ThaiPublica > เกาะกระแส > อิสราเอล-ปาเลสไตน์ สู้รบรุนแรงรอบหลายทศวรรษ จากความขัดแย้งที่ฝังลึกนานนับพันปี

อิสราเอล-ปาเลสไตน์ สู้รบรุนแรงรอบหลายทศวรรษ จากความขัดแย้งที่ฝังลึกนานนับพันปี

9 ตุลาคม 2023


จรวดที่ยิงจากฉนวนกาซา ที่มาภาพ: https://www.timesofisrael.com/incoming-rocket-sirens-sound-across-southern-central-israel/?utm_campaign=most_popular&utm_source=website&utm_medium=article_end&utm_content=2

ช่วงเช้ามืดวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมากลุ่มติดอาวุธฮามาส ชาวปาเลสไตน์เปิดฉากโจมตีอิสราเอลในวันสำคัญทางศาสนาของชาวอิสราเอล หรือวันซิมหัต โทราห์ (Simchat Torah) ด้วยยิงขีปนาวุธมาจากฉนวนกาซากว่า 5,000 ลูก นับเป็นการถล่มที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดมาก่อนอีกครั้ง ก่อให้เกิดการสู้รบที่รุนแรงและร้ายแรงที่สุดวันหนึ่งในภูมิภาคในรอบหลายทศวรรษ

ฮามาส กลุ่มติดอาวุธที่ควบคุมฉนวนกาซา ยิงจรวดโจมตีหลายเมืองใหญ่ๆ ทั่วอิสราเอล และได้ส่งกลุ่มมือปืนที่ข้ามกำแพงกั้นบริเวณชายแดนฉนวนกาซามาข้ามพรมแดนไปยังอิสราเอลตอนใต้ พร้อมเข้ายึดฐานทัพและจับตัวประกัน

หลังจากนั้นเกิดการสู้รบที่ดุเดือดและร้ายแรงวันหนึ่งในภูมิภาคในรอบหลายทศวรรษ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า “เรากำลังทำสงคราม และเราจะชนะ”

การโจมตีเมื่อวันเสาร์เกิดขึ้น 50 ปีกับหนึ่งวันหลังจากกองกำลังอียิปต์และซีเรียเปิดฉากการโจมตีในช่วงวันหยุดยมคิปปูร์(วันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศาสนายูดาห์) ของชาวยิวหรือชาวอิสราเอล เพื่อที่จะยึดคืนดินแดนที่อิสราเอลยึดครองระหว่างความขัดแย้งช่วงสั้นๆ ในปี 1967

ลำดับเหตุการณ์ในวันเสาร์

ในเวลาประมาณ ุ6.30 น.(03.30 น. GMT)เปิดฉากโจมตีด้วยจรวด เสียงไซเรนเตือนการโจมตีทางอากาศครั้งแรกดังขึ้นและไกลถึงกรุงเทลอาวีฟและเบียร์เชบา เมื่อ กลุ่มฮามาสเปิดฉากการโจมตีด้วยการยิงจรวดจำนวนมากเข้าใส่ทางตอนใต้ของอิสราเอล

กลุ่มฮามาสอ้างว่า ได้ยิงจรวดไป 5,000 ลูกในการโจมตีครั้งแรก ด้านกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า มีการยิงจรวด 2,500 ลูก

ควันลอยไปทั่วพื้นที่ที่อยู่อาศัยของอิสราเอล และผู้คนหลบภัยอยู่หลังอาคารต่างๆ เมื่อมีเสียงไซเรนดังขึ้น มีรายงานผู้หญิงอย่างน้อยหนึ่งคนเสียชีวิตจากจรวด

“เราประกาศการเริ่มต้นของปฏิบัติการ Operation Al-Aqsa Flood และเราประกาศว่า การโจมตีครั้งแรกซึ่งกำหนดเป้าหมายที่ตำแหน่งของศัตรู สนามบิน และป้อมปราการทางทหาร มีขีปนาวุธและกระสุนเกิน 5,000 ลูก” โมฮัมเหม็ด เดอิฟ หัวหน้ากองพลน้อยอัลกอสซัม (Al-Qassam Brigades) ของกลุ่มติดอาวุธฮามาสกล่าว

ที่มาภาพ: https://www.timesofisrael.com/incoming-rocket-sirens-sound-across-southern-central-israel/?utm_campaign=most_popular&utm_source=website&utm_medium=article_end&utm_content=2

