มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ (25 เมษายน 2567) — ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank:ADB) หรือ เอดีบีได้จัดสรรเงินทุนในการดำเนินงานทั้งหมดสูงถึง 23.6 พันล้านเหรียญสหรัฐจากแหล่งเงินทุนของ ADB เองในปี 2566 ซึ่งรวมถึงเงินทุนจำนวน 9.8 พันล้านเหรียญสหรัฐในการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ เพื่อช่วยให้ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกก้าวหน้าในการพัฒนาที่ยั่งยืน
รายงานประจำปี 2566 ของ ADB (Annual Report 2023) ซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ ได้แจกแจงงบการเงินและผลการดำเนินงานของธนาคารว่า ADB ได้สนับสนุนประเทศสมาชิกกำลังพัฒนาของธนาคารอย่างไรเพื่อให้สามารถจัดการกับวิกฤติสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายลง รวมถึงผลกระทบของความขัดแย้งต่างๆ ความไม่มั่นคงด้านอาหาร และภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางปัจจัยท้าทายอื่นๆ
การจัดสรรเงินทุนสำหรับการดำเนินงานมูลค่า 23.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบด้วย เงินกู้ เงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า การลงทุนในตราสารทุน การค้ำประกัน และความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคที่มีให้กับทั้งรัฐบาลและภาคเอกชน นอกจากนี้ เอดีบียังได้ระดมเงินทุนเพิ่มเติมจำนวน 16.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากการจัดหาเงินทุนร่วมผ่านความร่วมมือของพันธมิตรที่แข็งแกร่ง
“ADB ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในฐานะธนาคารเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยได้บรรลุการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศรายปีสูงสุดเท่าที่เคยดำเนินงานมา” นายมาซาสึกุ อะซาคาวา ประธานเอดีบี กล่าว “การลงทุนของเราเพื่อการปรับตัวและการบรรเทาผลกระทบได้มุ่งเน้นไปที่การเกษตรที่มีความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ พลังงานทดแทน และการขนส่งคาร์บอนต่ำ”
ในปี 2566 ADB ให้คำมั่นด้านการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 6.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2565 และรวมถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในการจัดหาเงินทุนเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแก่โครงการที่ไม่ได้ดำเนินการกับภาครัฐ(nonsovereign) ADB ลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศอย่างมากในภาคส่วนที่สำคัญ เช่น การขนส่ง (2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เกษตรกรรม (1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และพลังงาน (1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ตัวอย่างเช่น ADB ให้การสนับสนุนโครงการภาครัฐและโครงการที่ไม่ได้ดำเนินการกับภาครัฐ 8 โครงการในอุซเบกิสถานเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงพลังงานสะอาดของประเทศ โครงการเหล่านี้ควบคู่ไปกับการลงทุนด้านพลังงานลมในปี 2565 จะช่วยเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในประเทศได้มากกว่า 2 ใน 3 และหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 4.3 ล้านตันต่อปี
ในปี 2566 เอเชียและแปซิฟิกประสบกับความยากลำบากอีกครั้ง จากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วหลายครั้งที่เลวร้ายลงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยภัยพิบัติเกิดขึ้นมากกว่า 200 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ ส่งผลโดยตรงต่อผู้คนเกือบ 40 ล้านคนทั่วทั้งภูมิภาคในปี2566 โดยมูลค่าความเสียหายโดยประมาณสูงถึง 48 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกัน ปี 2566 ได้รับการยืนยันว่าเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ทั่วโลก และอุณหภูมิที่สูงเป็นประวัติการณ์ได้รับการบันทึกไว้ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ไทย และเวียดนาม
ADB ยังเสริมสร้างความเข้มแข็งในการปฏิรูปนโยบายเพื่อเร่งการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ตัวอย่างเช่น ในบังกลาเทศ ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ธนาคารได้ให้กู้ยืมอิงตามนโยบายที่เน้นไปที่การปฏิรูป โดยเฉพาะเพื่อส่งเสริมการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ การจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อสภาพภูมิอากาศผ่านเงินให้กู้ที่อิงตามนโยบายของ ADB ซึ่งสนับสนุนการปฏิรูปในด้านต่างๆ เช่น การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ความยั่งยืนทางการคลัง และการกระจายอำนาจ เพิ่มขึ้นจาก 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2565 เป็น 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566
นอกจากเอดีบีได้ลงทุนอย่างมหาศาลในการสร้างพลังงานคุณภาพสูง ด้านการขนส่ง และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทุนมนุษย์ของภูมิภาค ด้วยการสนับสนุนด้านการศึกษาและด้านสุขภาพให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ADB สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพเพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการลงทุนในภาคการขนส่ง (4.8 พันล้านเหรียสหรัฐ) พลังงาน (2.2 พันล้านเหรียสหรัฐ) และน้ำและบริการอื่น ๆ ในเมือง (1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งรวมถึงเงินมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อปรับปรุงระบบรถโดยสารสาธารณะของเมืองดาเวาในฟิลิปปินส์ให้ทันสมัย นอกจากนี้ ADB ยังให้คำมั่นมูลค่า 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเสริมสร้างการเกษตรที่เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ห่วงโซ่คุณค่าทางการเกษตร ธุรกิจการเกษตร และแนวปฏิบัติการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อจัดการกับความมั่นคงด้านอาหารเมื่อเผชิญกับความท้าทายด้านน้ำและสภาพภูมิอากาศที่เชื่อมโยงถึงกัน
