“เศรษฐา ทวีสิน” เรียกประชุม ครม.นัดพิเศษพรุ่งนี้ เร่งเคลียร์นโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ – แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก่อนแถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ 11 ก.ย.นี้ เผยจ่ายงวดเดียวจบ – ไม่เกินไตรมาสแรกของปีหน้า ยืนยันการทำงานกับพรรคร่วมฯ ไม่มีแบ่งฝ่าย-แบ่งขั้ว ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก
เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 เวลา 11.30 น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ (ครม.) ขึ้นรถตู้ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อไปเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน
จากนั้นในเวลา 14.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่มาร่วมกันถ่ายรูปหมู่บริเวณด้านหน้าของตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
หลังจากถ่ายรูปหมู่เสร็จในเวลา 14.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า “วันนี้ผมได้นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมและคณะรัฐมนตรีจะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการต่อไป ผมขอยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ เป็นรัฐบาลของประชาชน และทุกท่านในที่นี้มาเพื่อเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนทุกคน รัฐบาลชุดนี้มีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหา ซึ่งมีมากมาย เราจะทำงานอย่างลืมความเหน็ดเหนื่อย ทุกวัน ทุกนาที เราจะเอาความต้องการของพี่น้องประชาชนทุกคนเป็นที่ตั้ง โดยในวันศุกร์นี้จะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น , จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย เพื่อเปิดรับฟังปัญหากับพี่น้องประชาชนทุกคน ซึ่งจะนำมาใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป”
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ในวันจันทร์ที่ 11 กันยายนนี้จะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา รัฐบาลนี้จะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยการฟื้นฟูความยุติธรรมให้เข้มแข็ง โปร่งใส โดยประชาชนมีส่วนร่วม รัฐบาลจะดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน บริหารประเทศให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนในอนาคต และในวันพุธที่ 6 กันยายนนี้จะมีประชุม ครม.นัดพิเศษ เพื่อหารือกันก่อนที่จะมีการแถลงนโยบายในวันจันทร์หน้า
ที่มาภาพ : www.thaigov.go.th/
นายเศรษฐา กล่าวว่า การประชุม ครม.นัดพิเศษนี้จะถือเป็นครั้งแรกที่จะมาร่วมพูดคุยกัน หลายท่านในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ก็มีความคิดความเห็นที่ดี และเห็นว่าเรื่องเศรษฐกิจ เป็นเรื่องสำคัญ ขอพูดคุยภายในพรรคร่วมรัฐบาลกันก่อน ถึงจะแจ้งให้สื่อมวลชนรับทราบ ส่วนเรื่องการแบ่งงานนั้น ก็ยังต้องพูดคุยกันก่อน เพราะบางคนก็เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก ขอย้ำอะไรทำได้ ก่อนจะทำทันที และขอโอกาสให้รัฐมนตรีทุกคนทำงานก่อน
ส่วนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทนั้น นายเศรษฐา ชี้แจงว่า “ไม่เคยพูดว่า 100 วัน จะทำเรื่องเงิน 10,000 บาท ให้เสร็จ ยังไม่เคยบอก แต่คิดว่าไม่เกินไตรมาสแรกปีหน้า และจะเป็นการจ่ายงวดเดียว”
นอกจากนี้นายเศรษฐา ยังบอกว่า “ต้องให้ความเป็นธรรมกับท่านรัฐมนตรี และผมเชื่อว่าทุกท่านเข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนในการทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันว่า ไม่มีการแบ่งพรรค แบ่งฝ่าย แบ่งขั้ว แบ่งก๊วน ยึดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง”
“ผมมั่นใจว่ารัฐมนตรีทุกคนจะทำงานหนักกันทุกวัน นโยบายที่ประชาชนอยากได้ ทำก่อน และ ยืนยันในวงกินข้าวกับรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ผมไม่ได้พูดว่า หากทำงานไม่ได้แล้วจะเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น เพียงแต่อะไรที่ทำได้ให้ทำไปก่อน อะไรที่ทำไม่ได้ก็ต้องมาช่วยกันดู แต่ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ทำอะไรเลย” นายเศรษฐา กล่าว
ส่วนผู้สื่อข่าวถามว่า นายเศรษฐาจะนอนที่ทำเนียบรัฐบาลเลยหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า “ขอดูก่อนครับ”
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ถ้าให้บอกคำเดียวกับพี่น้องประชาชน จะขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนี้ว่า เรามีความตั้งใจจริง เราตระหนักดีในปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ความแตกแยกทางความคิด ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญเท่าเทียมกัน แล้วจะจัดการปัญหา และมั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
สำหรับประวัติของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นั้นเกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2506 ปัจจุบันอายุ 60 ปี การศึกษาระดับปริญญาโท ด้านการเงิน จาก Claremont Graduate School สหรัฐอเมริกา
เริ่มต้นทำงานด้านธุรกิจปี 2529 บริษัท P&G ประเทศไทย (จำกัด) และดำรงตำแหน่งประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
ก่อนเลือกตั้งปี 2566 นายเศรษฐาได้ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งในบริษัท แสนสิริ พร้อมโอนหุ้นทั้งหมดของ บมจ.แสนสิริ (SIRI) จำนวนกว่า 661,002,734 หุ้น ให้แก่ นางสาวชนัญดา ทวีสิน ซึ่งเป็นบุตรสาว และเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
