โดย รศ.ดร.จุฑาทิพย์ จงวนิชย์ ศูนย์ความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนา คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะช่วงหลังจากโควิด19 สร้างความกังวลเกี่ยวกับความสามารถทางการแข่งขันของสินค้าส่งออกและการใช้ภาคการส่งออกเป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญหนึ่งของไทย โดยเฉพาะในส่วนของสินค้าอุตสาหกรรมกลุ่มเครื่องจักรกล-เครื่องกล (HS84) และรถยนต์ (HS87) ที่ไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกหลายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดดิสก์ (HDD) เครื่องใช้ไฟฟ้า (เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า) รถยนต์และชิ้นส่วน สินค้าเหล่านี้มีส่วนแบ่งในการส่งออกรวมของประเทศที่สูงประมาณร้อยละ 15 (HS84) และ ร้อยละ 10 (HS87) ของการส่งออกรวมของไทย ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะการพัฒนาสินค้าในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ความก้าวหน้าของโซลิดสเตรท (SSD) และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทำให้การส่งออกสินค้าเหล่านี้ลดลงในช่วงหลังปี ค.ศ. 2021 และสร้างความกังวลให้กับยุทธศาสตร์การพึ่งพาการส่งออกเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากกว่าการชะลอตัวของการส่งออกในอดีต (แผนภาพที่ 1A)
การวิเคราะห์แนวโน้มการค้าระหว่างประเทศและดัชนีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ (Revealed Comparative Advantage: RCA) รวมถึงการคาดการณ์ความต้องการของตลาดโลกในอนาคตชี้ให้เห็นว่าไทยยังไม่ได้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันของการส่งออกในสินค้าเหล่านี้ แต่การที่ส่วนแบ่งตลาดของไทยยังคงทรงตัวอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.3 ในช่วงปี ค.ศ. 2021-23 (แผนภาพที่ 1B) ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและเวียดนามมีส่วนแบ่งในตลาดโลกเพิ่มขึ้น (มาเลเซียเพิ่มขึ้นจาก 1.2 ในปี ค.ศ. 2017 เป็นประมาณ 1.5 ในปี ค.ศ. 2023 เวียดนามเพิ่มจาก 1.5 เป็น 2.7 ในช่วงเวลาเดียวกัน) แสดงให้เห็นว่าไทยยังต้องเร่งพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตของสินค้ากลุ่มนี้ เพื่อรักษาและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกยังเห็นศักยภาพของการพัฒนาประสิทธิภาพดังกล่าว ด้วยเหตุผลดังนี้
(1) คงปฏิเสธไม่ได้ความก้าวหน้าของโซลิดสเตรท (SSD) ทำให้การส่งออกของ HDD ลดลง มูลค่าการส่งออก HDD ของไทยในช่วงปี ค.ศ. 2022-23 ลดลงโดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 20 ซึ่งการลดลงของการส่งออก HDD ทำให้ความสำคัญหรือส่วนแบ่งของ HDD ในตระกร้าการส่งออกทั้งหมดของไทยลดลงจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 3 และเป็นสินค้าหนึ่งที่ทำให้ส่วนแบ่งตลาดโลกของสินค้าในกลุ่มเครื่องจักรกล เครื่องกล (HS84) ลดลงต่ำที่สุดในรอบ 13 ปี (อยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.6 ในปี ค.ศ. 2023 ใกล้เคียงกับช่วงน้ำท่วมใหญ่ในปี ค.ศ. 2011) (แผนภาพที่ 2A)
อย่างไรก็ตามการลดลงของการส่งออก HDD ในกลุ่ม HS84 ได้ถูกชดเชยจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ดาวรุ่งใหม่ อย่างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ไม่ว่าเป็น วงจรอื่นโดยเฉพาะเซ็นเซอร์ (HS854239) อุปกรณ์กึ่งตัวนำ (Photosensitive device HS854141-49) โดยเฉพาะโฟโตวอลเทอิกซ์เซลล์และแอลอีดีที่สำคัญขึ้นอย่างมาก โดยส่วนแบ่งของสินค้าเหล่านี้ต่อการส่งออกรวมของไทยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.7 เป็นร้อยละ 4 ในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนั้นอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์อื่น เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า (HS850440) แผงควบคุมไฟฟ้า (HS853710) อุปกรณ์โทรศัพท์ (HS851762) สัดส่วนการส่งออกได้เพิ่มขึ้น และทำให้มูลค่าการส่งออกของสินค้าในกลุ่มนี้สูงกว่ากลุ่มเครื่องจักร เครื่องกล (HS84) นอกจากนั้นถ้าพิจารณาส่วนแบ่งตลาดโลกของกลุ่มสินค้า HS85 เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน (แผนภาพที่ 2B)