เพื่อเสริมสร้างการจัดการภาครัฐ ADB ทุ่มเงิน 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมได้จัดสรรเงิน 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐสำหรับด้านต่างๆ เช่น ทักษะและงานที่เกิดขึ้นใหม่ การปฏิรูปโรงเรียน และการฟื้นฟูการจ้างงานหลังการแพร่ระบาด
ในด้านสาธารณสุข ADB ได้ให้คำมั่นจัดเงิน 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อการปฏิรูปภาคส่วนและปรับปรุงการบริการ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางในการจัดการสถานการณ์ที่เปราะบางและได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง และมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่จะบริหารผ่านหน่วยงานของสหประชาชาติ เพื่อความมั่นคงด้านอาหารและการบริการด้านสุขภาพสำหรับชาวอัฟกานิสถาน
การจัดการกับความไม่เท่าเทียมกันทางเพศยังคงเป็นรากฐานสำคัญของงานของธนาคาร ซึ่งการดำเนินงานเกือบทั้งหมดในปี 2566 นั้นมีส่วนช่วยลดความไม่สมดุลต่างๆ ที่ยังคงเหลืออยู่ รวมไปถึงการสนับสนุนการบรรเทาผลกระทบทางเพศที่ไม่ได้สัดส่วนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
รายงานฉบับนี้ยังระบุว่า ADB สามารถช่วยยกระดับความก้าวหน้าของภูมิภาคในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างไร การปฏิรูปการบริหารจัดการเงินทุนหลักเมื่อปี 2566 จะทำให้การดำเนินงานด้านเงินกู้ของธนาคารในอนาคตแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยจะสามารถจัดสรรเงินกู้ได้สูงถึง 100 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในทศวรรษหน้า นอกจากนี้ เอดีบียังได้เริ่มการดำเนินงานแบบใหม่ (new operating model) ในปี 2566 ซึ่งเป็นปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถทำงานกับประเทศสมาชิกได้ดียิ่งขึ้น
“การดำเนินงานแบบใหม่จะทำให้ ADB ตอบสนองต่อความต้องการของประเทศสมาชิกได้ดียิ่งขึ้น รวดเร็วขึ้น และยังสามารถให้การสนับสนุนเป็นการเฉพาะสำหรับประเทศสมาชิกของเราได้มากขึ้น” นายมาซาสึกุ อะซาคาวา ประธาน ADB กล่าว
ADB มุ่งมั่นในการพัฒนาภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกให้เจริญรุ่งเรือง มีการพัฒนาอย่างทั่วถึง พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง และมีความยั่งยืน ในขณะเดียวกัน ยังคงพยายามในการขจัดปัญหาความยากจนต่อไป เอดีบีก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2509 โดยมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 68 ประเทศ โดย 49 ประเทศ มาจากประเทศในภูมิภาค
………………….
ADB Operations Reach $23.6 Billion in 2023, Achieve Record Climate Finance
MANILA, PHILIPPINES (25 April 2024) — The Asian Development Bank (ADB) committed $23.6 billion from its own resources in 2023, including $9.8 billion for climate action, to help Asia and the Pacific progress on sustainable development.
These figures are among the financial and operational results published today in ADB’s Annual Report 2023. The report summarizes how ADB supported its developing member countries (DMCs) to address the worsening climate crisis as well as the impacts of conflicts, food insecurity, and increased debt burdens, among other challenges.
“ADB continued to step up as the climate bank for Asia and the Pacific, reaching our highest-ever annual financing for climate action,” said ADB President Masatsugu Asakawa. “Our investments in adaptation and mitigation had a strong focus on climate-resilient agriculture, renewable energy, and low-carbon transport.”
The $23.6 billion comprised loans, grants, equity investments, guarantees, and technical assistance provided to governments and the private sector. Supplementing its own resources, ADB mobilized an additional $16.4 billion in cofinancing through its strong partnerships.
ADB invested heavily in building high-quality energy, transport, and other infrastructure essential for sustainable development. It further strengthened the region’s human capital through increased support for education and health.
Addressing gender inequality continued to be a cornerstone of the bank’s work, with almost all its 2023 operations contributing to reduce remaining imbalances, including support to mitigate the disproportionate gender impacts of climate change.
The report explains how ADB is evolving so it can help accelerate the region’s progress toward the Sustainable Development Goals. Major capital management reforms introduced in 2023 will bolster the bank’s future lending operations by unlocking up to $100 billion in new lending capacity over the next decade. ADB also began rolling out its new operating model in 2023, a generational transformation to improve the way the bank serves its clients.
“Our new operating model has enabled ADB to make the key shifts needed to deliver better, faster, and more tailored support to our DMCs,” said Mr. Asakawa.
ADB is committed to achieving a prosperous, inclusive, resilient, and sustainable Asia and the Pacific, while sustaining its efforts to eradicate extreme poverty. Established in 1966, it is owned by 68 members—49 from the region.
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
