ThaiPublica > เกาะกระแส > ศาล รธน.สั่ง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคมวันนี้

ศาล รธน.สั่ง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคมวันนี้

3 มีนาคม 2023


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ – สั่ง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคมตั้งแต่วันนี้ไปจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ปมถือหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น รวมทั้งชี้ขาดวิธีคำนวณจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ไม่นับรวมผู้ไม่ได้สัญชาติไทยเป็นราษฎร – ไม่มีผลย้อนหลังไปถึงการเลือกตั้งที่ผ่านมา

วันที่ 3 มีนาคม 2566 ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการพิจารณาวินิจฉัย กรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 54 คน ยื่นคำร้องต่อ ประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้น หรือ กิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วน และหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2553 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรค 1 (5) หรือไม่ ผู้ร้องจึงส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82

หลังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้อง และเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 วรรค 1 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (9) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับสำเนา

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรค 2 แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง จึงมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยแจ้งให้คู่กรณีและนายกรัฐมนตรีทราบ

นอกจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่ และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรค 1 (2) (เรื่องพิจารณาที่ 7/2566) ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) มีหนังสือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยในประเด็นที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจในการประกาศจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 ซึ่งผู้ร้องคิดคำนวณจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมีโดยนำจำนวนราษฎรทั้งประเทศ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรตามที่สำนักทะเบียนกลางประกาศ ณ วันที่ 31 ธันวาคมของปีที่ผ่านมา มาใช้ในการคิดคำนวณจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ต่อมามีผู้โต้แย้งและขอให้ผู้ร้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย

ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (1) ที่กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้งนั้น คำว่า “ราษฎร” ไม่หมายความรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย

โดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 76 วรรค 1 และวรรค 3 และไม่มีผลย้อนหลังไปถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมา