
ที่มาภาพ : www.thaigov.go.th/
‘ภูมิธรรม’ โยกงบฯกรมประมง 450 ล้าน ลุยแก้ ‘ปลาหมอคางดำ’ ผ่าน 7 มาตรการ 14 กิจกรรม – ตั้ง ‘หมอมิ้ง’ นั่งเลขาธิการนายกฯ – ‘วิสุทธิ์ ไชยณรุณ’ ประธานวิปรัฐบาล
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุม ครม. เสร็จสิ้น นายภูมิธรรม ไม่ได้แถลงข่าว แต่ให้สำนักโฆษกแจกเอกสารสรุปผลการประชุม ครม. โดยมีสาระสำคัญดังนี้
โยกงบฯกรมประมง 450 ล้าน แก้ ‘ปลาหมอคางดำ’
เรื่องแรก วันนี้ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ดังนี้
-
1. แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567 – 2570 (แผนปฏิบัติการปลาหมอคางดำฯ)
2. แผนปฏิบัติการปลาหมอคางดำฯ เป็นวาระแห่งชาติ
3. ให้ กษ. ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 เรื่องแนวทางการจัดทำแผนระดับที่ 3 ที่เป็นแผนปฏิบัติการด้าน …. เพื่อเสนอให้สามารถนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้โดยเร็วต่อไป
สาระสำคัญ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในการประชุมครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน) มีมติเห็นชอบในหลักการของแผนปฏิบัติการปลาหมอคางดำฯ โดยแผนปฏิบัติการดังกล่าวประกอบด้วย 7 มาตรการ – 14 กิจกรรม มีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
สำนักงบประมาณเห็นสมควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เรื่อง แนวทางจัดทำแผนระดับที่ 3 ที่เป็นแผนปฏิบัติการด้าน …. เพื่อให้สามารถนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้โดยเร็วต่อไป
สำหรับค่าใช้จ่ายตามแผนปฏิบัติการดังกล่าวจำนวน 450 ล้านบาทถ้วน เห็นควรให้กรมประมงใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับการจัดสรร หรือ พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือ โอนเงินจัดสรร หรือ เปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรแล้วแต่กรณี ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณพ.ศ. 2562 มาดำเนินการในโอกาสแรกทั้งนี้
หากพิจารณาแล้วยังคงมีความจำเป็น ต้องขอใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือ จำเป็น ขอให้กรมประมงจัดทำแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณ และดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2562 และขอให้จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยคำนึงถึงความจำเป็น เหมาะสม ประหยัดและคุ้มค่า เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ไฟเขียว รมว.พลังงานรับรองร่างแถลงการณ์ AZEC
เรื่องที่ 2 ครม.มีมติเห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุม The 2nd Asia Zero Emission Community (AZEC) Ministerial Meeting (ร่างแถลงการณ์ร่วมฯ) ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพลังงานนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง พร้อมอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หรือ ผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นผู้ให้การรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ [จะมีการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในห้วงการประชุม The 2nd Asia Zero Emission Community (AZEC) Ministerial Meeting (การประชุมฯ) ในวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย]ร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
รับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ รมต.ศึกษาอาเซียนครั้งที่ 13
เรื่องที่ 3 ครม.มีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (ร่างถ้อยแถลงร่วมฯ) จำนวน 3 ฉบับ และปฏิญญาร่วมว่าด้วย พื้นที่ร่วมด้านอุดมศึกษาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Joint Declaration on the Common Space in Southeast Asian Higher Education) (ปฏิญญาร่วมฯ) จำนวน 1 ฉบับ ได้แก่
-
1.1 ร่างเอกสารถ้อยแถลงร่วมบุรีรัมย์ของการประชุมรัฐมนตรี ด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 (Buriram Joint Statement of the Thirteenth ASEAN Education Ministers Meeting)
1.2 ร่างเอกสารถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซียน บวกสาม ครั้งที่ 7 (Joint Statement of the Seventh ASEAN Plus Three Education Ministers Meeting)
1.3 ร่างเอกสารถ้อยแถลงร่วมของการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกด้านการศึกษา ครั้งที่ 7 (Joint Statement of the Seventh East Asia Summit Education Ministers Meeting)
1.4 ปฏิญญาร่วมฯ
2. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างถ้อยแถลงร่วมฯ และปฏิญญาร่วมฯ ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้ ศธ. สามารถดำเนินการได้โดยให้นําเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
3. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการหรือผู้แทนให้ความเห็นชอบ และรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ จำนวน 3 ฉบับ และปฏิญญาร่วมฯ จำนวน 1 ฉบับ ในการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (การประชุมฯ) ในช่วงการประชุมระดับรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 25 – 26 สิงหาคม 2567
4. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการหรือผู้แทนให้ความเห็นชอบ และรับรองปฏิญญาร่วมฯ จำนวน 1 ฉบับ ในการประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สภาซีเมค) ครั้งที่ 53 ที่จะจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2568
5. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย ร่วมรับรองเอกสารร่างถ้อยแถลงร่วมฯ และปฏิญญาร่วมฯ รวม 4 ฉบับ ในการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ในเดือนกันยายน 2567
6. อนุมัติให้นายกรัฐมนตรี หรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายรับรองเอกสารร่างถ้อยแถลงร่วมฯ และปฏิญญาร่วมฯ รวม 4 ฉบับ ร่วมกับผู้นําประเทศสมาชิกอาเซียนในการประชุมสุดยอดผู้นําอาเซียน ครั้งที่ 44 ในเดือนตุลาคม 2567
สาระสำคัญของเรื่อง ศธ. รายงานว่า
-
1. ศธ. จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ ระหว่างวันที่ 23 – 26 สิงหาคม 2567 ณ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่ประธานและหัวหน้า คณะผู้แทนไทยในการประชุมดังกล่าว ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการอาเซียนได้จัดส่งเอกสารร่างถ้อยแถลงร่วมฯ จำนวน 3 ฉบับ ให้ประเทศสมาชิกพิจารณาเพื่อจะนําเสนอต่อที่ประชุมฯ รวมทั้งจะมีการเสนอ ปฏิญญาร่วมฯ ที่จัดทำขึ้นร่วมกันระหว่างอาเซียน ซีมีโอ จำนวน 1 ฉบับ ต่อที่ประชุมฯ และที่ประชุมสภาซีเมค ครั้งที่ 53 ในปี 2568 ต่อไป
2. เอกสารร่างถ้อยแถลงร่วมฯ และปฏิญญาร่วมฯ รวม 4 ฉบับ มีสาระสำคัญ สรุปได้ ดังนี้
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
การประชุมฯ ครั้งนี้ มีความสำคัญที่สุดในด้านการศึกษากับอาเซียน เนื่องจากเป็นการประชุมระดับผู้นําด้านการศึกษาของประเทศสมาชิกและคู่เจรจาทั้ง 8 ประเทศ และเป็นกลไกหลักในการตัดสินใจในด้านความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ตามแผนงานด้านการศึกษาของอาเซียน โดยเอกสารทั้ง 4 ฉบับ จะเป็นข้อตกลงร่วมกันของประเทศสมาชิกและคู่เจรจาที่กำหนดทิศทางในการพัฒนาด้านการศึกษาและแนวทางความร่วมมือทั้งในภูมิภาคและนอกภูมิภาค
ตั้ง ‘หมอมิ้ง’ นั่งเลขาธิการนายกฯ
ส่วนเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานรัฐ วันนี้ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบ/อนุมัติ แต่งตั้งข้าราชการเมือง มีรายละเอียดดังนี้
1.เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้การดำเนินการด้านนิติบัญญัติมีความต่อเนื่อง รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี จึงแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรขึ้นใหม่ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 285/2567 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) โดยมีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ เป็นประธานกรรมการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป
2. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป
3. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอแต่งตั้ง ข้าราชการการเมือง จำนวน 6 ราย ดังนี้
-
1. นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย)
2. นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ)
3. นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกรัฐมนตรี นายพิชัย ชุณหวชิร)
4. นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล)
5. พลตำรวจโท อภิรัต นิยมการ ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกรัฐมนตรี พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ)
6. นายชื่นชอบ คงอุดม ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป
อ่านมติ ครม. ประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2567เพิ่มเติม