ThaiPublica > เกาะกระแส > ศาล รธน.มีมติ 8 ต่อ 1 คงสถานะ ส.ส.ให้ “พิธา”

ศาล รธน.มีมติ 8 ต่อ 1 คงสถานะ ส.ส.ให้ “พิธา”

24 มกราคม 2024


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล

ศาล รธน.มีมติ 8 ต่อ 1 คืนสมาชิกภาพ ส.ส.ให้ “พิธา” ชี้ ITV ไม่มีรายได้จากการประกอบกิจการสื่อ พรรคก้าวไกลยัน “พิธา” พร้อมกลับไปทำหน้าที่ ส.ส.ในสภา ฯอีกครั้งตั้งแต่ 25 ม.ค.เป็นต้นไป

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 เวลา 14.02 น.คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้อ่านคำวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้องขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือ สื่อสารมวลชนใด ๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่

โดยคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ว่า การถือครองหุ้นสื่อของนายพิธา ไม่ขัดต่อต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 89 (3) จึงเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธาไม่สิ้นสุดลง ด้วยเหตุที่บริษัทไอทีวี ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่ ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่สนใจ ดังนี้

คณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือ สื่อมวลชนใด อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องว่างลงนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟัง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 105 วรรคหนึ่ง (2)

ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า คำร้องถูกต้องครบถ้วนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 42 จึงมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง หลักฐานทะเบียนผู้ถือหุ้น วัตถุประสงค์ตามหนังสือบริคณห์สนธิและงบการเงิน (แบบ ส.บช. 3) ของบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) เป็นเหตุเพียงพอให้ผู้ร้องควรเชื่อว่าผู้ถูกร้องเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

จึงปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้อง ประกอบกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ถูกร้อง อาจก่อให้เกิดปัญหาข้อกฎหมายและการคัดค้านโต้แย้งเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานสำคัญของที่ประชุมรัฐสภาและที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ จึงมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาสรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

  • ศาล รธน.สั่ง “พิธา” หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ตั้งแต่วันนี้
  • ผู้ถูกร้องยื่นคำร้อง ฉบับลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ขอขยายระยะเวลาการยื่น คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ออกไปอีก 30 วัน นับแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2566 และคำร้องฉบับลงวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ขอขยายระยะเวลายืนคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ครั้งที่ 2 ออกไปอีก 30 วันนับถัดจาก วันครบกำหนดขยายระยะเวลาครั้งแรกแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอ

    ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คำชี้แจงและเอกสารหลักฐานของบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งไต่สวนพยานและรับคำแถลงการณ์ปิดคดีของคู่กรณีรวมไว้ในสำนวนแล้ว เห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง กำหนดประเด็นที่ต้องพิจารณาวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ นับแต่เมื่อใด

    ผลการพิจารณา

    ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก ( 8 ต่อ 1 ) วินิจฉัยว่า ในวันที่พรรคก้าวไกลยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อต่อผู้ร้อง ผู้ถูกร้องเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) แต่ข้อเท็จจริงในทางไต่สวนรับฟังได้ว่าบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ไม่ได้ประกอบกิจการ หรือ มีรายได้จากกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ ผู้ถูกร้องจึงมิใช่ผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 1 คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ เห็นว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้อง สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98(3)

    “พิธา” เปิดใจ ขอเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนต่อ

    หลังฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ ว่า จากผลการตัดสินที่ออกมาจากนี้พร้อมที่จะเดินหน้าทำงานต่อไป ภารกิจแรก คือ จะแถลงแผนงานประจำปี ที่ได้รับมอบหมายจากนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล

    ส่วนที่จะกลับเข้าสภาได้เมื่อไหร่นั้น ต้องรอกระบวนการทางศาลรัฐธรรมนูญกับสภาให้เรียบร้อยก่อน และจะให้ทีมงานหารือกับทางสภาอีกครั้งว่าจะสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้เมื่อไหร่ เข้าใจว่า ทางวิปได้มีการหารือกันอยู่ว่าจะให้ตนกลับเข้าไปทำงานได้เมื่อไหร่ เพราะเป็นเรื่องที่ผูกพัน 2 องค์กร

    “หลังจากนี้ผมจะทำหน้าที่ส.ส. ให้สมกับที่รอมา วันนี้ในใจคิดแต่เรื่องการทำงาน และรอเวลาว่าจะได้กลับเข้าสภาเมื่อไหร่ ทั้งนี้การทำงานการเมืองในฐานะฝ่ายค้านจะต้องเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง จะรีบกลับไปเสริมทัพทำงานร่วมกับสมาชิกพรรคก้าวไกล ถ้าสภาไปเขียวเมื่อไหร่ก็จะกลับไปวันนั้นเลย” นายพิธา กล่าว

    ส่วนการปรับโครงสร้างของพรรคก้าวไกลก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามวาระ เป็นปีๆ ยังไม่มีแผนการว่าจะกลับเข้าไปเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลในตอนนี้

    ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญเตือนเรื่องของการออกมาใหสัมภาษณ์และให้ความเห็นก่อนศาลมีคำวินิจฉัยว่าไม่เหมาะสมนั้น นายพิธา ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ระมัดระวังมาโดยตลอด และจะระมัดระวังต่อไปบางครั้งก็มีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง อาจจะเป็นความเข้าใจผิดของสื่อมวลชนจึงจำเป็นที่จะต้องอธิบายเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความคลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริง

    สำหรับกรณีที่ยังมีประชาชนเรียกนายกพิธาอยู่นั้น นายพิธา กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ ตามลิสต์อยู่ว่าหากมีอุบัติเหตุหรืออะไรเกิดขึ้น สภาก็ยังมีการพูดคุยว่าคนที่อยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ยังเป็นแคนดิเดตนายกของพรรคก้าวไกล

    เมื่อถามว่าจะมีการดำเนินคดีกับกกต.หรือไม่ นายพิธา กล่าวสั้นๆ ว่า ไม่มีครับส่วนการวินิจฉัยคดีมาตรา 112 ที่ศาลฯกำหนดวินิจฉัยในวันที่ 31 ม.ค.นี้ นายพิธา กล่าวว่า ยังมีความหวังอยู่เสมอ

    อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกล ได้แจ้งว่า นายพิธา จะกลับเข้าไปทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 25 มกราคม 2567 นี้

    สำหรับบรรยากาศหลังศาลอ่านคำวินิจฉัยกองเชียร์พรรคก้าวไกลที่เดินทางมาร่วมฟังคำวินิจฉัยของศาลและให้กำลัง นายพิธา ต่างตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจที่นายพิธา ได้กลับเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง พร้อมกับตะโกนว่า นายกฯพิธา พร้อมบอกว่า เตรียมส่งนายกฯ เข้าสภาแล้ว

    นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล