม่ใช่มองเข้าไปข้างใน ความคิดริเริ่มเหล่านี้ไม่ได้พูดถึงการแข่งขัน แต่พูดถึงการเริ่มใหม่”
“ภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีสี จีนยังคงยึดมั่นในคุณธรรมเหล่านี้ มั่นคงและเด็ดเดี่ยว ไม่ย่อท้อแม้จะเผชิญกับแรงต้านและการปฏิบัติที่ไม่สมเหตุสมผล” นายอันวาร์ย้ำ
เชื่อจีนเสริมสร้างความร่วมมือต่อไป
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงยังได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ(State Banquet) ณ พระราชวังอิสตานา ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียสุลต่าน อิบราฮิม สุลต่าน อิสกันดาร์ ในฐานะประมุขผู้ได้รับการเยือนจัดขึ้นอย่างเป็นทางการเพื่อเป็นเกียรติแก่ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประมุขของรัฐผู้มาเยือน พร้อมเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียทรงแสดงความเชื่อมั่นว่า มาเลเซียและจีนจะยังคงเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสองประเทศต่อไป แม้ว่าจะมีความแตกแยกทางภูมิรัฐศาสตร์มากมายทั่วโลกก็ตาม
ในโพสต์บนเฟซบุ๊กของสุลต่าน อิบราฮิม สุลต่าน อิสกันดาร์ วันนี้ พระองค์ตรัสว่ามาเลเซียกำลังมุ่งเน้นที่การบูรณาการทางเศรษฐกิจที่ลึกยิ่งขึ้น การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานและความร่วมมือทางอุตสาหกรรม การเพิ่มความเชื่อมโยง และยึดมั่นในหลักการของการเคารพซึ่งกันและกันและผลประโยชน์ในการมีส่วนร่วมกับหุ้นส่วนทั้งหมด รวมถึงจีน
“ข้าพเจ้าเชื่อว่าบริษัทและนักลงทุนชาวจีนมีศักยภาพอย่างมากที่จะสำรวจโอกาสต่างๆ ที่มาเลเซีย เนื่องจากสอดคล้องกับความสำคัญของการเชื่อมต่อในภูมิภาคและการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงภายใต้โครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของจีน
“ด้วยแรงจูงใจเชิงยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่งและทำเลที่ตั้งที่ดี ศูนย์กลางการเงินพิเศษ Forest City (Forest City Special Financial Hub) ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษยะโฮร์-สิงคโปร์ (JS-SEZ) จึงกลายเป็นที่ตั้งการลงทุนที่สำคัญแห่งหนึ่งของภูมิภาค”
นี่คือพระราชดำรัสของสมเด็จพระราชาธิบดีแก่ประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง ที่พระราชวังอิสตานา
จากโพสต์ สุลต่านอิบราฮิมยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญชวนรัฐบาลจีนให้ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนภาษาระหว่างสองประเทศ โดยพระองค์ทรงตรัสว่า จำนวนนักศึกษาแลกเปลี่ยนของทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้น และมาเลเซียตั้งใจจะส่งนักศึกษาไปจีนมากขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และวัฒนธรรม
“ข้าพเจ้าเชื่อว่าภาษาเป็นสะพานสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคี ในทิศทางนี้ ข้าพเจ้าตั้งใจที่จะส่งเสริม Sultan Ibrahim Malay Studies Chair ที่มหาวิทยาลัยการศึกษานานาชาติปักกิ่ง (BFSU) อย่างแข็งขัน”
MoU ความร่วมมือกว่า 30 ฉบับ
นายกรัฐมนตรีดาโต๊ะ สรี อันวาร์ อิบราฮิม และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน ร่วมเป็นสักขีพยานในการแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ (MoU) และเอกสาร 31 ฉบับ ครอบคลุมความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างสองประเทศ
พิธีลงนามจัดขึ้นที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีในช่วงบ่ายของวันนี้(16 เมษายน) หนึ่งในความร่วมมือสำคัญคือ บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลมาเลเซียและสำนักข่าวซินหัวของจีนในด้านข่าวสารและข้อมูล
ดาโต๊ะ ฟาห์มี ฟาดซิล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสาร และโอวหยาง อวี่จิง เอกอัครราชทูตจีนประจำมาเลเซีย เป็นตัวแทนมาเลเซียและจีนในการแลกเปลี่ยนเอกสารดังกล่าว
ภายใต้บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติ RTM และสำนักข่าวซินหัวจะร่วมมือกันในการดำเนินกิจกรรมสื่อร่วมกัน โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข่าวและการร่วมผลิตรายการและสารคดี เพื่อแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศและส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันที่ลึกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจระหว่างบริษัทพัฒนาภาพยนตร์แห่งชาติมาเลเซีย National Film Development Corporation Malaysia:FINAS) และ China Media Group (CMG) และบันทึกความเข้าใจเพิ่มเติมอีก 2 ฉบับเพื่อแก้ไขบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลมาเลเซียและ CMG เกี่ยวกับความร่วมมือด้านสื่อ และอีกฉบับหนึ่งคือระหว่าง CMG และสำนักข่าวแห่งชาติมาเลเซีย (Malaysian National News Agency หรือ Bernama)