เวลา 7:40 น. (04:40 GMT)กลุ่มนักรบแทรกซึม การโจมตีด้วยจรวดถือเป็นการคุ้มกันให้กลุ่มนักรบที่มุ่งโจมตีไปพร้อมๆกัน อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยกองทัพอิสราเอลกล่าวเมื่อเวลา 07.40 น. ว่ามือปืนชาวปาเลสไตน์ได้ข้ามเข้าสู่อิสราเอล

เครื่องบินรบส่วนใหญ่ทะลุผ่าน พื้นที่ด้านความปลอดภัยที่กั้นฉนวนกาซาและอิสราเอล แต่ก็มีการจับภาพทหารฮามาสอย่างน้อยหนึ่งคนกำลังบินอยู่ด้านบนด้วยร่มชูชีพ อีกทั้งยังมีการเห็นเรือยนต์ลำหนึ่งบรรทุกเครื่องบินรบมุ่งหน้าไปยังเมืองซิคิม เมืองชายฝั่งทะเลของอิสราเอลซึ่งเป็นฐานทัพทหาร

ในวิดีโออีกชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นรถจักรยานยนต์อย่างน้อย 6 คันที่บรรทุกเครื่องบินรบกำลังทะลุรั้วโลหะที่กั้นข้ามมา ภาพถ่ายที่กลุ่มฮามาสเผยแพร่ยังเผยให้เห็นรถไถดินกำลังพังรั้วส่วนหนึ่ง

เวลา 9:45 น.(06:45 GMT) ระเบิดในฉนวนกาซา ได้ยินเสียงระเบิดในฉนวนกาซา และเวลา 10.00 น. (07.00 น. GMT) โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า กองทัพอากาศกำลังทำการโจมตีในฉนวนกาซา

เวลา 10.00 น. (07.00 GMT) การต่อสู้ที่ฐานทัพอิสราเอล กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นักรบปาเลสไตน์ได้เจาะเข้าไปในฐานทัพทหารอย่างน้อย 3 แห่งบริเวณชายแดน ได้แก่ จุดผ่านแดนเบอิต ฮานูน (Beit Hanoun แต่อิสราเอลเรียกว่า เอเรซ) ฐานทัพซิคิม และสำนักงานใหญ่แผนกฉนวนกาซา(Gaza division headquarters )ที่เรอิม

วิดีโอของกลุ่มฮามาสเผยให้เห็นกลุ่มนักรบกำลังวิ่งไปยังอาคารที่ถูกไฟไหม้ใกล้กับกำแพงคอนกรีตสูงที่มีหอสังเกตการณ์ และดูเหมือนว่านักรบจะบุกรุกพื้นที่ส่วนหนึ่งของกองทัพอิสราเอลและยิงจากด้านหลังกำแพง

ซาเลห์ อัล-อารูรี รองหัวหน้ากลุ่มฮามาสในเขตเวสต์แบงก์ที่ยึดครองไว้ ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ติดอาวุธ “เราทุกคนต้องต่อสู้กับการต่อสู้ครั้งนี้ โดยเฉพาะนักรบฝ่ายต่อต้านในเขตเวสต์แบงก์”

ในเวลาต่อมา มีภาพ การขับยานพาหนะทางทหารของอิสราเอลที่ยึดได้หลายคันเข้าไปในฉนวนกาซาและยกขบวนไปที่นั่น

บุกโจมตีเมืองชายแดน กลุ่มนักรบได้บุกโจมตีเมืองซีเดฮอต(Sderot) ของอิสราเอล กับ ชุมชน Be’eri อีกแห่งหนึ่ง และเมือง โอฟาคิม(Ofakim) ซึ่งอยู่ห่างจากฉนวนกาซาไปทางตะวันออก 30 กิโลเมตร ตามรายงานของสื่ออิสราเอล

ชาวบ้านที่อยู่อาศัยทางตอนใต้ของอิสราเอลได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับบ้านของตนเอง เพื่อใช้เป็นที่กำลังระเบิด และใช้เป็นห้องหลบภัย ทหารอิสราเอลสั่งให้ชาวบ้านซ่อนตัวอยู่ข้างใน โดยพูดทางวิทยุว่า “เราจะไปหาคุณ”

ในช่วงเย็น กองทหารอิสราเอลยังคงปฏิบัติการ เพื่อเก็บกวาดชุมชนที่ถูกบุกรุกโดยนักรบฮามาส

ที่มาภาพ: https://www.aljazeera.com/news/2023/10/7/what-happened-in-israel-a-breakdown-of-how-the-hamas-attack-unfolded

ผู้เสียชีวิต มาเกน เดวิด อาดอม หน่วยกู้ภัยแห่งชาติของอิสราเอล เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 ราย ขณะที่โรงพยาบาลได้รักษาผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน แหล่งข่าวทางการแพทย์ในฉนวนกาซาระบุว่า ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 198 คนถูกสังหารหลังการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล

กระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลกล่าวหาว่านักรบฮามาสไปแต่ละบ้านและสังหารพลเรือน

จับตัวประกัน สื่ออิสราเอลรายงานว่า กลุ่มมือปืนจับตัวประกันในเมืองโอฟาคิม กลุ่มกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์(Palestinian Islamic Jihad)กล่าวว่า พวกเขาได้ควบคุมตัวทหารอิสราเอล และสื่อโซเชียลมีเดียของฮามาสก็เผยให้เห็นภาพที่ดูเหมือนว่ามีการนำตัวประกันเข้าไปในฉนวนกาซา

วิดีโออีกชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ชายหนุ่ม 3 คนในชุดเสื้อกั๊ก กางเกงขาสั้น และรองเท้าแตะกำลังเดินผ่านจุดรักษาความปลอดภัยที่มีข้อความภาษาฮีบรูอยู่บนผนัง ขณะที่วิดีโออีกหลายชิ้น แสดงให้เห็นตัวประกันหญิง และทหารอิสราเอลถูกลากออกจากยานรบของทหาร
เวลา 19:00 GMT – Fighting continuing

19:00 GMT – การสู้รบยังต่อเนื่อง การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลยังคงดำเนินต่อไปในช่วงดึกของคืนวันเสาร์ เช่นเดียวกับการยิงจรวดใส่ทางตอนใต้ของอิสราเอล กองทหารอิสราเอลยังคงต่อสู้กับกลุ่มมือปืนกลุ่มฮามาสใน 22 จุดใกล้ฉนวนกาซา ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าวิตกของการโจมตีในวงกว้าง

กองทัพอิสราเอลกล่าวว่ายังคงต่อสู้กับผู้แทรกซึมชาวปาเลสไตน์จำนวน “หลายร้อย”

ที่มาภาพ: https://www.timesofisrael.com/what-happened-in-israel-the-hamas-attack-its-grim-toll-and-whats-next/

อิสราเอลประกาศประเทศเข้าสู่สงคราม

การสู้รบยังมีต่อเนื่องไปถึงวันอาทิตย์และยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติ

ฝ่ายบริหารของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีความมั่นคงได้ประกาศให้ประเทศเข้าสู่การทำสงคราม ภายหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาสที่มีผู้เสียชีวิตทางตอนใต้ของอิสราเอล

การตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งประกาศเมื่อวันอาทิตย์ ให้อำนาจอย่างเป็นทางการ “ในการดำเนินการตามขั้นตอนสำคัญทางทหาร” แถลงการณ์ระบุ

“อิสราเอลถูกบีบให้ทำสงคราม จากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายจากฉนวนกาซาเริ่มต้นเมื่อเวลา 06.00 น. เมื่อวานนี้”แถลงการณ์ระบุ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูประกาศให้ประเทศเข้าสู่ภาวะสงคราม และกองทัพได้ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้อย่างรุนแรงในฉนวนกาซา

หน่วยงานสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ (U.N. agency for Palestinian Refugees:UNRWA) เปิดเผยว่า มีผู้คนกว่า 20,000 คนต้องหลบภัยในโรงเรียน 44 แห่งทั่วฉนวนกาซาภายในเย็นวันเสาร์

“จำนวน (ผู้พลัดถิ่น) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว” อินาส ฮัมดาน รักษาการเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ในฉนวนกาซา กล่าว

หน่วยงาน UNRWA กล่าวว่า โรงเรียน 3 แห่งของตนเองเสียหายจากการถูกลูกหลง(collateral damage) จากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล นอกจากนี้ได้ปิดการใช้บ่อน้ำ 9 แห่งรอบฉนวนกาซาเมื่อเช้าวันเสาร์ แต่ได้เปิดใช้บ่อน้ำ 3 บ่ออีกครั้งในวันอาทิตย์ ศูนย์กระจายอาหารของหน่วยงานซึ่งจัดหาอาหารให้แก่ชาวกาซามากกว่า 540,000 คน ถูกปิดตั้งแต่วันเสาร์

