
ครม.เคาะลด “ค่าไฟฟ้า” รอบ 2 จาก 4.10 บาท/หน่วย เหลือ 3.99 บาท เริ่มงวด ก.ย.-ธ.ค.2566 “พีระพันธุ์” สั่งอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เร่งหาแนวทางลดราคาเบนซินต่อ
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบปรับลดค่าไฟฟ้างวดเดือนกันยายน – ธันวาคม 2566 เป็นครั้งที่ 2 จาก 4.10 บาทต่อหน่วย ลดลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “ทำอยู่ ทำต่อ ค่าไฟ 3.99” โดยระบุว่า ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ผมได้เสนอเรื่องปรับลดราคาไฟฟ้าเพิ่มเติมต่อที่ประชุม ครม.อีกครั้ง หลังจากที่ประชุม ครม.นัดแรกมีมติรับทราบแนวทางการปรับลดค่าไฟฟ้าของกระทรวงพลังงาน (พน.) ลงเหลือหน่วยละไม่เกิน 4.10 บาท ในคราวการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 โดย ครม. มีมติให้ กระทรวงพลังงาน ดำเนินการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเพื่อหาทางลดค่าไฟฟ้าลงอีก
หลังจากนั้นผมได้รีบหารือกับผู้บริหารของกระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) โดยเร่งด่วน มีความเห็นตรงกันว่าสามารถปรับลดค่าไฟฟ้าลงมาได้อีกในอัตราไม่เกินหน่วยละ 3.99 บาท หากเป็นนโยบายรัฐบาล โดย กกพ.จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลต่อไป
นายพีระพันธุ์ ยังระบุอีกว่าวันนี้ ผมจึงนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ครม. อีกครั้ง เพื่อให้ ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่ ครม. มีมติเห็นชอบ จึงถือเป็นนโยบายรัฐบาลที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ต้องปฏิบัติให้ค่าไฟฟ้า งวดเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2566 อยู่ในอัตราไม่เกินหน่วยละ 3.99 บาท จึงขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับการปรับลดค่าไฟฟ้าลงสองครั้งในเจ็ดวัน
เป็นการทำงานอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาลและกระทรวงพลังงานอย่างแท้จริง ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่ของกระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการ กกพ.ที่ช่วยกัน ทำให้เรื่องนี้ประสบความสำเร็จได้ครับ
สำหรับน้ำมันเบนซินนั้น ผมได้มอบหมายให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานไปหาแนวทางปรับลดราคา หรือ หามาตรการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มพิเศษที่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเบนซินในการประกอบอาชีพโดยเร่งด่วนต่อไปครับ