ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์ รายงาน

วันที่ 27 กันยายน 2567 ธนาคารทองคำลาว จำกัด (Lao Bullion Bank : LBB) ได้จัดพิธีเปิดอาคารสำนักงานและเปิดให้บริการเฟสแรกอย่างเป็นทางการ มีผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานด้านการเงินและเศรษฐกิจของลาวหลายคนเข้าร่วม เช่น สันติพาบ พมวิหาน รัฐมนตรีกระทรวงการเงิน วัดทะนา ดาลาลอย รักษาการผู้ว่าการ ธนาคารแห่ง สปป.ลาว อาดสะพังทอง สีพันดอน เจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ ทองพัด อินทะวง รองรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ จันทอน สิดทิไซ ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัท พีทีแอล โฮลดิ้ง จำกัดฯลฯ
ธนาคารทองคำลาว เป็นสถาบันการเงินที่ตั้งขึ้นจากการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาล สปป.ลาว โดยกระทรวงการเงิน กับบริษัท พีทีแอล โฮลดิ้ง จำกัด ในกลุ่ม”พงสะหวัน” สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่อาคารทะนาคานคำ บ้านโพนไซ เมืองไซเสดถา นครหลวงเวียงจันทน์
วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งธนาคารทองคำลาวขึ้นมาก็เพื่อทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บสะสมและสำรองทองคำสำหรับใช้ค้ำประกันฐานะการเงินการคลังของรัฐบาลลาวให้เกิดความมั่นคง ค้ำประกันเสถียรภาพของเงินกีบ สร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจลาวให้สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
จันทอน สิดทิไซ ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัท พีทีแอล โฮลดิ้ง กล่าวในฐานะประธานธนาคารทองคำลาว ว่า พิธีซึ่งถูกจัดขึ้นครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า ธนาคารทองคำลาวจะเปิดให้บริการเฟสแรกในปลายเดือนกันยายน 2567
เขาบอกว่า ที่ผ่านมาทุกหน่วยงานของธนาคารทองคำลาวได้ศึกษาค้นคว้าเพื่อเตรียมพร้อมเปิดให้บริการด้วยความรับผิดชอบสูง มีความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในรัฐบาลลาว โดยเฉพาะกระทรวงการเงิน และธนาคารแห่ง สปป.ลาว และองค์กรจากต่างประเทศที่มีประสบการณ์ด้านวัตถุมีค่า เพื่อจัดหาระบบควบคุมการบริหารและการบริการ จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่มีศักยภาพ มีคุณภาพ และได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสากล เช่น ระบบ Core Banking ระบบป้องกันความปลอดภัย ระบบตรวจวัดคุณภาพทองคำ ระบบห้องมั่นคงหรือตู้นิรภัยสำหรับเก็บทองคำ รวมถึงเครื่องกดทองคำอัตโนมัติ(Gold Vending Machine)

ทั้งหมดที่ได้เตรียมการไว้นั้น เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์และบริการทุกประเภทของธนาคารทองคำลาว ซึ่งประกอบไปด้วย บัญชีฝากทองคำ การจำหน่ายทองคำแท่งผ่านตู้จำหน่ายวัตถุมีค่าอัตโนมัติ สินเชื่อทองคำ การออกใบรับรองเพื่อนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน การรับฝากทองคำด้วยห้องเก็บรักษาและตู้นิรภัยชั้นสูง บริการตรวจสอบคุณภาพและความบริสุทธิ์ของทองคำ บริการซื้อขายทองคำในตลาดระหว่างประเทศ(international gold trading) การประเมินมูลค่าทองคำที่ยังไม่ได้ขุดค้น และการสำรองทองคำให้กับรัฐบาล
ในพิธีเปิดครั้งนี้ ธนาคารทองคำลาวยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์นำร่อง 2 ผลิตภัณฑ์แรก ได้แก่ บัญชีฝากทองคำ(Gold Saving) และตู้กดทองคำอัตโนมัติ(Gold Vending Machine) โดยในระยะแรก มีการจำกัดจำนวนบัญชีฝากทองคำให้สามารถเปิดได้เพียง 50 บัญชีต่อวัน และหลังจากนี้จะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่นๆเพิ่มเติมอีก โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถให้บริการอย่างครบวงจรได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2567 และจะเปิดโรงงานสกัดและหลอมทองคำ(gold refinery)ได้ ในไตรมาสแรกของปี 2568
……