ในโรงเรียน UNRWA ในย่านเชค รัดวาน(Sheikh Radwan) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของใจกลางเมืองกาซา ชาวบ้านเล่าว่า การโจมตีของอิสราเอลเมื่อคืนนี้ตกลงมายังพื้นที่ของโรงเรียน ทำให้เกิดความตื่นตระหนกและผู้ที่พักพิงที่นั่นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ส่วนอีกโรงเรียนหนึ่งซึ่งใช้เป็นสถานที่พักพิงในเมืองใจกลางกาซา ผู้คนกำลังกองผ้าห่มและอาหารในอาคารสามชั้น ผู้มาใหม่นำที่นอนมาเพื่อจัดเด็กๆ ไว้ในห้องเรียนขนาดเล็กและแออัด

ความขัดแย้งที่ฝังลึกนับพันปี

การต่อสู้ครั้งนี้อาจเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2564 แต่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งที่ซับซ้อนและขมขื่นที่ย้อนกลับไปถึงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

ความขัดแย้งนี้เกิดขึ้นมาก่อนที่จะมีพระคัมภีร์ไบเบิลเสียอีก แม้พรมแดนจะเปลี่ยนไปตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ดินแดนซึ่งเคยเป็นปาเลสไตน์ ปัจจุบันคืออิสราเอล กาซา และเวสต์แบงก์

ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และอัตลักษณ์ของชาวยิวอิสราเอล และอาหรับปาเลสไตน์เชื่อมโยงกับดินแดนปาเลสไตน์และเมืองโบราณเยรูซาเลม “หนึ่งในเมืองที่มีความขัดแย้งอย่างขมขื่นที่สุดในโลก” จากรายงานของ The Associated Press

70 ปีก่อนคริสตกาล เมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งถูกหว่านลงไป เมื่อชาวยิวก่อกบฏและยึดครองกรุงเยรูซาเล็มในปีคริสตศักราช 66 ซึ่งก่อให้เกิดสงครามโรมัน-ยิวครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ในปีคริสตศักราช 70 ชาวโรมันยึดกรุงเยรูซาเลมได้ และทำลายวิหารที่สอง เหลือไว้เพียงเศษเสี้ยวของกำแพงด้านตะวันตก

ศตวรรษที่ 7 การเผยแผ่ศาสนาอิสลามทำให้เกิดการอพยพชาวยิวจำนวนมากไปยังยุโรป โดยเฉพาะเยอรมนี ท่ามกลางการข่มเหงในวงกว้าง

ปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 เป็นช่วงที่ชาวยิวอพยพไปยังปาเลสไตน์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมัน และเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการไซออนิสต์(ลัทธิยิวที่ยึดเอาปาเลสไตน์เป็นของยิว) ความตึงเครียดเริ่มคุกรุ่นขึ้นระหว่างผู้อพยพชาวยิวและชาวอาหรับ

จักรวรรดิออตโตมันครองภูมิภาคนี้ประมาณ 400 ปีก่อนที่จะพ่ายแพ้ เช่นเดียวกับเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 1 สันนิบาตชาติ(League of Nations) ได้ยกการควบคุมปาเลสไตน์ให้อังกฤษในปี ค.ศ. 1920 ภายใต้คำสั่งที่เรียกว่า อาณัติของอังกฤษ(British Mandate)

ในปีค.ศ.1917 รัฐบาลอังกฤษส่งสัญญาณสนับสนุนการสถาปนารัฐยิวในอิสราเอลด้วยปฏิญญาบัลโฟร์(Balfour Declaration)

แม้ปฏิญญาระบุถึงการสนับสนุน แต่ก็ได้ระบุด้วยว่า “จะต้องไม่กระทำการใดๆ ที่อาจกระทบต่อสิทธิพลเมืองและศาสนาของชุมชนที่ไม่ใช่ชาวยิวที่มีอยู่ในดินแดนปาเลสไตน์ หรือสิทธิและสถานะทางการเมืองที่ชาวยิวได้รับในประเทศอื่น”

การย้ายถิ่นของชาวยิวจากยุโรปตะวันออกและยุโรปกลางเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1922 ถึง 1947 เนื่องจากชาวยิวหนีการประหัตประหารและการทำลายล้างชุมชนของตนในช่วงระหว่างสงคราม(interwar period)และระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อสิ้นสุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวยิวในยุโรปมากกว่า 6 ล้านคนถูกสังหาร และผู้รอดชีวิตจำนวนมากถูกทิ้งให้ไร้สัญชาติ

เมื่อจำนวนผู้อพยพชาวยิวเพิ่มขึ้น ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากต้องพลัดถิ่น พวกเขาเริ่มตอบโต้และส่งผลให้เกิดความรุนแรง