ขณะเดียวกัน ดาโต๊ะ สรี โมฮัมหมัด ฮาซัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้มีการแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลจีนและมาเลเซียเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือภายใต้ข้อริเริ่มด้านความมั่นคงระดับโลก (Global Security Initiative: GSI) ของจีน ร่วมกัน
รัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของจีน (China International Development Cooperation Agency)และกระทรวงต่างประเทศของมาเลเซียเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและส่งเสริมการดำเนินการตามข้อริเริ่มด้านการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative: GDI) ของจีน
เต็งกู ดาโต๊ะ สรี ซาฟรูล เต็งกู อับดุล อาซิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรม มาเลเซีย และนายหวัง เหวินเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน ได้แลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ ซึ่งรวมถึงความร่วมมือด้านบริการการค้า
บันทึกความเข้าใจอีก 2 ฉบับเกี่ยวข้องกับการยกระดับโครงการ “Two Countries Twin Parks” ระหว่างจีนและมาเลเซีย ตลอดจนความร่วมมือด้านการกำหนดมาตรฐาน
นายแอนโธนี โลค ซิว ฟุก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของมาเลเซีย และนายโอวหยาง แลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงและสำนักงานการรถไฟแห่งชาติ (National Railway Administration )ของจีน เกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือในภาคส่วนการรถไฟ
นายชาง ลี่ คัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และนายโอวหยาง แลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจเรื่องการสนับสนุนร่วมกันในการสร้างห้องปฏิบัติการร่วมด้านเทคโนโลยีใหม่
นอกจากนี้นายชาง ลี่ คัง ได้แลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือในการประยุกต์ใช้ระบบดาวเทียมนำทางทั่วโลกเป่ยโต่ว (BeiDou) กับนายเจิ้ง ชานเจี๋ย ประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (National Development and Reform Commission)
ในด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษา ดาโต๊ะ สรี ซัมบรี อับดุล กาดีร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายโอวหยาง แลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจระหว่างมหาวิทยาลัยมาลายาและมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เกี่ยวกับการสร้างห้องปฏิบัติการร่วมสำหรับวัสดุใหม่ จีน-มาเลเซียAl+
ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรมดาโต๊ะ สรี เตียง คิง ซิง เป็นตัวแทนกระทรวงในการแลกเปลี่ยน ขณะที่ประเทศจีนมีตัวแทนคือ นายโอวหยาง และประธาน CMG และบรรณาธิการบริหาร เฉิน ไห่ เซียง
นอกจากนี้นายเฉินยังได้แลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการแปลและการจัดพิมพ์หนังสือคลาสสิกกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการฟัดห์ลีนา ซิเดก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล โกบินด์ ซิงห์ ดีโอ และประธานคณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติของจีน นายเจิ้ง ชานเจี๋ย แลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ 2 ฉบับเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเศรษฐกิจดิจิทัล
บันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านทรัพย์สินทางปัญญามีการแลกเปลี่ยนระหว่าง กามัล คอร์มินผู้อำนวยการใหญ่ของ Intellectual Property Corporation (MyIPO) ของมาเลเซียและ นายโอวหยาง ของจีน
นอกเหนือจากบันทึกความเข้าใจแล้ว มาเลเซียและจีนยังได้แลกเปลี่ยนบันทึก 2 ฉบับ ข้อตกลง 2 ฉบับ และพิธีสาร 1 ฉบับ เพื่อพัฒนาความร่วมมือในด้านที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
มาเลเซียและจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2517 โดยทั้งสองประเทศได้ฉลองครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปีที่แล้ว และทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แน่นแฟ้น
นับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของมาเลเซียต่อเนื่องมาเป็นเวลา 16 ปี โดยมูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองประเทศอยู่ที่ 484,120 ล้านริงกิตในปี 2567 ซึ่งคิดเป็น 16.8% ของมูลค่าการค้าทั่วโลกทั้งหมดของมาเลเซีย (2.88 ล้านล้านริงกิต)
ในฐานะประธานอาเซียนและผู้ประสานงานด้านความสัมพันธ์อาเซียน-จีน มาเลเซียยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่รอบด้านระหว่างอาเซียนและจีน
กระทรวงการต่างประเทศระบุว่าจะดำเนินการนี้ผ่านการเจรจา ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และความคิดริเริ่มที่จะมอบผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมให้กับประชาชนของอาเซียนและจีน
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