การเปิดให้บริการของธนาคารทองคำลาว ถือเป็นกระบวนการจัดตั้งสถาบันการเงินที่ได้ถูกดำเนินการอย่างเร่งด่วนและรวดเร็วมาก หากนับจากวันแรกๆที่เริ่มปรากฏแนวคิดให้มีตั้งสถาบันการเงินประเภทนี้ในลาวเผยแพร่สู่สาธารณะ!
ลำดับเหตุการณ์การจัดตั้งธนาคารทองคำลาว ตามที่ปรากฏเป็นข่าว และจากข้อมูลประชาสัมพันธ์ขององค์กรได้คร่าวๆ ดังนี้…
วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศลาว ได้กล่าวชี้นำถึงภารกิจเฉพาะหน้าที่รัฐบาลลาวต้องทำอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจการเงินของประเทศ โดยหนึ่งในภารกิจที่ประธานประเทศลาวได้กล่าวขึ้นมา คือการเร่งรัดจัดตั้งธนาคารทองคำ
ถัดมายังไม่ถึง 1 เดือนเต็ม วันที่ 7 สิงหาคม สันติพาบ พมวิหาน รัฐมนตรีกระทรวงการเงิน ได้เซ็นสัญญากับจันทอน สิดทิไซ ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัท พีทีแอล โฮลดิ้ง เพื่อร่วมทุนก่อตั้งธนาคารทองคำลาว ที่โรงแรมคราวน์พลาซ่า นครหลวงเวียงจันทน์ โดยมีสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ไปร่วมในพิธีในฐานะสักขีพยาน
วันที่ 9 สิงหาคม 2 วันหลังพิธีเซ็นสัญญาร่วมทุนระหว่างกระทรวงการเงินกับบริษัท พีทีแอล โฮลดิ้ง ได้มีการเปิดเพจ”ทะนาคานคำ ลาว – Lao Bullion Bank” ขึ้นเป็นเพจทางการ เพื่อเป็นช่องทางเผยแพร่ข้อมูล ความเคลื่อนไหวของธนาคารทองคำลาว
รุ่งขึ้น วันที่ 10 สิงหาคม เพจ”ทะนาคานคำ ลาว” โพสต์คลิปวิดีโอแนะนำองค์กรความยาว 5.50 นาที
เนื้อหาส่วนหนึ่งในวิดีโอระบุว่า กลไกสำคัญในการทำงานของธนาคารทองคำลาว คือการสร้างโรงงานสกัดและหลอมทองคำ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ สปป.ลาว ในการเพิ่มมูลค่าแก่แร่ทองคำซึ่งถูกขุดค้นได้ในลาวให้มีความบริสุทธิ์สูง 99.99% ตามมาตรฐานสากลที่ถูกรับรองโดย London Bullion Market Association(LBMA) โดยคาดว่าเมื่อได้สร้างโรงสกัดและหลอมทองคำเสร็จแล้ว จะสามารถผลิตทองคำบริสุทธิ์ได้ปีละ 10-30 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
ทองคำที่ผ่านการสกัดและหลอมจากโรงงานจนได้มาตรฐาน LBMA จะสามารถนำไปแลกเปลี่ยน ซื้อขาย และนำไปทำธุรกรรมได้ในตลาดทองคำโลก
ในคลิป มีบทสัมภาษณ์จันทอน สิดทิไซ ในฐานะประธานธนาคารทองคำลาว ที่ได้กล่าวไว้ช่วงหนึ่งว่า ธนาคารทองคำลาวเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อคสภาพคล่องของอุตสาหกรรมทองคำในลาว เนื่องจากลาวมีอุตสาหกรรมทองคำ มีการผลิตและซื้อขายทองคำมานานหลายสิบปี แต่ที่ผ่านมาทองคำที่ผลิตได้ในลาวไม่ได้คุณภาพ มีความบริสุทธิ์ไม่ถึง 99.99% มีการบริหารจัดการที่ไม่ได้มาตรฐาน LBMA
การตั้งธนาคารทองคำลาวขึ้นมา ก็เพื่อทำให้กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำซึ่งมีอยู่หลากหลายในลาวเหล่านี้ มีความถูกต้องได้มาตรฐานตามหลักสากล