ในปีค.ศ. 1929 ชาวยิว 67 คนถูกสังหารในการสังหารหมู่ที่เมืองฮีบรอน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจลาจลของชาวปาเลสไตน์เพื่อต่อต้านการอพยพของชาวยิวในปาเลสไตน์

ที่มาภาพ:https://www.aljazeera.com/news/2021/5/18/mapping-israeli-occupation-gaza-palestine

ดินแดนพิพาท

กาซา หรือที่รู้จักกันในชื่อฉนวนกาซา เป็นถิ่นที่อยู่ของชาวปาเลสไตน์ประมาณ 2 ล้านคน หลายคนต้องพลัดถิ่นหลังจากออกเดินทางหรือถูกขับออกจากอิสราเอลในช่วงสงครามประกาศเอกราช( War of Independence)

เวสต์แบงก์ เล็กกว่าเดลาแวร์ของสหรัฐ เวสต์แบงก์อยู่ทางตะวันออกของอิสราเอล มีชาวปาเลสไตน์ประมาณ 3 ล้านคนอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่เป็นชาวอาหรับมุสลิม เวสต์แบงก์มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิวจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีผู้แสวงบุญหลายพันคนเดินทางมาสักการะทุกปี

เยรูซาเลมตะวันออก เยรูซาเลมเองเป็นเมืองที่ถูกแบ่งแยกและมีข้อพิพาท ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนหลังสงครามอาหรับ-อิสราเอลในปี ค.ศ. 1948 อิสราเอลควบคุมทางตะวันตกและจอร์แดนควบคุมทางตะวันออก อิสราเอลยึดเมืองทั้งเมืองในสงครามหกวัน(Six-Day War)ปี ค.ศ. 1967

แม้ว่ากรรมสิทธิ์ในกรุงเยรูซาเล็มจะถูกโต้แย้ง แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลอ้างว่า กรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงที่ไม่มีการแบ่งแยกของอิสราเอล ในปีค.ศ 2017 ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้ย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ในอิสราเอลจากเทลอาวีฟไปยังกรุงเยรูซาเลม เป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการว่ากรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวง

อย่างไรก็ตาม ประเทศส่วนใหญ่ไม่ยอมรับว่ากรุงเยรูซาเล็มเป็นของชาวอิสราเอลหรือชาวปาเลสไตน์

ใครสู้กับใคร

กลุ่มฮามาส ฮามาสเป็นกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ที่ใหญ่ที่สุด จัดตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1987 ระหว่างการลุกฮือของชาวปาเลสไตน์ครั้งแรกเพื่อต่อต้านการยึดครองฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ของอิสราเอล และได้ควบคุมฉนวนกาซานับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งในปีค.ศ.2007 กลุ่มฮามาสมุ่งมั่นที่จะทำลายล้างอิสราเอล และถือเป็นกลุ่มก่อการร้ายโดยสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศอื่นๆ ประเทศต่างๆ

กองกำลังป้องกันอิสราเอล Israeli Defense Forces(IDF) คือ กองกำลังติดอาวุธผสมของอิสราเอล รวมถึงกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1948 สองสัปดาห์หลังจากที่อิสราเอลประกาศตัวเป็นประเทศ

ที่มาภาพ: https://www.usatoday.com/story/graphics/2023/10/07/history-of-israel-and-palestine-conflict-and-the-latest-hamas-attacks-war-in-gaza-in-maps/71098600007/

การสร้างสันติภาพล้มเหลว

ปีค.ศ. 1947 สหประชาชาติลงมติให้แบ่งปาเลสไตน์ออกเป็นรัฐยิวและอาหรับ และทำให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองระหว่างประเทศ แต่ชาวอาหรับปฏิเสธแผนดังกล่าว ซึ่งถูกยกเลิกในเวลาต่อมา

ค.ศ. 1948 หลังจากอาณัติอังกฤษสิ้นสุดลงในวันที่ 14 พฤษภาคม สภาประชาชนชาวยิวได้ประชุมกันที่เทลอาวีฟ และสถาปนาประเทศอิสราเอล สหรัฐฯ ยอมรับประเทศใหม่อย่างเป็นทางการในวันนั้น สหภาพโซเวียตรับทราบในสามวันต่อมา

ค.ศ. 1949 ข้อตกลงสงบศึก(Armistice Agreements) เป็นความพยายามของสหประชาชาติในการไกล่เกลี่ย เพื่อนำสันติภาพมาสู่ปาเลสไตน์ อิสราเอลลงนามข้อตกลงกับอียิปต์ จอร์แดน ซีเรีย และเลบานอน เพื่อบรรลุสนธิสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการภายใน 6 เดือน แต่ท้ายที่สุดแล้วความพยายามก็ล้มเหลว