ในขณะที่ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีต้องพึ่งพาสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้น การพยายามพัฒนาการผลิตสินค้าในกลุ่มนี้ให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มความสลับซับซ้อนเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการประกอบชั้นสูงในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ (หรือที่เรียกว่าเป็น Back end semiconductor) ไปพร้อม ๆกับการขยายการผลิตและลงทุนในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ต้นน้ำ (หรือที่เรียกว่าเป็น front end semiconductor) ทั้งการออกแบบ (circuit design) และ fabrication รวมไปถึงการเพิ่มการมีส่วนร่วมของ SMEs โดยเฉพาะการออกแบบ
การพัฒนาสภาพแวดล้อมดังกล่าวจะส่งผลย้อนกลับไปให้ไทยสามารถเข้าไปมีส่วนในการผลิต SSD ได้และทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์ (hub) ของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูล
การกระจายตลาดการส่งออกเพื่อให้การส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้สามารถรับมือ (Resilient) กับเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้ดีขึ้น วันนี้วงจรเซ็นเซอร์ (HS854239) มีการกระจายตัวของตลาดส่งออกในหลายภูมิภาค ในขณะที่การส่งออกอุปกรณ์กึ่งตัวนำ (Photosensitive device HS854141-49) ค่อนข้างกระจุกตัวที่สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 70 การกระจายสินค้าดังกล่าวไปยังภูมิภาคอื่น ๆ จึงเป็นเรื่องจำเป็น (ตารางที่ 1)

(2) ถึงแม้ว่า SSD เข้ามาแทน HDD แต่เกิดขึ้นในบางส่วนโดยเฉพาะส่วนที่เป็น computer HDD และ enterprise HDD การพัฒนาเทคโนโลยีในด้านอื่น ๆ เช่น Data center, Cloud computingและ Artificial intelligence ทำให้ความต้องการ HDD ยังคงมีต่อเนื่อง การพัฒนาดังกล่าวต้องการอุปกรณ์บรรจุข้อมูลที่มีความจุ (storage densities) ที่สูง1 หลายสำนักวิจัยทางด้านเทคโนโลยี เช่น Cognitive Market Intelligence และ FMI intelligence คาดว่าความต้องการ HDD ยังขยายตัวต่อเนื่องในอีก 10 ปีข้างหน้าโดยเฉพาะ FMI มองว่าความต้องการ HDD จะขายตัวถึงร้อยละ 12 (CAGR) ถึงแม้ว่าจะน้อยกว่า SSD ที่คาดว่าจะขยายตัวมากกว่าร้อยละ 30 ก็ตาม ดังนั้นถึงแม้มูลค่าการส่งออก HDD ของไทยอาจจะไม่ได้สูงเช่นเดิม แต่ด้วยความต้องการที่คาดว่ายังมีอยู่ต่อเนื่อง การส่งออก HDD น่าจะยังมีบทบาทสำคัญในตะกร้าการส่งออกของไทย
ไทยยังคงสามารถเป็นผู้ส่งออก HDD อันดับหนึ่งของโลก แม้ส่วนแบ่งตลาดโลกของไทยลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 19 ในปี ค.ศ. 2021 เหลือร้อยละ 16 ในปี ค.ศ. 2023 อันเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกจากสหรัฐฯ และเม็กซิโก เมื่อพิจารณา RCA (ดัชนีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ) พบว่า RCA ของไทยมีค่าสูงและสูงกว่าช่วงก่อนโควิด192 นั่นหมายถึงความเข้มแข็งของการส่งออก HDD ของไทย นอกจากนั้นในช่วงก่อนโควิด19 บริษัท Seagate ได้ย้ายฐานการผลิต HDD จากจีน และ Western digital ได้ลดกำลังการผลิต HDD จากมาเลเซียมาผลิตที่ไทยน่าจะเป็นสัญญาณการเลือกไทยเป็นฐานการผลิต HDD อย่างชัดเจน ดังนั้นการเดินหน้าพัฒนา HDD ในไทยให้ไปในทิศทาง Modern HDD Technology3 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนไปในต้นทุนต่อหน่วยที่ถูกลงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะทำให้ HDD ยังคงมีบทบาทสำคัญในตะกร้าการส่งออกของไทย
(3) สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าในกลุ่มของเครื่องจักร เครื่องยนต์ (HS84) หลายชนิด เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ที่มูลค่าการส่งออกลดลง และส่วนแบ่งตลาดโลกของไทยในช่วงหลังโควิดปรับตัวลดลง ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการที่ลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและการระบายสินค้าผ่านการส่งออกของจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสินค้ากลุ่มนี้จะยังมีความสำคัญในตระกร้าการส่งออกของไทยเนื่องจากความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงานคาดว่ายังโตต่อเนื่อง (ประมาณร้อยละ 9-10 CAGR ในช่วงปี 2024-2030, Exactitude consultancy, January 2024)
การเดินหน้าพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ ไปกับการกระจายตลาดการส่งออก ตั้งแต่เกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายประเภทกระจุกตัวกับบางตลาด โดยเฉพาะสหรัฐฯ เช่น เครื่องปรับอากาศ ตลาดสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 15 ของการส่งออกรวม ในปี ค.ศ. 2023 เพิ่มจากร้อยละ 3 ในปี ค.ศ. 2017 การส่งออกตู้เย็นก็มีลักษณะคล้ายกันที่ส่วนแบ่งตลาดสหรัฐฯ เพิ่มจากร้อยละ 4 เป็นร้อยละ 30 ในช่วงเวลาเดียวกัน (ตารางที่ 1) การกระจายตลาดส่งออกให้สมดุลขึ้นจะมีส่วนช่วยให้การส่งออกสนับสนุนการเติบโตในประเทศได้อย่างยั่งยืน
(4) แม้การผลิตรถยนต์นั่งสันดาปในประเทศได้รับผลกระทบจากรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าจากจีนใน 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่หากพิจารณามูลค่าการส่งออกรถยนต์นั่งของไทยดูเหมือนไทยยังสามารถรักษาความสามารถในการส่งออกได้ดีในตลาดโลก แม้มูลค่าการส่งออกรถยนต์นั่งโดยเฉพาะรุ่นความจุของกระบอกสูบเกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร แต่ไม่เกิน 3,000 (HS870323) ไปยังจีนลดลงมากถึงร้อยละ 90 ในช่วงปี ค.ศ. 2021-2023 อย่างไรก็ตามการลดลงดังกล่าวได้รับการชดเชยจากการส่งออกไปยังภูมิภาคแอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียโดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV การส่งออกรถยนต์นั่งไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 8.5 ของการส่งออกรถยนต์นั่งรวมของไทยมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น (อัตราการขยายตัวเฉลี่ยในช่วงปี ค.ศ. 2021-23 ประมาณร้อยละ 27) จากการส่งออกไปตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก (ไม่รวมจีน) และอาเซียน ในขณะที่รถกระบะ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์โดยภาพรวมยังสามารถรักษาฐานการส่งออกได้ มูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวม (HS87) ยังเพิ่มขึ้น ส่วนแบ่งตลาดโลก (รวมช่วง 5 เดือนแรกของปี ค.ศ. 2024) อยู่ที่ประมาณร้อยละ 2 ใกล้เคียงกับช่วงก่อนสงครามการค้า (ถึงแม้น้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงปี ค.ศ. 2021) (แผนภาพที่ 3)

การที่ไทยยังสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดโลกของรถยนต์ได้น่าจะเป็นสัญญาณบวกว่าไทยมีเวลาเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการสร้าง supply chain ได้อย่างเข้มแข็งในประเทศ ถึงแม้ IEA ต้องการผลักดันให้สัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicles) ต่อรถยนต์ทั้งหมดให้สูงถึงร้อยละ 60 ในปี ค.ศ. 2030 เพื่อให้สามารถบรรลุจุดหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น 0 ในปี ค.ศ. 2050 หลายภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนเริ่มตระหนักว่าในระยะสั้นถึงปานกลาง ตลาดรถยนต์ไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดเป็นเทคโนโลยีสายกลางเพื่อต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่ค่อย ๆ เปลี่ยนและข้อจำกัดในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญโดยเฉพาะสถานีชาร์จ4 ประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐฯ ปรับลดเป้าหมายของการใช้รถยนต์ BEV ลงจากร้อยละ 67 ในปี 2032 เป็นร้อยละ 35 เช่นเดียวกันรัฐบาลไทยได้ปรับลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์นั่งไฮบริดชั่วคราวในการประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เมื่อ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา การปรับเปลี่ยนดังกล่าวน่าจะเป็นยุทธศาสตร์การส่งเสริมรถยนต์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็นกลางมากขึ้น อย่างไรก็ตามการพิจารณาการเปลี่ยนผ่านไม่ควรมุ่งเพียงรถยนต์นั่ง แต่ควรให้ความสำคัญกับรถยนต์ประเภทอื่น ๆ เช่น รถกระบะ รถบรรทุก มอเตอร์ไซด์ และสามล้อควรมีการเร่งสนับสนุนเช่นกันบนพื้นฐานของการรักษาสิ่งแวดล้อม5
ประเด็นทิ้งท้ายสำคัญ คือ ส่วนแบ่งตลาดโลกของสินค้าเกษตรและอาหารเริ่มกลับไปใกล้เคียงร้อยละ 2.5 ในช่วงก่อนโควิด19 แต่เมื่อเทียบกับช่วง 13 ปีที่ผ่านมาส่วนแบ่งตลาดโลกของสินค้าเกษตรและอาหารมีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัดและรุนแรงกว่าสินค้าอุตสาหกรรม (แผนภาพที่ 1)
ข้าว อาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็ง อาหารทะเลแปรรูปเป็นสินค้าหลักที่ทำให้ส่วนแบ่งในตลาดโลกของสินค้าเกษตรและอาหารลดลง ในขณะที่ส่วนแบ่งตลาดโลกของผลไม้โดยเฉพาะทุเรียนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการน้ำ ที่ดินและการพยายามใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเป็นสิ่งที่ควรเร่งดำเนินการ ส่วนการบริหารความต้องการโดยการเปิดตลาดใหม่หรือกระจายตลาดเดิมให้สมดุลเป็นสิ่งที่จำเป็น การใช้ FTAs ในการขยายตลาดสินค้าเกษตรและอาหารของไทย โดยเฉพาะ FTAs ที่รัฐบาลกำลังพิจารณา อาทิ Thai-EU FTAs คงต้องทำด้วยความระมัดระวังทั้งในส่วนของการเจรจาปริมาณ tariff rate quota ของสินค้าเกษตรหลายประเภทที่ไทยคาดว่าจะได้รับ6 และข้อตกลงอื่นๆรวมทั้งการเปิดเสรีภาคบริการที่คงต้องทำอย่างเป็นระบบเพื่อให้สินค้าเกษตรและอาหารของไทยและภาคส่วนอื่นได้รับประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีอย่างเต็มที่
อ้างอิง
1. ปัจจุบันความจุของ HDD สูงถึง 30 TB และคาดว่าจะขยายความจุไปถึง 50 TB ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วยต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลง
2.ดัชนีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบคำนวณที่มูลค่าการค้า (HS code) 6 หลัก ของสินค้า HDD ในปี ค.ศ. 2023 เท่ากับ 12.2 ในขณะที่ค่า RCA ในปี ค.ศ. 2018 เท่ากับ 11.2
3. อย่างที่ได้กล่าวข้างต้นการที่ Segate หรือ Western digital ไม่ได้เลือกไทยเป็นฐานการผลิต SSD เช่น มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ ส่วนหนึ่งเนื่องจากไทยไม่ได้เป็นฐานการผลิต semiconductor ที่ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญของการผลิตอย่าง NAND สำหรับ HDD เทคโนโลยีปัจจุบันเทคโนโลยี อาทิ Shingled magnetic recording (SMR) Haet-assisted magnetic recording (HAMR) Microwave-assisted magnetic recording (MAMR) Helium filled drive มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
4.Sraddha Sabu (2024), ‘Global hybrid production booms as BEVs – and autos’ green transition – slow, Just Auto (Daily News), 31 July 2024.
5.ในขณะที่การผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า มีความสลับซับซ้อนและต้นทุนต่ำกว่า การเร่งขบวนการเปลี่ยนผ่านน่าจะง่ายกว่ารถยนต์นั่งและรถกระบะ
6.Tariff rate quota หมายถึง ปริมาณสินค้าที่มีการตกลงกันว่าจะไม่มีการเก็บภาษีนำเข้า ปริมาณที่เกินกว่าที่ตกลงกันไว้จะถูกเก็บภาษีตามปกติ ยกตัวอย่างเช่น เวียดนามปริมาณ tariff rate quota ที่ได้รับสำหรับข้าว (โดยรวม) คือ 80,000 ตัน ในปี 2019 เวียดนามส่งออกข้าวไป EU27 ประมาณ 48,000 ตัน