วันที่ 13 กันยายน คำสอน สิดทิไซ รองประธาน ธนาคารทองคำลาว ได้ลงนามกับ Gyorgy Tamas Ladics กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท Silverlake Axis โดย Silverlake Axis จะนำระบบบริการลูกค้าในธุรกิจหลักของธนาคาร หรือ Silverlake Symmetri มาติดตั้งให้กับธนาคารทองคำลาว
Silverlake Symmetri เป็นหนึ่งในโซลูชันด้านไอทีสำหรับการบริหารจัดการระบบการเงินการธนาคาร มีการทำงานที่ครอบคลุมการให้บริการระบบทั้งหมดในธนาคาร และมีส่วนช่วยพัฒนาระบบ Core Banking ของธนาคารทองคำลาวให้ทันสมัย และช่วยควบคุมต้นทุนในการบริหารจัดการภายในธนาคาร
Silverlake Axis เป็นบริษัทเทคโนโลยี่และซอฟท์แวร์ด้านการเงิน มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ ก่อตั้งมานาน 35 ปี กลุ่มลูกค้าของ Silverlake Axis เป็นสถาบันการเงินและองค์กรขนาดใหญ่หลายแห่ง ใน 70 ประเทศทั่วโลก
ในลาว ธนาคารทองคำลาวเป็นลูกค้ารายที่ 3 ของ Silverlake Axis โดยลูกค้า 2 รายก่อนหน้านี้ คือ ธนาคารพงสะหวัน และธนาคาร RHB สาขา สปป.ลาว
วันที่ 23 กันยายน ธนาคารทองคำลาว เผยแพร่ข่าวความร่วมมือกับ Stone X กลุ่มบริษัทการเงินเก่าแก่จากสหรัฐอเมริกาที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1924
เนื้อหาข่าวที่ถูกเผยแพร่ผ่านเพจทะนาคานคำ ลาว ไม่บอกรายละเอียดของความร่วมมือที่ธนาคารทองคำลาวทำไว้กับ Stone X โดยให้ข้อมูลเพียงว่า Stone X มีบทบาทสำคัญในตลาดทองคำและวัตถุมีค่า เป็นสมาชิกของ LBMA ทำให้ Stone X มีความน่าเชื่อถือ ทั้งด้านการจัดการความเสี่ยง การซื้อ-ขาย และการเก็บรักษาทองคำ การร่วมมือกับ Stone X จะทำให้การทำธุรกิจของธนาคารทองคำลาวเป็นไปตามมาตรฐานระดับโลก ทั้งในแง่ของความโปร่งใส ความมั่นคง รวมถึงการบริหารจัดการ และการป้องกันความเสี่ยง
วันที่ 25 กันยายน 2 วันก่อนมีพิธีเปิดให้บริการเฟสแรกอย่างเป็นทางการ ธนาคารทองคำลาวได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ(MOU) กับบริษัท Helmut Fischer เพื่อร่วมกันสร้างห้องวิเคราะห์ทองคำ

เนื้อหาข่าวที่เผยแพร่ผ่านเพจทะนาคานคำ ลาว ให้รายละเอียดว่า Helmut Fischer เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสแกน หรือเครื่องเอกซเรย์ แบรนด์ Fischer จากประเทศเยอรมนี ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1953 และได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยอมรับจากกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมต่างๆทั่วโลก ทั้งอุตสาหกรรมทองคำ เครื่องประดับ อิเลคทรอนิคส์ ไปจนถึงเหมืองแร่
บันทึกความเข้าใจที่ธนาคารทองคำลาวเซ็นกับ Helmut Fischer ครั้งนี้ เพื่อจะร่วมกันสร้างห้องตรวจสอบ วิเคราะห์ทองคำตามมาตรฐานสากล เนื่องจากธนาคารทองคำลาวให้ความสำคัญกับคุณภาพการตรวจสอบ วิเคราะห์ทองคำและวัตถุมีค่า ที่จะมีผลต่อความโปร่งใสในการทำธุรกิจ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและประชาชนว่า ผลการตรวจสอบวิเคราะห์ทองคำของธนาคารทองคำลาว มีความถูกต้อง แม่นยำ

สปป.ลาวต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ การเงิน มาตั้งแต่ปี 2563 หลังเริ่มมีมาตรการปิดประเทศเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ค่าเงินกีบของลาวตกต่ำลงมาตลอด เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยว ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกลับพุ่งสูงลิ่ว ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศร่อยหรอ จนกระทบฐานะการคลัง และความสามารถในการชำระหนี้เงินกู้ต่างประเทศของรัฐบาล
4 ปีมานี้ รัฐบาลลาวได้นำหลายมาตรการออกมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาฐานะการเงินของประเทศ และแม้ว่าได้เริ่มกลับมาเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งแล้ว แต่สถานการณ์ที่ลาวเผชิญ ก็ยังคงน่าเป็นห่วง
การเปิดธนาคารทองคำลาวขึ้นมา จากภาพภายนอก ดูเหมือนเป็นอีกแนวทางหนึ่งเพื่อแก้ไขวิกฤตการเงินของลาว
แต่กระบวนการจัดตั้งที่เร่งด่วน รวดเร็ว ใช้เพียง 3 เดือน ก็สามารถเปิดให้บริการได้ ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ในลาวอาจยังไม่รู้หรือไม่เข้าใจว่า “ธนาคาร”แห่งนี้ ทำธุรกิจอะไร เป็นประเด็นที่น่าสนใจ ที่มีหลายคนตั้งเป็นข้อสังเกตุ
ความ”เร่งด่วน”เพื่อเปิดธนาคารทองคำลาว ดึงดูดให้ต้องเฝ้าติดตามดูภารกิจและบทบาทของ”ธนาคารทองคำลาว”นับจากนี้ ว่าจะมีส่วนอย่างไรและแค่ไหน ในแก้ไขวิกฤตการเงินการคลังของประเทศ…