ค.ศ. 1956 อียิปต์โอนคลองสุเอซให้เป็นของรัฐ และห้ามไม่ให้เรืออิสราเอลใช้คลองสุเอซและช่องแคบติราน ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรืออีกเส้นทางหนึ่ง อิสราเอลได้รับความช่วยเหลือจากอังกฤษและฝรั่งเศสบุกอียิปต์ สหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นพันธมิตรของอียิปต์ ขู่ว่าจะตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ และสหรัฐฯ กดดันให้กองกำลังอังกฤษ ฝรั่งเศส และอิสราเอลถอนตัว สหประชาชาติส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้ามา

ค.ศ. 1964 องค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์(Palestine Liberation Organization) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีเป้าหมายในการรวมกลุ่มอาหรับเข้าด้วยกันและปลดปล่อยดินแดนปาเลสไตน์ผ่านการต่อสู้ด้วยอาวุธ จัดตั้งขึ้นในอียิปต์

ค.ศ. 1967 สงครามหกวันเกิดขึ้นจากความขัดแย้งในคลองสุเอซ อียิปต์สั่งให้กองกำลังสหประชาชาติถอนตัว พร้อมปิดช่องแคบติรานไปยังอิสราเอลอีกครั้ง และวางแผนโจมตีอิสราเอลอย่างลับๆ

ในการชิงโจมตีก่อน อิสราเอลถล่มอียิปต์ และต่อมาคือจอร์แดนและซีเรีย โดยยึดฉนวนกาซา เวสต์แบงค์ เยรูซาเลมตะวันออก ที่ราบสูงโกลัน และคาบสมุทรซีนาย

ทหารอิสราเอลถูกจับตัวโดยซีเรีย ที่มาภาพ:https://edition.cnn.com/2013/10/08/opinion/frum-yom-kippur-war-anniversary/index.html

การเปลี่ยนแปลงในอิสราเอล

ค.ศ. 1973 สงครามยม คิปปูร์ เริ่มต้นขึ้น โดยอียิปต์และซีเรียโจมตีอิสราเอลในวันไถ่บาปซึ่งเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของปีของชาวยิว สงครามนี้เป็นความพยายามที่จะพลิกกลับความพ่ายแพ้ของสงครามเมื่อปี ค.ศ.1967

หลังจากไม่รู้ตัว อิสราเอลโต้กลับและคว้าชัย สหรัฐฯ ช่วยให้ทำข้อตกลงแยกตัวจากนักรบ โดยวางรากฐานสำหรับความพยายามด้านสันติภาพในอนาคต

ค.ศ. 1979 ข้อตกลงแคมป์เดวิด(Camp David Accords) ซึ่งเป็นข้อตกลงสันติภาพอิสราเอล-อียิปต์ โดยประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ และลงนามโดยประธานาธิบดีอันวาร์ ซาดัต แห่งอียิปต์ และนายกรัฐมนตรีเมนาเคม เบกิน ของอิสราเอล

ค.ศ. 1979 อิสราเอลเริ่มถอนตัวออกจากซีนายอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ค.ศ. 1987 ชาวปาเลสไตน์ก่อการลุกฮือขึ้นเป็นครั้งแรกจากการลุกฮือสองครั้ง หรือที่เรียกว่า อินติฟาเฎาะฮ์ intifadas ในฉนวนกาซา อิสราเอล และเวสต์แบงก์ โดยใช้การคว่ำบาตรครั้งใหญ่ การขัดขืนของพลเมือง และการโจมตีชาวอิสราเอล พลเรือนอิสราเอลมากกว่า 50 คนถูกสังหาร เหตุการณ์อินติฟาเฎาะฮ์กินเวลานานกว่า 5 ปี สิ้นสุดในเดือนกันยายน ค.ศ.1993

ทหารอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์ 1,070 คน รวมถึงเด็ก 237 คน ตามข้อมูลของ B’Tselem องค์กรสิทธิมนุษยชนของอิสราเอล ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวสังหารชาวปาเลสไตน์ 54 คน สหรัฐฯ และสหประชาชาติวิพากษ์วิจารณ์การใช้กำลังสังหารของอิสราเอล

ค.ศ. 1991 เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ อินติฟาเฎาะฮ์ การประชุมมาดริด( Madrid Conference) ซึ่งเป็นการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ของผู้เข้าร่วมทั้งหมดในความขัดแย้งระหว่างอาหรับกับอิสราเอล มีสหรัฐอเมริกาและรัสเซียเป็นประธาน

ที่มาภาพ: https://www.nytimes.com/2023/10/07/world/middleeast/israel-gaza-conflict-timeline.html

1993: ข้อตกลงออสโลฉบับที่ 1(Oslo I) หรือที่รู้จักในชื่อปฏิญญาหลักการ (Declaration of Principles) ลงนามโดยนายกรัฐมนตรียิตซัค ราบินของอิสราเอล และยัสเซอร์ อาราฟัต ผู้นำปาเลสไตน์ ได้กำหนดตารางเวลาสำหรับกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง

ค.ศ.1995 มีการลงนามในข้อตกลงออสโลฉบับที่ 2 ซึ่งเป็นข้อตกลงที่องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์รับรองสถานะประเทศของอิสราเอล และอิสราเอลอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์มีการปกครองตนเองอย่างจำกัดในฉนวนกาซา

ค.ศ. 2000 ประธานาธิบดีบิล คลินตัน นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เอฮุด บารัค และผู้นำปาเลสไตน์ ยัสเซอร์ อาราฟัต รวมตัวกันที่การประชุมสุดยอดแคมป์เดวิด ซึ่งเป็นการประชุมที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อยุติสงคราม แต่จบลงโดยไม่มีข้อตกลง

ชาวปาเลสไตน์ผิดหวังกับความล้มเหลวในการสร้างรัฐปาเลสไตน์ จึงเริ่มต้นลุกฮืออินติฟาเฎาะฮ์ ครั้งที่สองในเดือนกันยายน และนานจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 ซึ่ง B’Tselem ประมาณการว่ามีชาวปาเลสไตน์มากกว่า 3,100 คนและชาวอิสราเอลเกือบ 1,000 คนถูกสังหาร

ค.ศ. 2005 อิสราเอลถอนตัวออกจากฉนวนกาซาแต่ยังคงควบคุมอยู่

ค.ศ. 2007 กลุ่มฮามาส กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ชนะการเลือกตั้งในฉนวนกาซา

ค.ศ. 2008 อิสราเอลเปิดฉากการใช้กำลังทางทหารครั้งใหญ่ต่อกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา หลังจากกลุ่มติดอาวุธยิงจรวดเพิ่มขึ้น การสู้รบสิ้นสุดลงในวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 2009 โดยมีชาวปาเลสไตน์ 1,440 คน และชาวอิสราเอล 13 คนเสียชีวิต

ค.ศ. 2012 กองกำลังอิสราเอลสังหารอาห์เหม็ด จาบารี ผู้นำทหารของกลุ่มฮามาสด้วยการโจมตีด้วยขีปนาวุธ การโจมตีดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการของอิสราเอลเพื่อกำจัดอาวุธและกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซา กลุ่มฮามาสกล่าวว่าการสังหารได้ “เปิดประตูนรก”

ค.ศ. 2014 กลุ่มฮามาสลักพาตัวและสังหารวัยรุ่นชาวอิสราเอล 3 คนในเขตเวสต์แบงก์ จุดชนวนให้เกิดสงครามฉนวนกาซา ซึ่งการโจมตีด้วยจรวดและการโจมตีทางอากาศคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไป 2,251 ราย และชาวอิสราเอล 73 ราย ผู้นำอาวุโสของกลุ่มฮามาสยกย่องการลักพาตัวครั้งนี้ และกล่าวว่า จะจุดชนวนการลุกฮือของชาวปาเลสไตน์ครั้งใหม่

สงครามกินเวลา 50 วัน และจบลงด้วยการพักรบ รายงานของสหประชาชาติระบุว่าทั้งสองฝ่ายอาจก่ออาชญากรรมสงคราม ซึ่งอิสราเอลและฮามาสพากันโต้แย้ง

ค.ศ. 2017 ฝ่ายบริหารของทรัมป์กล่าวว่าจะย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ในอิสราเอลจากเทลอาวีฟไปยังกรุงเยรูซาเลม ส่งผลให้สหรัฐฯ ยอมรับอย่างเป็นทางการถึงการอ้างสิทธิของอิสราเอลต่อเมืองนี้ สถานทูตจะย้ายที่ตั้งในปี 2018

ค.ศ. 2018 การประท้วงปะทุบริเวณชายแดนกาซา-อิสราเอล ขณะย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ผู้ประท้วงขว้างระเบิดและก้อนหินข้ามรั้วกั้น และต้องเจอกับเสียงปืนและแก๊สน้ำตา กระทรวงสาธารณสุขฉนวนกาซา ระบุว่า ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 58 คนถูกสังหาร

ค.ศ.2021 การต่อสู้ปะทุขึ้นอีกครั้งเมื่อตำรวจอิสราเอลบุกโจมตีมัสยิดอัล-อักซอในกรุงเยรูซาเลมเมื่อวันที่ 13 เมษายน ซึ่งเป็นคืนแรกของเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม และตัดการเชื่อมต่อลำโพงที่กระจายเสียงสวดมนต์ ขณะที่รูเวน ริฟลิน ประธานาธิบดีอิสราเอล กำลังปราศรัยที่กำแพงตะวันตก ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวยิว

ตำรวจอิสราเอลบุกโจมตีมัสยิดอัล-อักซอในกรุงเยรูซาเลม 2021 ที่มาภาพ:https://www.nytimes.com/2023/10/07/world/middleeast/israel-gaza-conflict-timeline.html

จากนั้นตำรวจก็ปิดจัตุรัสใกล้เคียงซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมยอดนิยม ชาวปาเลสไตน์และชาวยิวเริ่มโจมตีกัน และตำรวจอิสราเอลบุกเข้าไปในมัสยิดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม

ชาวมุสลิมมองว่าการโจมตีสถานที่ซึ่งถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมในคืนศักดิ์สิทธิ์ที่สุดช่วงหนึ่งของเดือนรอมฎอน เป็นการดูหมิ่น

กลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ยิงจรวดเข้าอิสราเอลจากฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม อิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศ

การหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 21 พฤษภาคม และกินเวลาจนถึงวันที่ 16 มิถุนายน เมื่อกลุ่มฮามาสส่งบอลลูนไฟ(incendiary balloons) เช่น ลูกโป่งฮีเลียมหรือว่าวที่มีอุปกรณ์ไวไฟติดอยู่ ข้ามพรมแดนฉนวนกาซาเข้าสู่อิสราเอล

หน่วยดับเพลิงของอิสราเอลบอกว่า อุปกรณ์ดังกล่าวทำให้เกิดเพลิงไหม้ภาคพื้นดิน 20 ครั้งในทุ่งนาใกล้ชายแดน ด้านกลุ่มฮามาสเปิดตัวอุปกรณ์ดังกล่าวหลังจากเจ้าหน้าที่อิสราเอลอนุญาตให้ผู้ประท้วงหัวรุนแรงชาตินิยมเดินขบวนในกรุงเยรูซาเล็ม

ค.ศ. 2022 ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนปี ค.ศ. 2022 อิสราเอลประสบกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายหลายครั้ง ส่งผลให้อิสราเอลต้องดำเนินการตามที่เรียกว่าเป็นปฏิบัติการเชิงป้องกัน ซึ่งรวมถึงการโจมตีทางอากาศที่มุ่งเป้าไปที่ผู้บัญชาการอาวุโสและคลังอาวุธ ต่อกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เช่น ญิฮาดอิสลาม(Islamic Jihad)

ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 44 คน รวมถึงเด็ก 15 คน ถูกสังหารในเหตุการณ์รุนแรงที่กินเวลาสามวันในเดือนสิงหาคม ค.ศ.20225

ค.ศ.2023 ในเดือนมกราคมของปีนี้เช่นกัน อิสราเอลเปิดฉากการโจมตีครั้งแรกงต่อค่ายผู้ลี้ภัยเยนินในเขตเวสต์แบงก์ โดยระบุว่ากลุ่มติดอาวุธและนักเคลื่อนไหวชาวปาเลสไตน์กำลังซ่อนตัวอยู่

การโจมตีครั้งที่สองในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.2023 อิสราเอลส่งทหารประมาณ 1,000 นายที่ได้รับการสนับสนุนจากการโจมตีด้วยโดรน ไปยังเยนิน เพื่อทำลายสิ่งที่อิสราเอลเรียกว่า “ศูนย์บัญชาการ” ของกลุ่มติดอาวุธ

ล่าสุดตุลาคม 2023 ในการรุกครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี มือปืนหลายสิบคนจากกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์แทรกซึมทางตอนใต้ของอิสราเอลในการโจมตีแบบไม่คาดคิด ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับวันหยุดสำคัญของชาวยิว ตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า กลุ่มฮามาสได้ยิงจรวดหลายพันลูกเข้าใส่อิสราเอล หน่วยกู้ภัยแห่งชาติของอิสราเอล ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยหลายสิบคนและบาดเจ็บหลายร้อยคน